จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 75

บทที่ 75 ลงมือ • ทลายหินสะเทือนฟ้า
ProjectZyphon
ในหัวของหลี่มู่ย้อนนึกถึง ‘วิชาเวท’ มั่วซั่วที่ซินแสเฒ่าถ่ายทอดให้ไม่หยุด นึกย้อนถึงรายละเอียดบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะเดียวกันก็สังเกตท่าประสานปางมือของจอมเวทวัยกลางคนชุดดำกับ ‘ใจมาร’ หลิงลี่อย่างละเอียด จนกระทั่งเริ่มบรรลุบางสิ่งได้

ใต้แสงจันทร์ จังหวะการหายใจของหลี่มู่แปลกประหลาด

เขาค่อยๆ เข้าสู่จังหวะการหายใจที่พิเศษเฉพาะของวิชาก่อนกำเนิด

อีกทั้งจากการเปลี่ยนแปลงของจิตใจและจุดสนใจที่ต่างกัน เขารู้สึกรางๆ ว่าโคจรวิชาก่อนกำเนิดในสภาวะเช่นนี้เหมือนจะมีความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน

คลับคล้ายผ้าโปร่งบางผืนหนึ่งกลางท้องฟ้าถูกเก็บออกไปอย่างช้าๆ

เมื่อไม่มีผ้าโปร่งบางปิดบังไว้ สิ่งที่เขาเห็น ของบางอย่างจึงชัดเจนขึ้น

เขาขยับนิ้วมือ

อากาศหนืดข้นเหมือนน้ำ

แน่นอน อากาศไม่ได้เปลี่ยนไป

แต่เป็นการรับรู้ของเขาที่เปลี่ยนแปลง

นิ้วของเขาสัมผัสได้ถึงความฝืดสากนิดๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

เสมือนว่าในอากาศมีพลังไร้รูปร่างที่ไม่เคยพบเห็นพันล้อมอยู่รอบนิ้วของเขา

‘เคล็ดวิชาอัสนี…ตราประทับอัสนี’

หลี่มู่ท่องในใจ ลองใช้มือซ้ายประสานปางมือ

นี่เป็นท่าประสานปางมือที่ซินแสเฒ่าเคยใช้ และเคยพรรณนาถึงความสำคัญของมันให้เขาฟังในยามว่าง แต่ว่าหลี่มู่ในตอนนั้นดูถูก ไม่ได้สนใจอะไรนัก

ถึงกระนั้น สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น

แสงอัสนีสายหนึ่งแผ่ออกมาจากนิ้วทั้งห้าของเขาแล้ววิ่งออกไป

ฝ่ามือและนิ้วชา ยากจะบรรยายเป็นคำพูดได้

ใจของหลี่มู่สั่นสะท้านรุนแรง

เขาสัมผัสได้แล้ว พลังที่แตกต่างไปจากพลังวิถียุทธ์กำลังถือกำเนิดขึ้นช้าๆ ที่กลางฝ่ามือของตน

มัน…ง่ายขนาดนี้เลย?

สำเร็จแล้ว

ถึงแม้จะเตรียมใจเอาไว้บ้างเล็กน้อย แต่ความทึ่งและตื่นเต้นในใจของเขาก็ยังคงยากจะบรรยาย

นี่ก็คือวิชาเวท?

ง่ายดายขนาดนี้เลย?

วิชาที่ซินแสเฒ่าเอามาใช้หลอกลวงบนโลก คือวิชาเวทของเทพเซียนจริงๆ?

หลี่มู่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแบบนั้นตรงระหว่างฝ่ามือ ความเลื่อมใสต่อซินแสเฒ่าในใจราวสายน้ำทะลักล้น และยิ่งเหมือนกับแม่น้ำหวงเอ่อท้นไม่อาจเก็บเอาไว้ได้

จากนั้นเขาพลันรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ

หากรู้ก่อนว่าซินแสเฒ่าไม่ได้พูดโม้แต่มีฝีมือจริงๆ เขาควรรักษาช่วงเวลาที่ได้อยู่กับซินแสเฒ่าเอาไว้ให้ดี หาเครื่องบันทึกภาพอัดทุกคำพูดทุกการกระทำเอาไว้ ไม่แน่ว่าอาจจะค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้

ซินแสเฒ่าคือเทพเซียนจริงๆ

หลี่มู่ทอดถอนใจออกมาเช่นนี้ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว

แต่เพราะจิตใจวอกแวกในเสี้ยวขณะนี้เอง ทำให้ตอนที่เสียสมาธิ แสงสายฟ้าในมือเพียงถูกลมพัดก็สลายไป

“ประมาทไปแล้ว”

หลี่มู่ตระหนักได้ว่าการควบคุมวิชาเวทจะต้องรวบรวมสมาธิ จิตใจต้องรวมเป็นหนึ่งเสียยิ่งกว่าตอนสำแดงกระบวนท่าวิทยายุทธ์

หากเสียสมาธิ จิตแตกซ่าน วิชาเวทก็จะสลายไปเช่นกัน

อีกทั้งอย่างไรเสียเขาก็เพิ่งบรรลุเงื่อนงำของวิชาเวทได้เล็กน้อย จึงควบคุมไม่ถนัดอย่างเลี่ยงไม่ได้

ในยามที่หลี่มู่เตรียมจะลองอีกครั้ง ขอทานเฒ่าก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเขาอย่างเงียบงันราวกับวิญญาณ

“มองอย่างเดียวอยู่ทำไม? ลงมือช่วยสิ” ขอทานเฒ่าพูดพร้อมแยกเขี้ยว

ดูจากท่าทางของเขา น่าจะไม่พบสิ่งผิดปกติที่ฝ่ามือของหลี่มู่เมื่อครู่

หลี่มู่เขยิบออกไปข้างๆ สังเกตสีหน้าท่าทางของขอทานเฒ่าอย่างละเอียด เขาทิ้งความคิดที่จะลองรวบรวมสายฟ้าพลังเวทขึ้นอีกครั้ง และกล่าวอย่างจนคำพูด “ข้าสนิทกับเจ้าดีหรือไร?”

ขอทานเฒ่าหัวเราะฮี่ๆ “อาศัยพวกเขาสี่คน แม้แต่เกล็ดเจียวก็ไม่มีทางขอดออกมาได้หรอก หากเสียเวลาต่อไปฟ้าก็จะสางแล้ว ใต้แสงสว่างเจียวจะจำศีล เจียวสามารถดำอยู่ใต้พื้นพิภพและซ่อนอยู่ใต้น้ำได้ หากมันซ่อนตัวก็ยากที่จะบีบให้ออกมาอีกครั้ง”

หลี่มู่เบ้ปาก “เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?”

“หรือเจ้าไม่คิดอยากได้ของวิเศษจากเจียว?” ขอทานเฒ่าท่าทางเหมือนบอกว่า ‘เจ้าอย่ามาเสแสร้ง’

“ไม่อยากได้” หลี่มู่พูดอย่างจริงจัง “เจียวตัวนี้เติบโตอยู่ข้างล่างที่ว่าการอำเภอขาวพิสุทธิ์ เป็นสัตว์เทพที่ข้าเลี้ยงดูมาอย่างยากลำบาก พวกเจ้าพวกต่างด้าวมาแย่งของของข้าในถิ่นข้า ยังจะคิดให้ข้าช่วยเจ้าอีกรึ?”

“ข้า…เจ้าเลี้ยง?” ขอทานเฒ่าได้ยิน ดวงตาแทบจะกลอกครบรอบ ไร้คำพูดอยู่นาน หลังจากนั้นครู่หนึ่งถึงถอนหายใจพูด “ข้าประเมินความหน้าด้านของเจ้าต่ำไปแล้ว”

หลี่มู่หัวเราะฮิๆ

ขอทานเฒ่าเอ่ยขึ้นอีก “ต่อให้เจ้าไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดเพื่อนางหน่อย”

เขาชี้ไปที่โลลิน้อยหน้ามึนหมิงเยวี่ย

“เจ้าไม่รู้สึกว่าคืนนี้นังหนูนี่ผิดปกติอยู่หน่อยๆ รึ?” ขอทานเฒ่ากล่าวอย่างลึกลับ

ประโยคที่ว่า ‘ผิดปกติตรงไหน’ ของหลี่มู่เกือบจะหลุดออกจากปาก

แต่เขาหันกลับไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ กลับเห็นหมิงเยวี่ยน้อยอยู่ข้างๆ ตนเองอย่างเงียบเรียบร้อยราวกับกินยากล่อมประสาทเข้าไป จึงรู้สึกได้ทันทีว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล

ใช่แล้ว ทำไมคืนนี้ยัยเด็กไร้ความคิดถึงเงียบขนาดนี้กันล่ะเนี่ย?

ด้วยนิสัยของเด็กน้อยผู้โง่เขลาตามปกติ น่าจะเป็นเวลาที่นางร้องโหวกเหวกตื่นเต้น เหมือนกับตอนที่เจียวเพิ่งปรากฏตัวออกมา แต่ตอนนี้นางกลับนั่งเรียบร้อยเหมือนกระต่าย…หรือว่าจะเปลี่ยนนิสัยไปแล้ว?

“ในร่างของนางมีภูตปีศาจสิงอยู่” ขอทานเฒ่ากล่าวอย่างถ้าวันนี้ทำให้ตกใจไม่ได้ก็จะไม่เลิกรา

“มีภูตปีศาจสิงอยู่?” หลี่มู่อึ้งไป

“ใช่แล้ว นี่ก็คือหนึ่งร่างสองวิญญาณที่เขาว่ากัน นอกจากวิญญาณของตัวนางเองแล้ว ยังมีภูตปีศาจหายากอีกตัวหนึ่งสิงอยู่ในร่าง และเกี่ยวพันกับวิญญาณของนาง สภาวะเช่นนี้หายากยิ่ง อันตรายมาก หากสยบภูตปีศาจในกายของนางได้ไม่ทันเวลา ผ่านไปอีกไม่กี่ปี เมื่อภูตปีศาจนั่นเติบโตขึ้นก็จะกัดกินร่างเจ้าของ ภูตปีศาจจะกลืนกินสามจิตเจ็ดวิญญาณ[1]ของนาง จากนั้นนางจะเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคน”

ขอทานเฒ่าพูดอย่างจริงจัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา