การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ใครก็คิดไม่ถึง
แต่เดิมคิดว่าเหตุการณ์จบลงแล้ว ใครจะรู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ จักรพรรดิเซียนหมิงกวงยังมีไพ่ตาย แปรเปลี่ยนเขาห้าองคุลีมาเป็นฝ่ามือของตัวเองได้ด้วย ช่วงเวลาสุดท้าย กลับสะกดควบคุมชายชราแซ่หม่า
ใจของหลี่มู่ตื่นตะลึงเป็นที่สุด
ก่อนหน้าที่จักรพรรดิเซียนหมิงกวงจะกลายเป็นมารบอกเอาไว้ว่า เขาห้าองคุลีแปรเปลี่ยนมาจากฝ่ามือของเขาที่ตัดเพื่อสะกดมารตนนั้นเอาไว้ ตอนนั้นฟังแล้วก็รู้สึกตกตะลึงนัก แต่คิดไม่ถึงว่าเขาห้าองคุลีจะสามารถแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นฝ่ามือได้ อีกทั้งยังมีพลังแข็งแกร่งไร้เทียมทานเช่นนี้ด้วย
หลี่มู่กระทั่งสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า จากการที่เขาห้าองคุลีแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นฝ่ามืออีกครั้ง พลังในพื้นดินของทั้งเขตเขาห้าองคุลีถูกสูบออกไป
เขาห้าองคุลีเหมือนกับค่ายกลห้าค่ายกลที่เชื่อมสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน หลอมรวมพลังในอาณาบริเวณหลายร้อยลี้เอาไว้ถึงพันปี จึงได้มีพลังประหนึ่งปกครองฟ้าดินเช่นนี้
ครืน ตูม!
ครืน ตูม ตูม!
ฝ่ามือกระดูกยักษ์สั่นไหวอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเป็นวานรยักษ์ขนทองกำลังดิ้นรนอยู่ข้างใต้ คิดจะกระแทกฝ่ามือนั้นออกมา
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหัวเราะเสียงเย็น “เป็นแมลงในกำมือของข้าแล้วยังคิดจะพลิกฟ้าหรือไร?”
ที่บริเวณมือที่ขาดของเขามีประกายแสงอักขระพร่างพรายหมุนวน พลังมรรคาแต่ละสายๆ ไหลเข้าไปในฝ่ามือกระดูกยักษ์ไม่หยุด ฝ่ามือก็มีแสงเจิดจ้าสีขาวซีดปะทุออกมาท่วมจมผืนฟ้า พลังน่าหวาดหวั่นเกินต้านทานแผ่ออกมาจากฝ่ามือยักษ์ กดอัดลงไปอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง
ครืน!
พื้นดินสั่นไหว
ฝ่ามือกระดูกยักษ์กดอัด สะกดวานรยักษ์สีทองที่อยู่กลางฝ่ามือลงไปในใต้ดินลึก
จากนั้นก็ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหว
“ท่านปู่หม่า…” เด็กหญิงตัวน้อยลุกขึ้น พุ่งไปทางฝ่ามือกระดูกยักษ์โซซัดโซเซ
หลี่มู่ตกใจ รีบคว้าเด็กน้อยกลับมา “อันตราย”
“ปล่อยข้า ข้าจะไปช่วยท่านปู่หม่า” เด็กหญิงตัวน้อยดิ้นรน ในหน้าเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา
หลี่มู่จับนางไว้ไม่ปล่อย
เด็กคนนี้พลังฝึกตนธรรมดา อีกทั้งตนยังแย่งตู้โตวและผ้าแพรแดงไปอีก หากพุ่งไปหน้าฝ่ามือกระดูกยักษ์ พลังน่าหวาดหวั่นนั่นแค่กวาดพัด ก็เกรงว่าจะสลายเป็นผง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องช่วยคนเลย
“นี่…” หมิงเยวี่ยตัวหน้ามึนก็แตกตื่นขึ้นแล้ว เอ่ยกระซิบเสียงต่ำ “คุณชาย สถานการณ์ไม่สู้ดี ในสามสิบหกกลยุทธ์ หนีเป็นแผนที่ดีที่สุด พวกเราหนีเถอะ”
กัวอวี่ชิงมองยังหลี่มู่ รอคำตัดสินใจจากเขา
หลี่มู่ส่ายหน้า
หนีไม่พ้น
และหลังจากตื่นตะลึงในช่วงเวลาสั้นๆ เหล่าผู้ฝึกฝนนอกพิภพดีใจเป็นล้นพ้น
แน่นอนว่าพวกเขาหวังให้จักรพรรดิเซียนสู้ชนะ
เหตุผลนั้นง่ายมาก ไม่ใช่แค่เพราะลิงแซ่หม่าเขาฮวากั่วตำหนิพวกเขาก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์เท่านั้น แต่ยิ่งเป็นเพราะจักรพรรดิเซียนหมิงกวงก่อนหน้ารับปากมอบมรดกและวิชาเซียนต่างๆ ให้พวกเขา หลังจากนี้จักรพรรดิเซียนหมิงกวงสู้ชนะ คำสัญญาถึงจะเป็นจริง
มิฉะนั้นพวกเขาก็เหมือนสุนัขงับฉี่หมู…
ดีใจเก้อ
อีกทั้งพวกเขาก็ไม่อยากให้พวกหลี่มู่มีชีวิตออกไปจากสุสานเซียน
นักโทษผู้ผิดบาปหนุ่มคนนี้น่ากลัวและแปลกประหลาดเกินไป ศักยภาพไร้ขีดจำกัด วันนี้จะต้องสังหารลงเสีย เพราะล่วงเกินเขาไปเต็มที่แล้ว ไม่มีโอกาสที่จะสมานฉันท์กับเขาได้ มิฉะนั้นตัดหญ้าไม่ถอนโคน สายลมวสันต์พัดผ่านก็งอกใหม่ ภัยร้ายภายหลังมหาศาล
ร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงลอยต่ำลงอย่างเนิบช้า
เขาไม่มีทีท่าดีใจอย่างหลังจากต่อสู้ชนะ สีหน้ากลับเคร่งเครียด
“แต่เดิมเป็นจุดจบที่เตรียมไว้ให้สัตว์อีกตัว สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าจะถูกเจ้าลิงนี่ทำเสียแผนเสียได้” ใบหน้าของเขามีรอยผิดหวังอย่างไม่ปกปิดสักนิด
คนทั้งหลายไม่เข้าใจว่าคำพูดนี้ของเขาหมายถึงอะไร
มีเพียงหลี่มู่เท่านั้นที่คล้ายครุ่นคิดอะไร
ต่อมา จักรพรรดิเซียนหมิงกวงก็มองมายังพวกหลี่มู่ เอ่ยเสียดสีเย็นชา “ท่าทางกำลังของนักโทษผู้ผิดบาปอย่างเจ้าจะยังไม่พอ ทรมานเจ้าขนาดนี้ก็ยังล่อสัตว์ตัวนั้นออกมาไม่ได้…ไม่ก็มันจากไปแล้วจริงๆ ไม่ก็เจ้าเป็นเพียงหมากที่ถูกทิ้งก็เท่านั้น”
คนอื่นๆ ต่างไม่เข้าใจว่าประโยคนี้ของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงหมายถึงอะไร
แต่จากอีกด้านหนึ่งก็เข้าใจในอีกเรื่องหนึ่งอยู่เลาๆ…
ทำไมก่อนหน้านี้เขาจึงไม่ฆ่าหลี่มู่ให้จบๆ ไปเสีย แต่กลับสุ่มให้พวกผู้ฝึกฝนนอกพิภพสลับกันออกมา สุดท้าย หลี่มู่ตกอยู่ในสภาวะสูญเสียกำลังตอบโต้ก็ยังใช้วิธีเหี้ยมโหดทารุณ นี่ไม่ตรงกับจิตใจของบุคคลผู้อาวุโสที่มีชื่อมานาน ที่แท้ จะใช้หลี่มู่ล่อใครออกมานี่เอง
แม้แต่แปรเปลี่ยนเขาห้าองคุลีเป็นฝ่ามือกระดูกยักษ์ ก็วางเอาไว้เพื่อล่อเขาคนนั้นออกมา
น่าเสียดาย คนที่ทำให้จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหวาดเกรงได้ถึงขนาดนี้กลับไม่ปรากฏตัว
ลิงระดับขั้นขุนพลที่มาจากเขาฮวากั่วทำแผนของเขายุ่งเหยิง
หลี่มู่ก็ตั้งตัวกลับมาเช่นกัน
ที่แท้ ทุกสิ่งของจักรพรรดิเซียนก่อนหน้านี้อย่างใช้เลือดหมิงเยวี่ยมาฟื้นฟูพลังอย่างระมัดระวัง ร้องขอโอสถที่ปรับเสริมรากฐานพลังจากผู้ฝึกฝนนอกพิภพอะไรพวกนั้น ล้วนแต่เป็นการแสดงละครนี่นา
แสดงได้สมจริงขนาดนี้ ก็เพราะกังวลคนผู้คนนั้นจะแอบสังเกต ลงมือกับเขาอย่างนั้นรึ?
นี่มันช่าง…
ชีวิตคนเหมือนดั่งละคร ล้วนอาศัยทักษะการแสดง
บุคคลระดับจักรพรรดิเซียนก็เล่นละครได้ขนาดนี้เลย?
เป็นคนแบบใดกันที่สามารถทำให้จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหวาดกลัวได้ถึงระดับนี้
หลี่มู่ทายอยู่ในใจ
และในตอนนี้เอง สายตาของจักรพรรดิหมิงกวงสุดท้ายหยุดที่ร่างของหลี่มู่ แล้วส่ายหน้า “หมากที่ไร้ประโยชน์จะเก็บเอาไว้ทำไม? เจ้าตายไปเสียเถอะ” พูดแล้วก็ยกมือชี้ออกไป
หลี่มู่พูดเสียงดังรนลาน “เดี๋ยวก่อน ข้ายังมีอะไรจะพูด”
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงขมวดคิด แต่ก็ยังเลือกที่จะหยุดมือ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ว่ามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา