เงาร่างมหึมาดุจขุนเขาหายลับไป
กลิ่นอายกดดันเฉพาะตัวของเจียวในอากาศค่อยๆ จางหาย
“สมควรตาย!”
เว่ยชงโมโหจนอกแทบจะระเบิด
โอกาสใหญ่ที่จะเอามาได้อยู่รอมร่อหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพราะหมัดนั้นของหลี่มู่
หากคิดอยากจะจับเจียวอีกครั้งนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก
“สมควรตาย สมควรตายเป็นหมื่นครั้ง…หยามหมิ่นสำนักดับนิวรณ์ ปล่อยให้เจียวยักษ์หนีไป…เจ้าเศษสวะ ข้าจะให้เจ้าทรมานจนตายเสียยังดีกว่าอยู่”
เขาจ้องมายังหลี่มู่ แทบจะกัดฟันจนแหลกแล้ว
รอยดาบกากบาทบนหน้าผากบิดเบี้ยว เพลิงโทสะและจิตสังหารในดวงตาของเขาแทบจะรวมตัวเป็นวัตถุจริง
หลี่มู่ไม่พูดอะไร แค่กระดิกนิ้วเรียกอีกฝ่ายด้วยใบหน้าหยามหมิ่น
“ย้ากกก…”
เว่ยชงระเบิดอารมณ์ทันทีคลุ้มคลั่ง
โดนคนรุ่นหลังที่ไร้ชื่อเสียงตบหน้า ท้าทาย ทั้งยังหยามหมิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจึงสูญเสียสติไปแล้วอย่างสมบูรณ์
กำลังภายในถูกกระตุ้นขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ร่างกำยำของเว่ยชงกระโดดขึ้นมา โซ่เหล็กพันอยู่ที่แขนสะบัดไหว ควบคุมค้อนยักษ์เอาไว้อีกครั้ง ค้อนสีดำมหึมาหมุนเป็นเส้นวงรีในท้องฟ้า ก่อนจะทุ่มไปยังหลี่มู่ด้วยพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึง
“ข้าจะทำให้เจ้าร่างแหลกละเอียด กระดูกป่นเป็นผุยผง”
เขาคลุ้มคลุ้มคลั่งไปแล้ว
“เร็วมาก!”
หลี่มู่จ้องค้อนยักษ์ ในใจสั่นสะท้าน
นี่ก็คือพลังของยอดฝีมือชั้นยอดขั้นปรมาจารย์หรือ?
ถึงแม้จะไม่มีความรู้สึกกดดันแบบเจียว แต่กลยุทธ์การต่อสู้กลับมีพลังสังหารมากยิ่งกว่า
เขาสำแดงวิชาตัวเบา คิดจะหลบหลีการโจมตีกระบวนนี้
แต่เมื่อเขาปลดปล่อยพลัง หลี่มู่กลับรู้สึกเจ็บช่วงเอว เข่าและขาอ่อนแรง เพราะก่อนหน้านี้เสียเลือดไปมากจึงหน้ามืด จะเร่งร้อนกระตุ้นพลังยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ซ้ำยังไม่อาจหลบหลีกได้เลย จึงแอบร้องในใจว่าแย่แล้ว
ในช่วงเวลาเร่งด่วน หลี่มู่ทำได้แค่ใช้ฝ่ามือหนึ่งยันออกไปฝืนรับค้อนนั่นไว้!
กร๊อบ!
เสียงกระดูกหักดังลั่น หลี่มู่ม้วนกระเด็นออกไป
ฝ่ามือของเขาถูกสะเทือนจนเลือดเนื้อเหวอะหวะ ความปวดแล่นมาตามแขนซ้าย กระดูกแขนหักไปแล้วเรียบร้อย
แต่ยิ่งอันตราย ยิ่งวิกฤต ความคิดของเขากลับยิ่งชัดเจน
‘ตาแก่นี่พลังไม่อ่อนด้อยเลย’
หลี่มู่วิเคราะห์กำลังรบของเว่ยชงคร่าวๆ
ร่างของเขาร่วงลงมาจากกลางอากาศเหมือนว่าวที่ขาดจากสายป่าน
“ตาย!”
เว่ยชงราวเงาตามตัว เขาสะบัดโซ่เหล็ก ค้อนยักษ์ก็เหมือนมีตา หอบม้วนทุ่มไปยังหลี่มู่ที่เสียสมดุลกลางท้องฟ้าต่อไป
วันนี้ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะให้หลี่มู่ตายให้ได้
หลี่มู่ที่อยู่กลางท้องฟ้าไม่อาจหลบหลีกได้ ชั่วพริบตานี้ใกล้จะถูกทุบร่างกายแหลกเหลวเต็มที
ในตอนนี้เอง เสียงร้องตกใจของขอทานเฒ่าพลันดังมา
เสียงท้องฟ้าระเบิดเพราะการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วดังขึ้น
ราวกับมีดาบคมกริบแหวกท้องฟ้ายามราตรี
ทุกคนต่างรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าพร่าเลือน
รวมถึงหลี่มู่ที่อยู่กลางอากาศด้วยเช่นกัน
เห็นเพียงเงาร่างเล็กแข็งแกร่งขวางไว้ข้างหน้าหลี่มู่
“หมิงเยวี่ย?”
ม่านตาของเขาหดลงทันที
เพียงแค่เสี้ยวขณะ หลี่มู่มองออกอย่างน่าเหลือเชื่อว่าร่างเล็กที่บังอยู่ข้างหน้าเป็นเด็กรับใช้บัณฑิตหมิงเยวี่ย
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
นางจะมีความเร็วถึงขั้นนี้ได้อย่างไร
แต่ทว่าทุกอย่างก็ไม่ทันให้เขาได้คิดเยอะแล้ว
ค้อนยักษ์ซัดเข้าที่ร่างของหมิงเยวี่ย
พรวด!
เลือดสดๆ พุ่งออกจากปากและจมูกของนาง
ร่างเล็กเซมาอยู่ในอ้อมแขนของหลี่มู่
สมองของหลี่มู่ขาวโพลน
ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้
ส่วนค้อนยักษ์พลังมหาศาลที่เขาไม่ทันได้สังเกตนั่นกลับกระเด็นสะเทือนกลับไปอย่างน่าประหลาด
“เด็กบ้า…นี่เจ้าทำอะไรอยู่?”
หลี่มู่ร้อนรน
ไม่รู้พลังมาจากไหน เขาอุ้มหมิงเยวี่ยเคลื่อนตัวออกห่างมาหลายจั้ง ทิ้งระยะจากขอบเขตการโจมตีของค้อนติดโซ่ของเว่ยชง จากนั้นสำรวจบาดแผลของหมิงเยวี่ยอย่างทำอะไรไม่ถูก
“คุณชาย…ข้า…เจ็บนิดหน่อย…ท่านช่วยข้า…ซัดเจ้าชั่วนั่นให้ตายที” หมิงเยวี่ยนอนอยู่ในอ้อมแขนของหลี่มู่ เลือดสดไหลรินที่มุมปากขณะพูดขึ้นด้วยลมหายใจอ่อนแรง
“หุบปาก”
หลี่มู่ตวาด ในสมองแทบจะว่างเปล่าไปหมด
ต่อให้เป็นเขารับค้อนนั่นไว้ เกรงว่าร่างกายก็คงแหลกเหลวเหมือนกัน
กังวลมากไปจิตใจย่อมว้าวุ่น
หลี่มู่ลนลานจนถึงขีดสุด
แต่ไม่นานนักเขาก็ค้นพบอย่างตื่นตะลึงว่าร่างของหมิงเยวี่ยไม่มีบาดแผลที่สาหัส กระทั่งแม้แต่กระดูกก็ไม่มีหัก มีแค่บาดแผลภายนอกตื้นๆ เท่านั้น เหตุที่กระอักเลือดก็น่าจะเพราะอวัยวะภายในถูกกระเทือน
นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?
“คุณชาย ข้าไม่เป็นไร…ท่านรีบลงมือฆ่าไอ้ชั่วนั่นให้ตายเถิด” หมิงเยวี่ยขยับร่างกาย
หลี่มู่อึ้งไป
คำพูดเช่นนี้…เหมือนว่า…จะกลับสู่สภาพเดิมแล้ว?
นี่คือหมิงเยวี่ยในยามปกติ ไม่ใช่เด็กน้อยขี้ขลาดทำตัวไม่ถูก แต่เป็นโลลิประหลาดที่ไร้หัวคิด
“ตาแก่”
หลี่มู่หันหน้ามาตวาดลั่น
เขาโมโหมาก
ผู้แข็งแกร่งที่สุดใต้สุริยันจันทราทั้งสองคู่บ้าบออะไร แม้แต่เด็กผู้หญิงก็ดูเอาไว้ไม่อยู่
ขอทานเฒ่าวิ่งมาด้วยใบหน้ารู้สึกผิด แก้ตัวอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน…เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้นะ ความเร็วของนางมากเหลือเกิน เจียวกลับลงน้ำ เขตแดนสลายไป กลิ่นอายจางลง ภูตปีศาจเลยยึดครองร่างของนางอีกครั้ง ภูตปีศาจตนนี้…ค่อนข้างน่ากลัว ข้าเอาไม่อยู่…”
ภูตปีศาจ?
นี่ก็คือภูตปีศาจ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา