เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว
จากการเย้ยหยันครั้งแล้วครั้งเล่าของหลี่มู่ ผู้อาวุโสสำนักดับนิวรณ์ที่ผ่านความเหี้ยมโหดมามากก็เหมือนกระทิงคลั่งที่ถูกล่อด้วยผ้าแดง ดวงตาแดงก่ำ ควงค้อนยักษ์ติดโซ่ไล่ตามไปอย่างบ้าคลั่ง
เงาร่างสองร่าง คนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งตามหลัง หายเข้าไปในภูเขากว้างใหญ่
รอบแอ่งน้ำใหญ่ค่อยๆ กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
ผู้แข็งแกร่งสำนักดับนิวรณ์นับสิบคนที่เหลือ แต่ละคนมองตากันไปมา ใบหน้าอึ้งตะลึง
สุดท้ายหนึ่งในนั้นพูดขึ้น สิบกว่าคนที่เหลือจึงไล่ตามไปในทางที่เว่ยชงหายตัวไป
และตอนนี้ ไม่มีใครสังเกตว่าขอทานเฒ่ากับสุนัขสีน้ำตาลตัวใหญ่พาหมิงเยวี่ยหายไปแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหน
โจวเข่อเอ๋อร์อุ้มหลิงลี่ที่ยังอยู่ในสภาวะไม่ได้สติเอาไว้ หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อยก็ไล่ตามไปด้วยเช่นกัน
คนที่ตามไปในเวลาเดียวกันยังมีจอมเวทชุดดำวัยกลางคนด้วย
เขาต้องรู้ให้แน่ชัดว่าจุดจบของหลี่มู่สุดท้ายแล้วเป็นหรือตาย
หากเป็นไปได้ เขาหวังว่าจะสามารถช่วยหลี่มู่ได้ ถึงแม้จะเป็นการแอบลงมือช่วยก็ตาม
สุดท้าย ทั่วทั้งแอ่งน้ำตกก็เหลือแค่ไป๋หรูซวงและนักพรตตาบอดสองคน
อ้อ ยังมีอีกายักษ์สีดำอีกตัวหนึ่ง
ดวงตาของไป๋หรูซวงที่มีผมขาวแห่งสำนักหมาป่าสวรรค์ส่องประกายประหลาด แผ่กลิ่นอายอันตรายออกมา ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรอีก สุดท้ายเขาก็ขยับตัวกระโดดไปทางที่หลี่มู่เขวี้ยงกระบี่โบราณสีขาวไป
เขาอยากหากระบี่คู่กายกลับคืนมา
ส่วนนักพรตตาบอดนั่งเหม่อลอยอยู่กับที่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ สุดท้ายเขาถึงขยับร่าง แผลบนร่างถูกสะเทือน เลือดไหลออกมาอีกครั้ง
เขาประสานปางมืออย่างยากลำบาก เคลื่อนย้ายพลังฟ้าดินทั่วบริเวณหลายร้อยจั้งมาแปลงเป็นพลังเวทรักษาตัวเอง
อีกายักษ์คอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ
นับจากวันนี้ไป ข้างแอ่งน้ำตกเก้ามังกร ในแดนเซียนที่โดดเดี่ยวจากโลกภายนอกแห่งนี้ ริมแอ่งน้ำมีกระท่อมหลังหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ในกระท่อมมีนักพรตตาบอดมือถือลำไผ่ มีอีกาตัวหนึ่งอยู่เป็นเพื่อน กำลังรอคอยอยู่โดยตลอด
ฆ่าเจียว!
นี่คือความคิดเพียงหนึ่งเดียวในใจของเขา
เพราะในแอ่งน้ำมีเจียวยักษ์อยู่ตัวหนึ่ง
……
ยามฟ้าสาง
ดวงอาทิตย์สีแดงลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ จากหุบเขาอันไกลโพ้น
วันใหม่มาถึงแล้ว
ครืน!
ค้อนยักษ์ทุบก้อนหินขนาดมหึมาจนแหลกละเอียด
เงาร่างของหลี่มู่พุ่งมาจากข้างหลังก้อนหิน มุ่งไปยังที่ลึกในหุบเขาราวกระต่ายที่ตื่นตกใจ
“เจ้าหนีไม่รอดหรอก”
เว่ยชงตาแดงก่ำ เหวี่ยงค้อนยักษ์พลางหอบแฮกและไล่ตามไปอย่างไม่ลดละ
เหตุการณ์เช่นนี้ยืดเยื้อต่อมาหนึ่งคืนแล้ว
หลี่มู่เหมือนโดนพิษ รู้สึกมึนงง ทั้งยังเริ่มมีไข้ สมองสับสนไปหมด ครรลองสายตาพร่าเลือน ร่างกายภายในและภายนอกราวกับมีไฟสุม ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในเตาเผาศพ เสี้ยวขณะต่อมาก็จะกลายเป็นเถ้าธุลีแล้ว
สติที่เหลืออยู่ทำให้เขาคิดว่าตัวเองน่าจะโดนพิษเจียวเข้า
หากนำทฤษฎีวิทยาศาสตร์จากโลกมาอธิบายนั่นก็คือ เลือดของตนทำปฏิกิริยาปฏิเสธเลือดเจียว
‘ไหนบอกว่าอาบเลือดเจียวแล้วจะฟันแทงไม่เข้าไง?’
หลี่มู่รู้สึกอัดอั้นราวคนใบ้กินหวงเหลียน[1]
สภาพร่างกายเช่นนี้แน่นอนว่าไม่อาจต่อสู้กับเว่ยชงได้
เขาทำได้แค่หนีเท่านั้น
“ตาแก่ อยากฆ่าข้ารึ? ฮ่าๆ ตามหลังข้ามาซะเถอะเจ้าโง่”
หลี่มู่ไม่สนว่าเว่ยชงจะได้ยินหรือไม่ หนีไปพลางเยาะเย้ยไปพลาง
ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน ทำให้ตัดสินใจยืนหยัดว่าจะต้องล่อเว่ยชงมายังกลางป่าลึกกว้างไกลนี้ให้ได้ มิฉะนั้นหากตาเฒ่านี่เข้าไปในเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์ เกรงว่าจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่
และเว่ยชงก็ไม่ทำให้หลี่มู่ผิดหวัง
ถึงแม้กำลังภายในใช้ไปแล้วกว่าครึ่ง แต่เพลิงโทสะกลับยิ่งปะทุ เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้วโดยสิ้นเชิง ไล่ตามหลี่มู่ไปอย่างบ้าคลั่ง
“เจ้าเศษสวะ ข้าสาบานว่าจะต้องตามจับเจ้าให้ได้”
เว่ยชงคลุ้มคลั่งอย่างกับลิงบาบูนที่กำลังผสมพันธุ์แล้วโดนแย่งคู่ไป
“โรคจิต”
หลี่มู่อาศัยสัญชาตญาณหลบการโจมตีได้ไม่รู้กี่ครั้ง สบถด่าโดยไม่หันกลับไป
เจ้าก็ไม่ใช่สาวงามเสียหน่อย จะมาตามจีบ[2]กันทำไม
น่าขยะแขยงจริงๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้”
“ปัญญาอ่อนรึไง จะหยุดให้เจ้าฆ่างั้นหรือ”
“ข้าจะป่นกระดูกเจ้าให้เป็นผุยผง”
“เปลี่ยนบทพูดให้สร้างสรรค์กว่านี้ไม่ได้หรือไง พวกเจ้าตัวร้ายมีบทพูดแค่นี้เอง?”
“ย้ากกก ผู้เฒ่าโมโหนัก”
“แก่เฒ่าแล้วอย่าอารมณ์ร้อนนักเลย เกิดโมโหจนความดันขึ้น เส้นเลือดในสมองแตกอะไรพวกนี้ เดี๋ยวข้าดีใจตายเลย”
หนึ่งคนไล่ หนึ่งคนหนี
ในเขาขาวพิสุทธิ์ที่เงียบสงบโกลาหลอลหม่าน
ไม่รู้ว่ายอดฝีมือระดับหนึ่งสิบกว่าคนของสำนักดับนิวรณ์หายไปไหนแล้ว ตามความเร็วของทั้งสองคนไม่ได้เลย
จอมเวทชุดดำวัยกลางคนกับ ‘หน้าเซียน’ โจวเข่อเอ๋อร์ก็ไร้ร่องรอยเช่นกัน
ครืน!
ภูเขาและหินผาถล่มทลายไม่ขาดสาย
ในป่าดึกดำบรรพ์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเกิดควันพวยพุ่งอยู่ตลอด
เวลาผ่านไปเช่นนี้อีกหนึ่งวัน
ม่านราตรีโรยตัวลงมา
“โจมตี!”
ค้อนยักษ์ทุบเข้าใส่หลี่มู่ เขาเหมือนลูกหนังถูกสะเทือนลอยไปหลายจั้ง กระแทกเข้าไปไกลในป่าทึบ
“เจ้าเศษสวะ ทำไมไม่สบถด่าอีกเล่า ฮ่าๆ”
เว่ยชงหอบแฮก ลำคอส่งเสียงแคร่กๆ เหมือนพัดลมพัง เหนื่อยเสียจนลิ้นห้อยออกมาแล้ว
กำลังภายในของเขาแทบจะใช้จนหมด
หลังจากใช้ค้อนเหวี่ยงหลี่มู่จนลอยไปแล้ว เว่ยชงก็ก้มตัวหอบหายใจอยู่กับที่พลางสะสมพลังกาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา