อ่านสรุป บทที่ 32 ใครส่งพวกแกมา จาก จักรพรรดิมารหวนคืน โดย หว่อปู้ซื่อZ
บทที่ บทที่ 32 ใครส่งพวกแกมา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิมารหวนคืน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หว่อปู้ซื่อZ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 32 ใครส่งพวกแกมา
เพี๊ยะ!
ซูนเจ๋อพูดไปได้สักพักก็มีเสียงฝ่ามือดังก้องกังวาน
ใบหน้าเขาถูกทิ้งรอยฝ่ามืออย่างชัดเจน
“หยวนหยวน คุณทำอะไร?”
ซูนเจ๋อมองซ่งหยวนหยวนด้วยความงุนงง
“คุณมันสัตว์นรก ฉันมันตาบอดเอง!”
ซ่งเจี้ยนโก๋ก็ตบหน้าอีกด้านหนึ่งของซูนเจ๋อ เขาโกรธจนตัวสั่น
วันนี้เขาพาซูนเจ๋อมาขายหน้าจริงๆ
เขาคิดว่าลูกเขยสมบูรณ์แบบที่เขาเลือก จะสามารถลงทัณฑ์ลูกเขยไร้ประโยชน์ของพี่ใหญ่ได้
ทว่าตอนนี้เขาพ่ายแพ้เสียแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาคิดจะแสร้งหน้า แต่สุดท้ายกลับพังไม่เป็นท่า!
แม้แต่เขายังต้องขอให้อีกฝ่ายทำการรักษาเขา
และผู้กระทำความผิดทั้งหมดนี้คือลูกเขยของเขา ลูกเขยคนที่ต้องการฆ่าคนในครอบครัวของเขาให้ตายเพื่อโลภเอาทรัพย์สิน
น่าหัวเราะสิ้นดี
“พ่อ เกิดอะไรขึ้น? เฉินจิ้นใส่ร้ายผม...”
ซูนเจ๋อทำหน้าเขลา
“ฉันไม่ใช่เสือตัวเมีย ไม่ได้ดูธรรมดา ทั้งยังไม่ได้เจ้าอารมณ์ คุณกล้าทำร้ายพ่อแม่ของฉัน วันนี้ฉันจะฆ่าคุณ!” ซ่งหยวนหยวนระเบิดอารมณ์
ทันใดนั้นสองฝ่ามือก็ฟาดลงไปใบหน้าของซูนเจ๋อ
ซูนเจ๋อนิ่งไปสักพัก
ซ่งหยวนหยวนรู้ความลับเหล่านี้ได้อย่างไร?
เขาจำได้ว่าตัวเองเหมือนหมดสติไป แล้วหลังจากนั้นเขาพูดอะไรออกไปบ้าง?
หรือว่า?
ซูนเจ๋อตกตะลึงไปชั่วขณะ
เขาจำได้ลางๆแล้ว
จบแล้ว!
เขาเงยหน้ามองไปทางเฉินจิ้น สายตาทั้งสองเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“บอกมา เมื่อกี้นายใช้วิธีชั่วร้ายอะไร นายกล้าพังแผนการฉัน ฉันจะฆ่าแก!”
ซูนเจ๋อพุ่งตัวไปหาเฉินจิ้นเหมือนคนบ้า
เขารู้ว่าเมื่อเรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผย อนาคตเขาจบสิ้นแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำหมดสิ้นแล้ว
ซ่งเจี้ยนโก๋ไม่อาจปล่อยเขาไปได้
“ไม่เจียมตัว”
เฉินจิ้นหัวเราะเย็นชา
เมื่อซูนเจ๋อมาประชิดตัว เขาก็ยกขาขึ้นเบาๆ
จากนั้นร่างของซูนเจ๋อก็กระเด็นออกไป
หน้าอกยุบลงไป
“อ๊า!”
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องที่ดังกังวานก็ดังขึ้นทั่วห้อง
อาหารค่ำในงานเลี้ยงคืนนี้กลายเป็นละครตลกอย่างสมบูรณ์แบบ
อุตส่าห์พาลูกเขยมาอวดเพื่อคิดจะแสร้งกวนใจซ่งเจี้ยนโก๋ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นเรื่องตลก
......
งานเลี้ยงอาหารค่ำจบลงอย่างรวดเร็ว ซ่งเจี้ยนหยวนและฉินเฝิ้งเจียวก็พากันกลับบ้าน
เฉินจิ้นและซ่งชีงเหย็นนั่งด้วยกันที่บ้านสักพักก็พากันแยกย้าย
หลังจากที่ซ่งชีงเหย็นและเฉินจิ้นแต่งงานกัน พวกเขาก็ได้ซื้อบ้านข้างนอกเพื่ออยู่กันตามลำพัง
บนรถ ซ่งชีงเหย็นและเฉินจิ้นไม่ได้คุยอะไรกันเลย
ซ่งชีงเหย็นรู้สึกกลัวเฉินจิ้นมากและนึกถึงเรื่องหย่ากันอีกครั้ง
“ระวัง!”
ยิ่งนานวันบรรยากาศระหว่างคนทั้งสองก็ยิ่งอึดอัด ทันใดนั้นเฉินจิ้นก็ตะโกนขึ้นมา
ในเวลานี้ ช่วงทางแยกที่เพิ่งผ่านไป อยู่ๆก็มีรถบรรทุกที่ขับด้วยความเร็วสูงพุ่งมาตัดหน้า
ถ้ารถBMWคันเล็กของซ่งชีงเหย็นโดนรถบรรทุกขนาดใหญ่ความเร็วสูงคันนี้ชนเข้า ในตอนนั้นกระดูกทั้งร่างคงแหลกละเอียดไปหมดแล้ว
ทันใดนั้นซ่งชีงเหย็นก็กำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เฉินจิ้นรีบยื่นมือมาจับพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว
รถของพวกเขาพุ่งออกไปทางซ้ายทันที เพราะความเร็วที่เร็วเกินไป อีกนิดเดียวรถก็อาจจะปลิวได้ และมีการดริฟท์เก้าสิบองศา
ถึงกระนั้นก็ยังถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่ชนท้าย
ประโปรงหลังยุบลงไป รถพวกเขาหมุนไปอีก 2-3 รอบทำให้เกิดเสียงเสียดสีดังรุนแรงมาก จากนั้นก็ชนกับฟุตบาทถนนและหยุดลง
ในเวลานี้ผู้ชายแข็งแรงสองคนลงมาจากรถบรรทุก
หนึ่งในนั้น บนเเขนที่เผยออกมาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น
ส่วนอีกคนมีรอยมีดบาดลึกบนใบหน้าของเขา
หากสังเกตดูชายทั้งสองจากรูปร่างหน้าตาของพวกเขา ก็รู้ได้ว่าพวกเขาเป็นคนดุร้ายและร่างกายถูกใช้งานหนัก
หลังจากที่ลงมาจากรถ พวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้พูดพร่ำอะไรมาก หยิบปืนพกหันไปทางตำแหน่งที่นั่งรถBMWและยิงไม่ยั้ง
ปืนพกมีที่เก็บเสียงจึงไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา
“ตายหรือยัง?” ชายผู้มีรอยแผลมีดและกระสุนที่แขนพูดด้วยความสงสัย
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทั้งสองรู้สึกว่างานนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างง่ายดาย
แต่พอเสียงที่โหดร้ายดังก้องกังวานผ่านหูของพวกเขา
ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่า
ด้านหน้าของพวกเขายังมีเงาครึ่งหนึ่งของเฉินจิ้น
เป้าหมายที่พวกเขายิงเป็นเพียงภาพลวงตา
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียง ชั่วพริบตาเดียวทั้งสองก็รู้สึกถึงความตายที่แผ่ปกคลุม
“คนที่ไหนจะเคลื่อนไหวเร็วได้ขนาดนี้ เร็วถึงขนาดทิ้งเงาไว้เลยหรือ?”
ชายที่มีรอยมีดบนหน้าพูดอย่างเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหาคำตอบได้
หลังจากกระพริบตาถามคำถามนี้ แววตาทั้งสองของชายที่มีรอยมีดบนหน้าเปลี่ยนเป็นไร้เเววตา เหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นภาพขาวดำ จากนั้นก็เริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ
ถึงตายเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินจิ้นถึงเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้
เขาจะตายได้อย่างไร?
ด้วยความคลางแคลงใจ เขาใช้ชีวิตเป็นทหารรับจ้างมานานหลายปี ทิ้งชื่อและความโด่งดังในแวดวงทหารราวกับอุกกาบาต
และทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจินตนาการไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะตายก็ต้องตายอย่างมีเกียรติ
แต่นี่เป็นการตายที่ไร้ค่า จากไปโดยไร้สุ้มเสียง
จนกระทั่งชายที่มีแผลบนหน้าล้มลงไป อีกคนที่อยู่ด้านข้างก็เริ่มมีปฏิกิริยา
ไม่รู้ว่าเฉินจิ้นปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
“แก แกเป็นคนหรือผีกันแน่?”
เขาฆ่าคนนับไม่ถ้วนและไม่เคยพบคู่ต่อสู้แบบนี้มาก่อน
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ มนุษย์ทั่วไปย่อมยากที่จะเข้าใจ
โดยปกติเขาก็เร็วมากอยู่แล้ว ขนาดอยู่ห่างออกไปเพียงแค่สิบเมตรก็ยังเลี่ยงกระสุนได้
แต่เมื่อเทียบกับเฉินจิ้นแล้วราวกับอยู่คนละโลก
ไม่ถูก นั่นแทบจะเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก ถึงเฉินจิ้นจะเร็วแค่ไหนก็ไม่น่าจะเร็วได้ขนาดนี้
นี่มันเร็วจนน่ากลัวเกินไปแล้ว
“จำไว้ ฉันเป็นผี!”
คำพูดของเฉินจิ้นเหมือนหลุดออกมาจากสำนักหวงฉวย ทำให้เขากลัวจนตัวสั่น
“ตอนนี้บอกฉันมาได้แล้ว ใครเป็นคนส่งพวกแกมา?”
ด้วยเสียงที่เย็นชาและไร้ความปรานีของเฉินจิ้น มือขวาของเขาก็ระเบิดเป็นละอองเลือด
------------
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน