จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 31

สรุปบท บทที่ 31 ใส่ร้าย: จักรพรรดิมารหวนคืน

สรุปตอน บทที่ 31 ใส่ร้าย – จากเรื่อง จักรพรรดิมารหวนคืน โดย หว่อปู้ซื่อZ

ตอน บทที่ 31 ใส่ร้าย ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิมารหวนคืน โดยนักเขียน หว่อปู้ซื่อZ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 31 ใส่ร้าย

ซ่งเจี้ยนโก๋ได้ยินประโยคจากปากเฉินจิ้นก็ชะงักเล็กน้อย

จากนั้นก็เข้าใจแล้วว่าเขาหมายถึงอะไร

เขาจึงได้แต่กลืนน้ำลายตัวเอง

“พี่ใหญ่ ฉันไม่อยากตาย ช่วยชีวิตฉันสักครั้งเถอะ!”

ในขณะนั้นซ่งเจี้ยนโก๋ไม่แสดงสีหน้าใด เขารีบคุกเข่าอยู่ตรงหน้าซ่งเจี้ยนหยวน

เพียงแค่มีชีวิตอยู่!

ซูนโก๋อัน หมอเซียนซูน ซึ่งเป็นแพทย์มาตลอดทั้งชีวิตและไม่เคยล้มเหลวในการรักษา หากเขายินยอมให้การรักษา ซ่งเจี้ยนโก๋รู้ว่าถึงอย่างไรเขาก็ต้องรอด

ฉินเฝิ้งเจียวเห็นซ่งเจี้ยนโก๋ขอร้องก็อยากพูดเยาะเย้ย

แน่นอนว่าเธอยังไม่ได้ตอบตกลงว่าจะช่วยซ่งเจี้ยนโก๋หรือไม่ เนื่องจากยังยอมรับไม่ได้

ทว่าซ่งเจี้ยนหยวนดูเหมือนจะเดาออกได้ว่าฉินเฝิ้งเจียวต้องการจะทำอะไร จึงรีบกดแขนเธอไว้เพื่อห้ามเธอ

“เจี้ยนโก๋ ในเมื่อรู้อาการป่วยของเธอแล้ว ฉันจะไม่สนใจได้อย่างไรล่ะ ถึงเธอจะไม่พูด ฉันก็จะให้จิ้นเอ๋อช่วยเธอ เธอลุกขึ้นเถอะ!”

ซ่งเจี้ยนหยวนรีบประคองซ่งเจี้ยนโก๋ลุกขึ้นมา

“แค่นั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็นจิ้นเอ๋อหรือหมอเซียนซูนก็ได้ทั้งนั้น เธอพี่น้องและยังมีหยวนหยวนอีก พวกเธอสามคนป่วยแต่ลูกเขยกลับไม่เป็นอะไร ไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร?”

ซ่งเจี้ยนหยวนพูดเตือน

เมื่อเห็นว่าซ่งเจี้ยนโก๋ไม่ได้สนใจว่าเธอจะพูดฉีกหน้าอย่างไร ในใจของซ่งเจี้ยนหยวนรู้สึกอับอายเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับคำตอบจากพี่ใหญ่แล้ว ซ่งเจี้ยนโก๋ก็โล่งอกเหมือนยื้อชีวิตตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง

ในขณะนั้นเมื่อได้ยินพี่ใหญ่เตือนสติ ซ่งเจี้ยนโก๋สังเกตเห็นทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้แม้ว่าจะมีร่องรอยของความสงสัย แต่ก็ไม่มีหลักฐาน

ซ่งเจี้ยนโก๋รู้ว่าก่อนที่เฉินจิ้นจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ นั่นแน่นอนว่าจะต้องเห็นอะไรมา ในตอนนั้นซ่งเจี้ยนโก๋ก็มองไปที่เฉินจิ้นอีกครั้ง

เฉินจินเห็นสายตาของพ่อตาก็ถอนหายใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“สาเหตุนั่นธรรมดามาก เพราะร่างกายพวกคุณปนเปื้อนด้วยกลิ่นอายของพวกนั้น และถ้าหากถูกอายหยินกัดกร่อนเป็นเวลานาน มันจะร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ นานวันเข้าก็จะได้เจอผีของจริง!”

เฉินจิ้นพูดพลางใช้มือชี้ไปที่เครื่องหยกที่ซูนเจ๋อนำมาซึ่งเป็นของประเภทเครื่องประดับ

พอญาติบางส่วนได้ยินก็วางของเหล่านั้นไว้บนโต๊ะและรีบถอยหลังออกห่างมา เหมือนกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง

และเนื่องจากความโลภจนถึงตอนนี้จึงรีบนำของเหล่านี้ที่ติดกายไว้ถอดออกมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็หนีออกไปไกล

ในขณะที่เฉินจิ้นกำลังกล่าวออกมา ซูนเจ๋อที่อยู่ในท่ามกลางกลุ่มคนก็เริ่มตื่นตระหนก

ในตอนแรกซ่งหยวนหยวนยังคงมีท่าทีจองหองกับเฉินจิ้นอยู่มาก สองมือรีบถอดต่างหูทั้งสองข้างด้วยมือที่กำลังสั่นระริก

“ใช่ ...ใช่ของนี่ไหม?” เธอรีบมองไปทางเฉินจิ้น

เฉินจิ้นเผยสีหน้าเย้ยหยัน “นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ของพวกนี้ที่ซูนเจ๋อนำมา เป็นของที่เกิดจากกลิ่นอายในหลุมฝังศพ แม้ว่ามีผล แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรง อย่างมากที่สุดก็ทำให้คนล้มป่วยรักษาไม่หาย และของเหล่านี้ที่อยู่ในร่างกายพวกคุณต่างมีกลิ่นอายชั่วร้ายนับไม่ถ้วนปกคลุมไว้อย่างหนาแน่น เกรงว่าอาจจะเกิดการปนเปื้อนเมื่อตอนที่อยู่ในหลุมฝังศพ...”

ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แล้วอย่างงั้นเกิดได้จากอะไร มนุษย์งั้นหรือ?

ซ่งเจี้ยนโก๋ส่งสายตาไปทางซูนเจ๋อ

ซูนเจ๋อสูดหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ “ของพวกนี้ล้วนเป็นของที่ผมซื้อมาจากร้านขายของมือสองทั้งนั้น เพราะมันเป็นของแท้ ราคาถูก ผมก็เลยไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ไม่คิดว่า....ไม่คิดว่ามันจะเป็นของคนตายที่อยู่ในสุสาน พ่อ แม่ หยวนหยวน ผมขอโทษ เป็นความผิดของผมเอง ผมแค่อยากพยายามทำให้ดีที่สุดให้พวกคุณมีชีวิตที่ดี ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดผลร้ายแรงแบบนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง... ”

ซูนเจ๋อแสดงสีหน้าตำหนิตัวเอง

ซ่งเจี้ยนโก๋และซ่งหยวนหยวนรอด้วยท่าทีที่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว

ซูนเจ๋อเองก็ไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าของพวกนี้จะมีอายหยิน

พวกเขาจึงรีบนำของที่ซูนเจ๋อมอบให้ถอดออกมา

ซ่งเจี้ยนโก๋ก็ตัดสินใจได้แล้วว่าหลังจากกลับไปถึงเจียงนานจะนำเอาสิ่งของที่ซูนเจ๋อมอบให้ทั้งหมดที่อยู่ในบ้านไปทิ้ง

จากนั้นก็เตรียมซื้อบ้านใหม่

“เฉินจิ้น เพราะความเกลียดชังที่ฉันเคยทำให้นายเสียหน้า นายถึงใส่ร้ายฉันแบบนี้ คอยยุแยงครอบครัวของพวกเรา นายถึงมีสายตาหวาดระแวงแบบนี้?”

ซูนเจ๋อเห็นว่าแผนร้ายที่ตัวเองวางไว้เกือบจะโดนเปิดโปง เขาถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องจึงพุ่งความโมโหไปที่เฉินจิ้น

เขาไม่กลัวเฉินจิ้นจะขุ่นเคือง

ตัวเขาเองอยู่ในเจียงนาน ไม่ใช่เจียงเป่ยเจียงโจวที่มีแพทย์และโรงพยาบาลมากมายขนาดนั้น หลังจากที่ป่วยหนักก็ไม่เรียกร้องอะไรกับหมอเซียนซูนอีกแล้ว เฉินจิ้นก็ไม่สามารถมาขู่อะไรเขาได้

ในทางตรงกันข้ามในดวงตาที่สวยงามคู่นั้นส่องแสงจ้องมองที่เฉินจิ้นผู้เป็นสามีของเธอ

ครั้งล่าสุดที่บริษัท เธอได้เห็นวิธีสะกดจิตของเฉินจิ้นด้วยสายตาของเธอเอง

เป็นดังที่คาดไว้ เสียงคำพูดของเฉินจิ้นที่อยู่ทางด้านนั้นกำลังเงียบลง

ส่วนทางด้านนี้ ซูนเจ๋อก็พูดขึ้นด้วยเบื่อหน่าย “เหตุผลที่ฉันต้องทำร้ายพวกเขาก็คือฉันเกิดโลภอยากได้ทรัย์สมบัติของตาแก่ซ่งเจี้ยนโก๋ ไม่อย่างนั้นฉันจะเข้าไปเป็นลูกเขยตระกูลนั่นได้อย่างไร อัปยศสิ้นดี

แต่มันก็โอเคที่ทำให้ฉันรู้จักเพื่อนอัปรีย์บางคน ฉันได้ซื้อของที่อยู่ในหลุมฝังศพจำนวนมากจากพวกมัน ทั้งยังให้พวกมันใช้วิธีพิเศษ ให้มันอบอวลไปด้วยอายหยินหนาๆ จากนั้นก็หาโอกาสแยกส่งไปให้พวกเขาทีละชิ้น เพื่อที่พวกมันจะสามารถฆ่าพวกเขาอย่างช้าๆโดยไม่รู้ตัว

ใช้เวลาเพียงแค่สามปี รอเพียงแค่สามปีเท่านั้น ภายในสามปีนี้ใช้เส้นสายและบารมีของซ่งเจี้ยนโก๋ช่วยให้ฉันก้าวหน้าต่อไปในอาชีพการงาน หลังจากสามปีพวกเขาทั้งหมดจะถูกอายหยินครอบงำและสิ้นลมหายใจในที่สุด

พอถึงตอนนั้น หน้าที่การงานของฉันก็ไปได้ไกลแล้ว ทั้งยังได้รับมรดกอีกมากมาย เมื่อถึงเวลาฉันก็จะหาภรรยาที่ทั้งสวยและอ่อนโยน ช่างเป็นชีวิตที่สวยงามจริงๆ!

สำหรับเสือตัวเมียอย่างซ่งหยวนหยวน ฉันทนมาพอแล้ว

ถือว่านานมากพอแล้วกับคนเจ้าอารมณ์ ถ้าไม่ใช่เพราะมรดกของตระกูล ฉันคงไม่ทนมานานแบบหรอก!”

ซูนเจ๋อฟังคำพูดของเฉินจิ้นและเริ่มตอบคำถามของเขา

ทันใดนั้นก็ตกอยู่ในท่ามกลางความตกใจ

จากนั้นในขณะที่ซูนเจ๋อกำลังเล่าและพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

ผู้อยู่ในเหตุการณ์ก็เงียบไปชั่วขณะ

เงียบจนถึงขีดสุด

ซ่งเจี้ยนโก๋และซ่งหยวนหยวนเริ่มมีสีหน้าทนไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซ่งหยวนหยวนที่เดินผละออกไป

ในขณะนี้เฉินจิ้นก็หักนิ้วของเขา

ซูนเจ๋อกลับมามีแววตาปกติ

เหมือนกับจำไม่ได้ว่าตัวเองเพิ่งพูดอะไรออกไป

จากนั้นซูนเจ๋อก็ถามเฉินจิ้นด้วยสีหน้าหวาดระแวงอีกครั้ง “เฉินจิ้น นายใส่ร้ายฉันทำไม?”

------------

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน