จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 466

เมื่อเห็นสายตาของหลี่มู่กวาดลงมา พริบตานั้นเหล่าผู้บําเพ็ญ สํานักนอกพิภพล้วนเกือบจะตกใจจนฉี่ราด

การตายของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง พวกเขาล้วนเห็นอยู่คาตา

สุดยอดวิถียุทธ์ที่ร้ายกาจคนหนึ่งเช่นนี้ ถูกหลี่มู่ตีเหมือนกระสอบ ทราย ท้ายสุดก็ถูกตีจนระเบิดตายไปทั้งเป็น…อย่างน้อยในสิ่งที่พวกเขา เห็นก็เป็นเช่นนี้

อํามหิต

อํามหิตเกินไปแล้ว

ในสายตาของเหล่าผู้บําเพ็ญนอกพิภพ หลี่มู่ได้ถูกยกระดับจาก กระสอบทรายน่าแกล้ง กลายเป็นราชามารไปแล้ว

“พวกเจ้าเมื่อครู่ไม่ใช่ว่าจะสังหารข้าเหมือนสุนัขไม่ใช่หรือ?” หลี่มู่ หัวเราะอย่างไม่มีเจตนาดี ใบหน้าหลงระเริงกับยิ้มชั่วร้าย เอ่ยต่อว่า “มาสิ ข้าให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง เข้ามาสังหารข้าเลย”

เหล่าผู้บําเพ็ญนอกพิภพหน้าถอดสี กล้าตอบกลับเสียที่ไหน?

โดยเฉพาะคนที่เอะอะดุร้ายที่สุดก่อนหน้าอย่าง ‘ดาบมาร’ จ่างซุน ฉางคง และชายหนุ่มเผ่าผู้วิเศษ สีหน้าทั้งเขียวทั้งแดง เพราะทั้ง หวาดกลัวและผวา สีหน้าบิดเบี้ยวไปหมด อยากจะตบฉาดเข้าที่หน้า ตัวเองเสียจริง

ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ก็คงจะหลบอยู่ด้านหนึ่งเงียบๆ ไปแล้ว

ทําไมจะต้องรนหาที่ตายด้วย

เวลานี้ คนมากมายล้วนอิจฉาชายชุดดําสะพายดาบกับสองสาวพี่ น้องนั่นขึ้นมาแล้ว

อย่างไม่ต้องสงสัย คนเหล่านี้ตอนที่เผชิญกับการสุ่มชี้ก่อนหน้า ของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง ล้วนปฏิเสธที่จะลงมือต่อหลี่มู่ พวกเขา เดิมพันถูกแล้ว เชื่อมั่นว่าหลี่มู่ในตอนนี้จะไม่มีทางทําอันตรายพวกเขา

ตูม!

หลุมลึกที่เกิดขึ้นจากการตบของฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวที่อยู่ห่าง ออกไป วานรยักษ์สีทองเหลืองได้กระโดดขึ้นมา

ขนสีทองทั่วตัวของเขาค่อยๆ หดลงไป หางก็หายไป ร่างกายหด เล็กลงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ กลับมาเป็นชายชราร่างสูงใหญ่

แสงสีทองกลุ่มหนึ่งพันรัด ปิดบังร่างกายอันเปลือยเปล่า เพียงไม่นานก็ ได้ลอยเป็นเสื้อผ้าขึ้นมาหนึ่งชั้น คลุมร่างเขาเอาไว้

“ท่านปู่หม่า” นันนันพุ่งเข้าไปด้วยอาการดีอกดีใจ กระโดดขึ้นไป บนหัวไหล่ของชายชราสกุลหม่า “ท่านปู่หม่าไม่เป็นไรใช่ไหม เมื่อครู่คน เลวคนนี้ดึงข้าไว้ไม่ยอมให้ข้าไปช่วยท่าน” สาวน้อยชี้ไปยังหลี่มู่ด้วย ท่าทีขึงขัง

ชายชราสกุลหม่ามองไปที่หลี่มู่ผาดหนึ่งด้วยสีหน้าซับซ้อน

เขาถึงแม้จะถูกสะกดอยู่ใต้ดิน แต่รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ทั้งหมด

แต่ก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท้ายสุดหลี่มู่จะระเบิดพลังสังหารจักรพรรดิ เซียนหมิงกวงลงได้

นี่มันไม่น่าเชื่อเอามากๆ เขารู้ถึงที่มาของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง ด้วยเหตุนี้จึงรู้ว่าคนที่อยู่ในขั้นนี้ หากคิดจะสังหารมันลําบากขนาดไหน ระดับเทวะก็ยังไม่แน่ว่าจะทําได้ ทว่าชายหนุ่มนักโทษผู้ผิดบาปคนนี้ กลับ….

อดทอดถอนไม่ได้ วิธีที่นักโทษผู้ผิดบาปเหลือเอาไว้ช่างร้ายกาจยิ่ง นัก

มองออกว่า วัวดํานักโทษผู้ผิดบาปในครั้งนั้นแบ่งร่างพลังวิถียุทธ์ เอาไว้ส่วนหนึ่ง กรอกเข้าไปในร่างของชายหนุ่ม แต่ว่าหลี่มู่ที่ถูกเรียกว่า นักโทษผู้ผิดบาปคนนี้ก็ทวนสวรรค์ได้จริงๆ น่าจะมีวิธีการอื่นอะไรอยู่ อีก ถึงสามารถสังหารจักรพรรดิเซียนหมิงกวงลงได้อย่างหมดจด ทําใน สิ่งที่ระดับเทวะก็ยังทําไม่ได้ออกมา

ชายหนุ่มคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ชายชราสกุลหม่ามีลางสังหรณ์ ภัยพิบัติลมฝน ครั้งหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะหนุ่มน้อยนักโทษผุ้ผิดบาปคนนี้ จะถา โถมเข้าสู่ทางช้างเผือกในระยะเวลาอันใกล้

ทว่าในใจของเขา ไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจขับไล่อะไรกับตัวตน นักโทษผู้ผิดบาปของหลี่มู่นัก

เพราะเขาผลบุปผา ตัวตนและตํานานในทางช้างเผือกผืนนี้ จริงๆ แล้วไม่ได้แตกต่างจากนักโทษผู้ผิดบาปเลย ล้วนแบกหน้าที่และ ความผิดบาปที่ถูกผู้อื่นคอยบีบคั้นกดดันเช่นเดียวกัน ถูกใส่ร้ายป้ายสี เหยียดหยาม พันธนาการตัวตนเอาไว้กว่าพันปี ไม่เคยได้มีอิสระ

พวกบุคคลยิ่งใหญ่ที่คอยควบคุมทางช้างเผือกผืนนี้มีท่าทีเช่นไร เขายังเข้าใจชัดเจนยิ่งกว่าชายหนุ่มนักโทษผู้ผิดบาปที่ ‘มึนตึง’ คนนี้

“ขอบคุณมาก” ชายชราสกุลหม่าพยักหน้าให้หลี่มู่ จากนั้นไม่พูด ไม่จา แบกนันนันบนบ่าหันหลังเดินก้าวใหญ่ออกไปทันที

“เจ้าคนเลว ครั้งนี้เจ้าได้รับกรรมสนองแล้ว เกือบจะถูกคนอื่น สังหาร ได้รับบาปก็ถือว่าชดเชยให้กัน ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังช่วยท่านปู่ หม่าไว้ นันนันจะฝืนยอมให้อภัยเรื่องที่เจ้าแย่งเอี๊ยมไปก็แล้วกัน…คิกๆ ต่อไปถ้าหากเจ้ากล้ามาที่เขาผลบุปผา ข้าจะเลี้ยงผลท้อนะ”

สาวน้อยนันนันขี่คอชายชราสกุลหม่า หันศีรษะกลับมาโบกมือให้ห ลี่มู่

ใบหน้าของนางยังมีคราบน�าตาที่เป็นห่วงชายชราก่อนหน้านี้อยู่ ระยิบระยับแวววาว เปลี่ยนจากร้องไห้เป็นร้อยยิ้มใสบริสุทธิ์ ใบหน้า กลมมนดวงตาโต ผิวขาวนวลราวกับตุ๊กตาเคลือบ ในดวงตาปิดบัง อารมณ์ไว้ไม่ได้ ทุกอย่างแสดงออกผ่านสีหน้าหมด

หลี่มู่รีบประสานมือต่อแผ่นหลังของชายชราสกุลหม่า เอ่ยขึ้นด้วย เสียงอันดัง “ท่านอาวุโส ขอบคุณบุญคุณที่ช่วยเหลือข้าในวันนี้”

เขาขอบคุณออกมาจากใจจริง

ถ้าไม่ใช่เพราะชายชราสกุลหม่าปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ดึงดูดเอาความสนใจของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงไป เปิดโอกาสให้ชิง เฟิงเข้าไปทําลายผนึกใต้ดิน มิเช่นนั้นหลี่มู่ก็ยังไม่รู้ว่าตนเองจะต้องยอม

ต่อไปจนถึงระดับไหน ถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจทั้งหมดของ จักรพรรดิเซียนหมิงกวงไปได้

ถึงอย่างไรเจ้าเฒ่าคนนี้ก็เป็นถึงจักรพรรดิเซียนเลยนะ จิตสัมผัส เฉียบคมอย่างมาก ไม่ว่าจะการเคลื่อนไหวเช่นใดก็คงจะจับสัมผัสได้ ทั้งหมด และเพียงแค่เขาพบเข้า เรื่องในวันนี้จะราบรื่นเช่นนี้ได้อย่างไร น่ากลัวว่าคนที่พ่ายแพ้อาจจะเป็นหลี่มู่เองเสียด้วยซ�า

ชายชราโบกมือตอบอย่างไม่หันหลังกลับ เดินต่อไปไม่หยุด

“ท่านอาวุโสสามารถบอกชื่อเสียงเรียงนามได้หรือไม่ ภายภาคหน้า หากมีเรื่องใดที่จะใช้งานข้า สั่งลงมาได้ทันที” หลี่มู่เอ่ยขึ้นเสียงดัง

เมื่อได้รับบุญคุณ ต้องตอบแทนเท่าทวี

นี่คือหลักการของหลี่มู่

บุญคุณความแค้นแบ่งแยกชัดเจน

“ท่านปู่หม่าบอกว่า วันนี้เจ้าก็ช่วยเหลือเขา ดังนั้นไม่ต้องขอบคุณ เขา” เสียงของนันนัน ดังมาจากเส้นขอบฟ้า เอ่ยต่อว่า “ถ้าอยากรู้ชื่อ ของท่านปู่หม่า ก็ต้องดูว่าคนเลวอย่างเจ้า จะมีความกล้ามาหาเขาที่เขา ผลบุปผาในดาราจักรจื่อเวยหรือไม่ คิกๆๆ”

ท้ายสุด หนึ่งชราหนึ่งเด็กน้อย ได้ออกจากเขาห้าองคุลีที่กลายเป็น ซากปรักหักพังไปแล้ว

หลี่มู่เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่

“พี่มู่ นายเป็นอย่างไรบ้าง?” หวางซืออวี่ที่ในที่สุดก็พ้นจาก พันธนาการ พุ่งตรงเข้ามาอยู่ต่อหน้าหลี่มู่ ใบหน้าร้อนรนและเป็นห่วง คราบน�าตาบนใบหน้ายังไม่แห้งดี

หลี่มู่ยิ้มๆ วุ่นวายอยู่กับบาดแผลบนใบหน้า สูดปากออกมาด้วย ความเจ็บ ยกมือขึ้นเช็ดน�าตาแทนนาง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร แค่ กลัวเป็นแผลเท่านั้น ต้องบํารุงอีกเสียหน่อยจึงจะฟื้ นคืน…ยังไม่พูดเรื่อง นี้ดีกว่า ขอเราไปคิดบัญชีกับแกะห่อพัสดุก่อน”

พลังวิถียุทธ์ร่างแบ่งวัวดําที่กรอกเข้าไปในร่างของหลี่มู่ เวลามี จํากัด ไม่สามารถคงไว้ได้นาน

“ว่ามา พวกเจ้าต้องการจะตายอย่างไร?” หลี่มู่มองเหล่าผู้บําเพ็ญ เอ่ยขึ้นว่า “มีแค้นตอบแทนด้วยแค้น มีโทษตอบแทนด้วยโทษ พวกเจ้า เลือกได้ว่าบุกเดี่ยวหรือลุยหมู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ล้วนไม่ใช่คู่มือของข้า”

“อย่ารังแกกันมากไปนัก” ผู้บําเพ็ญสํานักนอกพิภพคนหนึ่งมองห ลี่มู่ พูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว “พวกข้าทําเรื่องผิดไป แค่ขอโทษไม่พอหรือ ไรกัน?”

ตูม!

หลี่มู่ชกเขาจนระเบิด

“กับพวกปัญญาอ่อนเช่นนี้ ขี้เกียจเสวนาด้วยจริงๆ” หลี่มู่ลอยตัว ขึ้นบนอากาศดูดเอาอุปกรณ์สิ่งของที่หล่นออกลงมาจนเรียบ จากนั้นส่ง ต่อไปให้หมิงเยวี่ย “แบ่งประเภทไว้ เดี๋ยวค่อยๆ จัด”

“ได้เลย” หมิงเยวี่ยหน้าชื่นตาบาน

กลุ่มเป่าสีดีดร้องทั้งสี่ ก็หน้าแดงด้วยความดีใจ

ฟื้ นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง

ใช้คํานี้มาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของพวกเขา ถือว่าถูกต้อง อย่างที่สุด

จากการที่หลี่มู่ได้ชัยมา ฐานะของพวกเขาก็พลิกกลับอย่างสิ้นเชิง

ทั้งสี่คนอดดีใจกับความฉลาดและโชคดีในการเลือกของตนเอง ก่อนหน้าไม่ได้

ถ้าหากพวกเขาตอนนั้นเลือกที่จะทิ้งหลี่มู่ ตอนนี้หากจะได้รับการ ยอมรับจากหลี่มู่ก็คงยากแล้ว และถ้าไม่ถูกหลี่มู่ยอมรับ ก็จะถูกเหล่าขั้ว

อํานาจจากดาราจักรวีรชนไล่สังหาร ยายก็ไม่รักน้าก็ไม่เอา อยู่ตรงไหน ก็ไม่ใช่คน

ตอนนี้กอดขาหลี่มู่เอาไว้ ภายภาคหน้ายังมีมีทางหนีทีไล่ดึง สถานการณ์กลับมา สํานักกําเนิดฟ้าอาจจะมีความหวังสร้างตัวใหม่อีก ครั้ง

“หลี่มู่ อย่าได้สังหารกันถึงที่สุดเลย ภายภาคหน้าเจ้ายังต้องออก จากโลกใบนี้ เข้าสู่ดาราจักรเทพวีรชน ศัตรูมากมายร้อยพัน อนาคตใน ดาราจักร หากเจ้ามีแต่ศัตรูก็จะก้าวต่อได้อย่างลําบาก” ผู้บําเพ็ญนอก พิภพคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

หลี่มู่ไม่แม้แต่จะมอง ชกออกไปอีกหมัดระเบิดร่างเขา ดูดเอา สมบัติบนตัวเขามาจนหมด

“ตอนนี้มาพูดไร้สาระกับข้าแบบนี้หรือ?” หลี่มู่ทําให้หนังหน้าและ มาตรวัดความฉลาดของคนเหล่านี้ร้อนรนขึ้นมาจริงๆ เอ่ยว่า “ต่อให้ข้า ไม่สังหารพวกเจ้า ต่อไปภายหลัง พวกเจ้าจะปล่อยข้าไปหรือ?”

“ข้าสาบาน…” ผู้บําเพ็ญนอกพิภพคนหนึ่งรีบร้อนยกนิ้ว ทําท่า สาบาน

ตูม!

เขาถูกชกระเบิดไปอีกคน

หลี่มู่ดูดเอาสมบัติของคนคนนี้เข้ามา เอ่ยว่า “ขอโทษด้วย ข้าไม่ เชื่อคําสาบานของคนสองหน้าอย่างพวกเจ้า”

“ดูท่าพวกเราคงไม่มีทางรอดแล้ว พวกเราเข้าไปสู้กับเขาพร้อมกัน เลยดีกว่า” ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่เคยประกาศศักดาว่าจะสังหารหลี่มู่ เพื่อจักรพรรดิเซียนหมิงกวงก่อนหน้า ตะโกนปลุกปั่ นคนอื่นๆ

ตูม!

ถูกชกระเบิดเช่นกัน

“หมูอ้วนกอดกันขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ก็ไม่ใช่คู่มือของราชสีห์ ตื่นกันเสีย ที เลิกฝันได้แล้ว” หลี่มู่เย้ยหยันอย่างไม่เกรงใจ ดูดเอาสมบัติของคนนี้ เข้ามา

“อ๊า…” มีคนที่ทนรับกับแรงกดดันเช่นนี้ไว้ไม่ไหว จิตใจพังทลาย กรีดร้องเสียงแหลม หันหลังหนี

ตูม!

ระเบิดตามไป

สมบัติหล่นเข้าใส่มือหลี่มู่

“ควรอภัยก็ควรให้อภัย…” ตูม!

“เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่ พวกเรา…” ตูม!

“ถุด เจ้ามารคลั่งสังหารคนเช่นเจ้า ไม่มีทางตายดี” ตูม!

“ไม่ๆๆ ข้ายังไม่อยากตาย ช่วยข้าด้วย อย่าสังหารข้า ข้ายอมเป็น วัวเป็นควาย…”

ตูม!

หลี่มู่หนึ่งหมัดหนึ่งคนราวกับทุบแตงกวา ซัดพวกผู้บําเพ็ญหน้าไม่ อายกลุ่มนี้ระเบิดไปทีละคน

ท้ายสุด เหลือเพียง ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง ชายหนุ่มเผ่าผู้วิเศษ จักรพรรดิฉินหมิง ชวีอ๋องเจียงชิงหรวน องครักษ์ติดตามชุดดํา รวมไป ถึงผู้แข็งแกร่งสํานักค่ายกลสวรรค์อีกสิบกว่าคน

พวกเขาล้วนเป็นคนที่ไม่พูดอะไรไร้สาระออกมาก่อนหน้า ยืนนิ่ง อยู่กับที่ ทั้งหวาดกลัวทั้งโกรธแค้น ทั้งสิ้นหวัง แต่ว่าไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก ออกมา

เพราะพวกเขามองกฎเกณฑ์ออกแล้ว ใครพูดคนนั้นก็ถูกหลี่มู่ชก

ผู้บําเพ็ญนอกพิภพนับร้อยถูกหลี่มู่สังหารทิ้งเหมือนฟันต้นกุยช่าย จนเหลือเพียงสิบกว่าคน เป็นไอสังหารอันป่าเถื่อนจริงๆ

ในอากาศ คลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดแทงจมูก

พื้นที่ซากปรักหักพังของเข้าห้าองคุลีคล้ายกับลานเชือดหมูอย่างไร อย่างนั้น

ที่เหลืออยู่สิบกว่าคน ล้วนตกใจจนจะเป็นบ้ากันหมดแล้ว

สายตาของหลี่มู่แฉลบไปบนร่างทั้งสิบกว่าคนนี้ ไม่พูดจา ล้วงเอา ดาบยาวที่เก็บได้จากเมืองรอบนอกในช่องเก็บของมิติออกมา ฟาดฟัน ไปยังจ่างซุนฉางคง

“เจ้า…” จ่างซุนฉางคงตกใจ ชักดาบรับขึ้นมาด้วยสัญชาติญาณ

ชิ้ง!

คมดาบประสานกัน

จ่างซุนฉางคงที่เดิมทีสิ้นหวังไปแล้ว กลับค้นพบอย่างประหลาดใจ ที่ตนเองสามารถรับดาบนี้ไว้อยู่

บทที่ 466 คิดบัญชีทีละราย 1

บทที่ 466 คิดบัญชีทีละราย 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา