โจวเจิ้นไห่ตะโกนลั่นในใจ
จากนั้นเขาก็ฉวยจังหวะวุ่นวายหมุนตัวจากไปด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมและลิงโลด
ลมเย็นยามราตรีพัดปะทะใบหน้าเหี้ยมโหดของโจวเจิ้นไห่ที่กำลังเหินทะยาน
โจวอู่ลูกชายของตนเป็นถึงผู้ช่วยขุนนางเมือง แต่หลี่มู่กลับสังหารเขา
อำนาจอิทธิพลที่ตระกูลโจวทุ่มเทจัดการบริหารในเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์มาหลายปีแหลกสลายลงในชั่วข้ามคืน
โจวเจิ้นไห่คิดถึงเรื่องแก้แค้นในทุกขณะจิต
ครั้งนี้ เขายุยงพี่ใหญ่โจวเจิ้นเยวี่ยให้มาเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์ ก็เพราะคิดจะยืมพลังของสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์แก้แค้น
แต่หลายวันที่ผ่านนี้ ใจของเขาต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พลังของหลี่มู่แข็งแกร่งเกินไป
โดยเฉพาะหลังจากงานประลองของสองสำนักที่ซากพรรคเสินหนง โจวเจิ้นไห่ตระหนักได้ว่าด้วยกำลังของตน หากคิดจะแก้แค้นก็เป็นความฝันลมๆ แล้งๆ ของคนโง่ชัดๆ ส่วนพี่ใหญ่โจวเจิ้นเยวี่ยก็เหมือนจะไม่สนใจความแค้นของตระกูลโจว คอยผัดมาตลอดจนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่ารออะไรอยู่
แต่โจวเจิ้นไห่รอไม่ไหวอีกแล้ว
เพราะเขาเห็นการพัฒนาของหลี่มู่
ศัตรูคนนี้กำลังแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง
คนอื่นอาจจะตระหนักไม่ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่เขากลับสัมผัสมันได้อย่างลึกซึ้งยิ่ง
เพราะในโลกนี้ คนที่เข้าใจเรามากที่สุดมักไม่ใช่คนใกล้ชิด แต่เป็นศัตรู
หากปล่อยให้ศัตรูคนนี้พัฒนาต่อไป เกรงว่าเขาคงรอไม่ถึงวันที่แก้แค้นสำเร็จแน่
ดังนั้นเขาจึงเสี่ยงอันตราย ใช้เวลาสักหน่อย จ่ายค่าตอบแทนเล็กน้อย แอบยุยงหลอกล่อลูกศิษย์สำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์สามสี่คนให้มาลอบโจมตีหลี่มู่
แต่การลอบโจมตีที่ว่า นับตั้งแต่แรกเขาก็ไม่หวังว่าจะสำเร็จ
เขารู้ดีว่าลูกศิษย์สำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์ที่หยิ่งยโสจนเข้าขั้นโง่ทั้งสี่คนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่มู่เลย
เขาก็แค่คิดจะสร้างโอกาสให้หลี่มู่สังหารศิษย์สำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์เท่านั้น
เช่นนี้ก็จะสามารถทำให้สำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์ที่รักแต่พวกพ้องตนโมโหเดือดดาล แล้วจึงค่อยยืมมือฆ่าคน ใช้พลังของสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์ทำลายหลี่มู่
แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องนักพรตตาบอดกับอีกาถล่มที่ว่าการอำเภอ
โจวเจิ้นไห่ผู้เจ้าเล่ห์เพทุบายรู้ทันทีว่าโอกาสมาถึงแล้ว
อีกทั้งยังเป็นโอกาสทองเสียด้วย
เขาตัดสินใจพาศิษย์สำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์เข้าไปในที่ว่าการทันที จากนั้นก็ใช้ยาสลบรมพวกเขาแล้วฆ่าทิ้งทีละคน
ขอแค่มีคนตายอยู่ในที่ว่าการอำเภอก็พอแล้ว
เพราะโจวเจิ้นไห่เข้าใจคนฝึกกระบี่ของสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์พวกนี้เป็นอย่างดี ความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาเหมือนกับกระบี่ เป็นความคิดตรงๆ ไม่ซับซ้อนสักนิด อารมณ์ฉุนเฉียวบุ่มบ่าม ทั้งยังรักพวกพ้อง หากพบว่าลูกศิษย์ตายอยู่ในที่ว่าการอำเภอ หลี่มู่จะตกเป็นเป้าโจมตีแรกอย่างแน่นอน
“หลี่มู่ รอก่อนเถอะ วันสุดท้ายของเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว”
โจวเจิ้นไห่ใช้ความมืดมิดอำพรางกาย หายไปในป่าลึกของเมืองภูเขา
…………
ในที่สุดหลี่มู่ก็มาถึงที่ว่าการอำเภอ
ประตูใหญ่ของที่ว่าการพังทลาย หน้าต่างเสียหาย กำแพงแตกร้าว อิฐกระเบื้องกองระเกะระกะ ฝุ่นธุลีปลิวฟุ้ง…
ราวกับผ่านการรื้อถอนมาอย่างไรอย่างนั้น
ยังมีมือปราบที่ได้รับบาดเจ็บบางคนครางโอดโอยอยู่อีกด้าน
หลี่มู่ก้าวเท้าพุ่งเข้าไป
หม่าจวินอู่ตามอยู่ข้างหลังอย่างมึนงง
เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้จบไปแล้ว
มือปราบที่ท่าทางเหมือนหัวหน้าคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหมอบเคารพ พูดด้วยสีหน้าละอายใจว่า “ใต้เท้า ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจต้านทานนักพรตชั่วนั่นได้ ขอใต้เท้าโปรดลงโทษ…”
หลี่มู่ยกมือตัดบทคำพูดของเขา “ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ พี่น้องเราบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อเขากล่าวประโยคนี้ออกมา ไม่ใช่แค่หม่าจวินอู่กับหัวหน้ามือปราบคนนี้เท่านั้น แม้แต่มือปราบที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่เหล่านั้นต่างก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นทันใด
แต่เดิมพวกเขารู้สึกว่าครั้งนี้ป้องกันดูแลไม่ได้ ใต้เท้าขุนนางเมืองจะต้องลงโทษอย่างแน่นอน
“นักพรตนั่นเหมือนไม่ได้คิดฆ่าคน ดังนั้นพี่น้องเราจึงแค่ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครโดนฆ่าตายขอรับ…” หัวหน้ามือปราบตอบ
หลี่มู่พยักหน้าให้ ยามกำลังจะพูดอะไรก็พลันได้กลิ่นคาวเลือด
ร่างของเขากะพริบวูบมาถึงยังกำแพงที่ถล่มลงมุมหนึ่ง
ในเศษซากกองอิฐ ร่างที่อยู่ในชุดธรรมดาของคนทั้งสี่นอนจมกองเลือดตัวแข็งอยู่ บนร่างมีรอยดาบ เลือดไหลหมดตัว ร่างเย็นชืดแล้ว แน่นิ่งตายสนิท
หม่าจวินอู่และหัวหน้ามือปราบคนนั้นตามมา เพียงแค่เห็นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้สิ เมื่อครู่ข้านับแล้วรอบหนึ่ง พี่น้องเราล้วนอยู่ครบ…เป็นไปได้อย่างไร?” มือปราบคนนั้นขนลุกซู่ขึ้นมาทันควัน
“เป็นพวกที่ออกจากเวรได้ยินความเคลื่อนไหวจึงย้อนกลับมาหรือเปล่า?” หม่าจวินอู่ถาม
“เรื่องนี้…” หัวหน้ามือปราบไม่ค่อยแน่ใจแล้ว
มือปราบในที่ว่าการล้วนสับเปลี่ยนเวรยามกันตลอด
เขาเป็นหัวหน้ามือปราบของเวรคืนนี้ รู้จักมือปราบที่ตนดูแลอยู่ แต่ไม่ได้รู้จักมือปราบของที่ว่าการอำเภอทั้งหมด
“เก็บร่างของพวกเขาก่อน ตรวจดูว่าเป็นคนจากกองไหน” หลี่มู่บัญชา
เพลิงโทสะในใจของเขาลุกโชนขึ้นแล้ว
ครั้งที่แล้วคนของพรรคเสินหนงสังหารจางหรูตาย เขาก็โค่นล้มทำลายพรรคเสินหนงเสีย
วันนี้ นักพรตผู้หนึ่งจู่ๆ ปรากฏตัวขึ้นมาและสังหารมือปราบไปสี่คน อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด
“ชิงเฟิงล่ะ?” หลี่มู่ถามเสียงดังก่อนกวาดสายตาไปรอบๆ นึกเป็นกังวลขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าเด็กรับใช้บัณฑิตปีศาจน้อยโดนจับไปพร้อมหมิงเยวี่ยหรอกนะ?
“คุณชาย ข้า…ข้าอยู่นี่…”
เสียงอ่อนระโหยดังออกมาจากใต้กำแพงที่ถล่ม
คนอื่นไม่ได้ยิน แต่หูของหลี่มู่ฉับไวนัก จับได้ทันทีว่าเป็นเสียงของเด็กรับใช้บัณฑิตชิงเฟิง เหมือนว่ากำแพงจะถล่มทับเขาจนออกมาไม่ได้
บ้าเอ๊ย
คงไม่โดนทับตายหรอกนะ?
ความคิดอัปมงคลต่างๆ ผุดขึ้นในใจของหลี่มู่
เขามายังกำแพงที่ถล่มลงอย่างรวดเร็ว แล้วรื้อเศษอิฐเศษปูนออกอย่างระมัดระวัง
เด็กรับใช้บัณฑิตชิงเฟิงมุดออกมาจากข้างใต้อย่างกับปลาหนีชิว[1]
“คุณชายขอรับ อีกาตัวนั้นจับหมิงเยวี่ยไป บินไปข้างหลังที่ว่าการแล้ว…นางอยู่ในอันตราย รีบ รีบไปช่วยนางเร็วเข้า…” ครั้นชิงเฟิงออกมาก็ชี้ไปข้างหลังที่ว่าการอย่างร้อนใจ
หลี่มู่ประเมินปีศาจน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าหลายครา
ยังดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา