ส่วนขอทานเฒ่าก็ยืนขยี้ตาตัวเองไม่หยุดอยู่อีกด้านหนึ่ง
ในแววตาขลาดกลัวของหมิงเยวี่ยน้อยมีแววโล่งใจ
ส่วนใจของโจวเข่อเอ๋อร์ในตอนนี้มีเพียงแค่ความคิดเดียว
ดีที่ตอนนั้นขัดขวางญาติผู้พี่ที่จะไปยั่วยุขุนนางเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์หลี่มู่เพราะเรื่อง ‘ธนูรั้งจันทรา’ ไว้
มิฉะนั้นแล้ว ตอนนี้คนที่จะถูกหลี่มู่เหวี่ยงฟาดไปมาจนแทบจะนอนเดี้ยงดูแลตัวเองไม่ได้ อาจไม่ใช่เจียวแต่เป็นญาติผู้พี่หลิงลี่แทน
ส่วนจอมเวทชุดดำวัยกลางคนคลานออกมาจากกองหินด้วยร่างอาบเลือด
เห็นได้ชัดว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ขาข้างหนึ่งยังกะเผลก พลังเวทกระจายไปไม่น้อย มีเพียงแค่ลมสีดำจางๆคุ้มกายของเขาอยู่ จึงยังพอมีพลังปกป้องตัวเองอยู่บ้าง เพียงแต่สีหน้าของเขาไม่ได้ดีกว่าพวกขอทานเฒ่าคนอื่นๆ สักเท่าไหร่ และตื่นตะลึงจนพูดไม่ออก
เขารู้ได้ทันทีว่า การวิเคราะห์เด็กหนุ่มของตนก่อนหน้านี้ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง
ขุนนางเมืองคนนี้ไม่ใช่ควรค่าจะดึงเป็นพวก แต่จะต้องดึงมาเป็นพวกให้ได้
กระทั่งว่า…ต้องเอาใจด้วย
หากได้การช่วยเหลือจากบุคคลเยี่ยมยอดเช่นนี้ สถานการณ์ขององค์หญิงกับฝ่าบาทน้อยอาจไม่ถึงขั้นพลิกผัน แต่จะต้องดีขึ้นมากๆ แน่ จะไม่อยู่ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำเอาตัวแทบไม่รอดเหมือนตอนนี้แน่นอน
ตูม ตูม ตูม!
“ใครใช้ให้เจ้าทำเสื้อข้าขาด…”
หลี่มู่ที่อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งกระหน่ำซัดเจียวยักษ์เหมือนคนบ้า
“รีบๆ เอาเลือดถังหนึ่งมาชดใช้ข้าเลย แล้วพวกเราก็หายกัน”
เขาจับหางเจียว ฟาดเจียวยักษ์ที่ยาวกว่าสามร้อยจั้งไปมากลางอากาศราวกับฟาดแป้งทำบะหมี่ ทุบไปบนหุบผา ก้อนหิน ไม่ก็ริมฝั่ง
ทุกครั้งที่ฟาดลงไป หุบผาและพื้นดินก็จะมีรอยมังกรตัวยาวประทับไว้
เกล็ดเจียวเป็นเกล็ดๆ โดนเลาะออกมา ราวกับหิมะโปรยปรายท่ามกลางท้องฟ้า
แต่ว่าเจียวตัวนี้ถึงอย่างไรก็เป็นปีศาจพันปี กลืนกินแสงจันทร์ไปไม่รู้ต่อเท่าไหร่ กายเนื้อแข็งแกร่งราวเหล็กกล้า ต่อให้โดนฟาดจนเป็นเช่นนี้ก็แค่เกล็ดหลุดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่มีเลือดเจียวไหลออกมาด้วย
ขอทานเฒ่าพูดเอาไว้ มีแค่เลือดเจียวเท่านั้นที่จะช่วยหมิงเยวี่ยได้
เจียวคำรามอย่างโมโห ดิ้นรนสุดชีวิต
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากที่พลังของหลี่มู่ถูกใช้ไปเล็กน้อย ในที่สุดมันก็หาสมดุลเจอ จึงฉวยโอกาสลงมือ หางสะบัดออกไปอย่างแรง
หลี่มู่ที่แต่เดิมเป็นเป็นฝ่ายโจมตีถูกหางเจียวตวัดเหวี่ยงออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
ตูม!
หลี่มู่กระแทกเข้ากับข้างหุบผา
ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเจียวยักษ์โจมตีกลับบ้างแล้ว
หลี่มู่ตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนเจียวยักษ์ก่อนหน้านี้
เจียวยักษ์เหวี่ยงเขาไปมา กระแทกตูมตามเข้ากับข้างหุบผา
หินแหลกทลาย เศษหินกระจายว่อน
ทุกครั้งที่ฟาดลงมา หุบผาและพื้นดินก็จะปรากฏรอยรูปหางเจียวประทับ
และหากดูให้ละเอียด ในจุดลึกที่สุดของรอยจะมีรอยรูปคนในลักษณะท่าทางต่างๆ ของหลี่มู่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนด้วย
โจมตีป้องกัน ผลัดเปลี่ยนเป็นฝ่ายได้เปรียบ
“บัดซบ ดูจนปวดฟันไปหมดแล้ว รู้สึกเหมือนสัตว์ประหลาดสองตัวกำลังตะลุมบอนกันอยู่…นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของมนุษย์แล้ว”
ขอทานเฒ่าสูดลมหายใจเย็น เย็นเสียจนปวดฟัน
แต่ไม่นาน ฝ่ายโจมตีและป้องกันทั้งสองก็เปลี่ยนตำแหน่งกัน
หลี่มู่กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้ง
“วันนี้ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะกำราบเจ้าไม่ได้”
หลี่มู่ที่พลังฟื้นฟูขึ้นแล้วใช้มือทั้งสองจับหางเจียวเอาไว้ แล้วเหวี่ยงฟาดไปอย่างบ้าคลั่ง
สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาในตอนนี้ชุ่มโชกไปด้วยเลือด เนื้อตัวทุกที่ล้วนมีบาดแผลเหวอะหวะ บางแห่งมีกระดูกขาวโผล่ออกมา ดูไปแล้วน่าสังเวชราวกับรับทัณฑ์พันมีดหมื่นแล่[1]
ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อเทียบกับเจียวที่บำเพ็ญตบะกลืนกินแสงจันทร์มาพันปีแล้ว พลังของหลี่มู่ถึงแม้จะไม่ด้อยไปกว่ากัน แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายก็ยังคงด้อยอยู่
แต่ท่าทางของเขากลับยังคงฮึกเหิมมีกำลังวังชา บาดแผลทั่วร่างไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรให้เลย
หากเทียบเพียงพลัง เป็นหลี่มู่ที่แข็งแกร่งกว่า
แต่ถึงอย่างไรความแตกต่างของขนาดตัวทั้งสองก็ต่างกันมาก ลำพังแค่ร่างของเจียวก็หนักราวขุนเขาแล้ว เหวี่ยงฟาดไปฟาดมา พลังที่ต้องสูญเสียไปย่อมมากกว่าที่เจียวฟาดเขาแน่นอน
ขอทานเฒ่า โจวเข่อเอ๋อร์ และจอมเวทวัยกลางคนชุดดำตระหนักถึงจุดนี้ได้นานแล้ว
ในใจของพวกเขาประเมินหลี่มู่ทะลุเกินพิกัดไปแล้ว
สุดท้าย การต่อสู้ก็เหมือนจะรู้ผล
เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น
หลี่มู่ฟาดเจียวยักษ์เข้ากับข้างหุบผาเต็มแรง ฟาดจนมันเวียนหัวสลบเหมือดไป ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงดังกร๊อบ ในที่สุดมุมเขาเจียวท่อนหนึ่งที่ยาวประมาณสี่สิบฉื่อก็ทนพลังอันน่ากลัวของหลี่มู่ไม่ไหวและหักออก ก่อนจะร่วงลงมาจากท้องฟ้า…
“เขามังกร!”
ดวงตาของโจวเข่อเอ๋อร์เป็นประกาย
นั่นเป็นเขาของเจียวที่ใกล้จะแปลงเป็นมังกร ไม่ต่างอะไรจากเขามังกรนัก เป็นของวิเศษล้ำค่า
แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้ลงมือแย่งชิงมา
ถึงแม้นางที่มีชาติกำเนิดเป็นฝ่ายมารแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยรังเกียจเรื่องแย่งชิงฉกฉวยผลประโยชน์ แต่อย่างไรก็ยังพอมีขอบเขต
หลี่มู่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตหลิงลี่ไว้ โดยรวมแล้วก็นับว่าช่วยชีวิตนางเช่นกัน
เขาเจียวอันนี้เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลถึงเพียงนี้จึงจะได้มา ถึงแม้นางหวั่นไหว แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางลงมือได้จริงๆ
ขอทานเฒ่าที่อยู่อีกฝั่งตาเป็นประกายเช่นกัน แต่ก็ไม่เคลื่อนไหวอะไร
ต้าหวงกลับคิดจะพุ่งออกไป ทว่าขอทานเฒ่ากลับคว้าหางมันไว้ ถลึงตาพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดให้ดีๆ ชิงเขาเจียวนั่นมา เจ้าสู้กับอสุรกายตัวนั้นได้ไหม?”
สุนัขอ้วนสีน้ำตาลนิ่งอึ้ง ในหัวมีภาพพลังและความเร็วของหลี่มู่ซึ่งราวกับสัตว์อสูรผ่านไปมา นึกถึงสภาพเจียวยักษ์ที่ถูกซัดจนน่วม ก็อดสั่นสะท้านขึ้นมาไม่ได้ สุดท้ายจึงยอมแพ้อย่างคับแค้นใจ
มันไม่อยากโดนหลี่มู่จับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา