ตอน บทที่ 34 แก ...กำลังมองหาฉันอยู่หรือ จาก จักรพรรดิมารหวนคืน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 34 แก ...กำลังมองหาฉันอยู่หรือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิมารหวนคืน ที่เขียนโดย หว่อปู้ซื่อZ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 34 แก ...กำลังมองหาฉันอยู่หรือ
“เป็นไปได้อย่างไร?” มือซุ่มยิงอยู่ตึกสูงใกล้เคียง มีสมญานามว่า แซจื่อ
เป็นนักแม่นปืนในกลุ่มทหารรับจ้างกระหายเลือด!
มีเพียงบางคนที่สามารถหลีกเลี่ยงกระสุนปืนไรเฟิลซุ่มยิงจากข้างหลังได้ เขาจึงไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่เพราะหัวหน้าของพวกเขา สูชิ่งหรุง นั้นไม่ใช่มนุษย์ ตราบใดที่เขาเตรียมพร้อมเขาก็สามารถหลีกเลี่ยงกระสุนปืนไรเฟิลได้
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงตอนที่เขาอยู่คนเดียว
แค่เฉินจิ้นที่กำลังอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เคลื่อนไหวก็ไม่สะดวกอยู่เเล้วยังสามารถหลบกระสุนเขาได้ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
เป็นบุคคลที่ฆ่าคนอำมหิตอย่างสูชิ่งหรุงได้
“แกหลบกระสุนได้ครั้งสองครั้งในขณะที่กำลังอุ้มผู้หญิง แต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะหลบกระสุนได้ถึงสิบครั้งร้อยครั้ง”
แซจื่อเผยรอยยิ้มมุมปากด้วยความตื่นเต้น
หากเขาสามารถซุ่มโจมตีคนเช่นนี้ได้ นั่นถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
และตราบใดที่เขาสามารถสังหารเฉินจิ้นได้ เขาจะเป็นราชาแห่งทหารรับจ้างกระหายเลือด
สูชิ่งหรุงถูกเฉินจิ้นทำลายได้ และแพร่สลายลงไปยังพื้นดินเหมือนโคลนไปเรียบร้อยเเล้ว ในสายตาแซจื่อเขาเป็นคนที่ตายไปแล้ว
เขาเบื่อหน่ายกับการดูดเลือดของสูชิ่งหรุงมามากพอแล้ว และหลังจากรอซุ่มยิงเฉินจิ้นเสร็จ เขาจะตามไปจัดการสูชิ่งหรุง พอถึงเวลานั้น เขาจะนำเอาหัวของสูชิ่งหรุงกลับไปที่กลุ่มทหารรับจ้างกระหายเลือด ทุกคนจะต้องตื่นเต้นที่ได้เห็นสูชิ่งหรุงตาย
และในฐานะคนที่ฆ่าสูชิ่งหรุง เขาจะกลายเป็นราชาองค์ใหม่ในกลุ่มทหารรับจ้างกระหายเลือด!
พอคิดๆดูแล้วก็ยิ่งทำให้แซจื่อรู้สึกตื่นเต้น
ต้องขอบคุณเฉินจิ้นจริงๆ
“เพื่อเป็นการขอบคุณ ฉันจะให้นายตายแบบมีความสุขสักหน่อย ให้นายและผู้หญิงของนายได้ครองคู่กันตาย”
แซจื่อมุ่งเป้าไปที่เฉินจิ้นและดึงทริกเกอร์อีกครั้ง
เขาปรับสภาพท่าทางและอารมณ์ตัวเองให้ดีที่สุด
กระสุนหลายนัดถูกยิงออกอีกครั้งเพื่อปิดตำแหน่งทั้งหมดที่เฉินจิ้นสามารถหลบได้
แม้ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะหลบไปทางไหนก็จะมีกระสุนนัดหนึ่งคอยทักทายเขา
แซจื่อยิ้มมุมปากราวกับว่าเขาได้เห็นภาพที่กระสุนยิงเข้าสู่ร่างกายของเฉินจิ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาประหลาดใจก็คือเขาเห็นว่าเฉินจิ้นไม่เพียงแต่หลบกระสุนได้ ทั้งยังเห็นเฉินจิ้นกำลังมองมาทางที่เขาอยู่ด้วยสีหน้าสงบ ปากบางค่อยๆขยับออกเป็นคำว่า “ตาย”
เมื่อคำว่า ตาย เปล่งออกมาก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ทว่าแซจื่อกลับรู้สึกเหมือนเทพปีศาจตื่นขึ้นมา
ความบ้าคลั่งที่สามารถกวาดล้างคนทั้งโลก
ความมืดมิดกำลังเผชิญเข้ามา!
ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้นี้ทำให้แซจื่อสั่นไหว
จากนั้นสิ่งที่เขาค้นพบได้นั่นก็คือความกลัว
เฉินจิ้น หายตัวไปแล้ว!
ราวกับว่าเขากะพริบเพียงแวบเดียว เฉินจิ้นก็หายตัวไป
กระสุนทั้งหมดที่เขายิงกลับว่างเปล่า!
"เกิดอะไรขึ้น?" แซจื่อมองหาใครสักคนอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เป้าหมายหายไปจากอากาศบางๆ
ไม่ว่าเขาจะพยายามมองหาอย่างไร เฉินจิ้นก็ดูเหมือนจะหายตัวไปจากอากาศดื้อๆ
ไม่จริง
มีร่องรอยของเหงื่อเย็นบนหน้าผากของแซจื่อ จากประสบการณ์หลายปีบอกเขาว่าที่นี่ไม่ควรอยู่นาน
แซจื่อลุกขึ้นทันที ไม่สำคัญว่างานจะเสร็จหรือไม่ ถ้าเขารู้สึกว่าอันตรายหรือผิดปกติจะต้องหนี และนี่เป็นครั้งแรกของเขาในการถอนตัวออกก่อน
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดว่าทำไมเขายังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขากำลังลุกขึ้น
ข้างหลังของเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเหมือนกำลังรอฆ่าเขาอยู่ “แก ...กำลังมองหาฉันอยู่หรือ?”
แซจื่อหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ
จากนั้นก็ทิ้งปืนไรเฟิลขนาดใหญ่ลง เขารีบพลิกตัวดึงปืนพกมาจากเอวของเขาโดยไม่มองมันด้วยสัญชาตญาณ และหันไปยิงข้างหลังอย่างต่อเนื่อง
เคลื่อนไหวร่างกายอย่างพริ้วไหว
หลังจากที่เสียงปืนเงียบลง เงาร่างหนึ่งก็ค่อยปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างช้าๆ
“แกยังมีวิธีอื่นอีกไหม?”
แซจื่อมองไปที่คนคนนั้นอย่างไม่น่าเชื่อ
มัน มันหาเขาเจอได้อย่างไร?
ทำไมมันมาถึงที่นี่เร็วได้ขนาดนี้?
แซจื่อแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง สายตาเต็มไปด้วยความผวา
เขาเป็นนักแม่นปืนที่เก่งในการซุ่มยิง ความสามารถของเขานั้นไม่เลวเลยทีเดียว หากเขาไม่ได้เป็นนักซุ่มยิงเขาก็ถือว่าเป็นทหารรับจ้างที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
แต่ แต่ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเฉินจิ้นเขาก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
เดิมสูชิ่งหรุงหัวหน้าพวกเขามักจะสังหารพวกเขาอย่างโหดร้ายเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ทนสูชิ่งหรุง พวกเขามักจะโมโหแต่พูดอะไรไม่ได้ พยายามปรนนิบัติสูชิ่งหรุงด้วยความระมัดระวัง
แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ สามารถฆ่าคนโหดร้ายอำมหิตอย่างสูชิ่งหรุงได้
“ถ้าแกไม่มีวิธีอื่นแล้ว อย่างนั้น แกก็ไปตายซะ!”
เฉินจิ้นเดินเข้าไปหาเขาและเอ่ยประโยคสุดท้าย
เมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว แซจื่อก็ไม่อาจนั่งรอความตายได้ ทันใดนั้นเขาพลิกตัวกระโดดขึ้น
ไม่ใช่เพราะจะพุ่งไปจัดการเฉินจิ้น แต่กลับพลิกตัววิ่งหนี
เขาวิ่งไปตามทางอย่างสุดกำลังความสามารถด้วยสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด
เขาวิ่งด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดในชีวิตของเขาเพื่อต้องการหลบหนี
อย่างไรก็ตามน้ำเสียงที่เหี้ยมโหดยังคงดังก้องหูราวกับว่ามีใครบางคนกำลังพูดอยู่ในหูของเขา
เฉินจิ้นทิ้งความประทับใจไว้ให้เขาอย่างล้ำลึก
ถ้าให้เขาหาคำมาใช้อธิบายในตัวเฉินจิ้น มีเพียงคำเดียวที่ไอ้เหอสามจะใช้ นั่นคือ...
น่าหวาดกลัว!
หรือเพิ่มได้อีกคำหนึ่ง
“ปีศาจ” เป็นคำที่สามารถแทนตัวเฉินจิ้นได้!
พอนึกถึงวิธีน่ากลัวของเฉินจิ้นแล้ว ตอนนี้ตัวของไอ้เหอสามเริ่มสั่นระริก
เขาห่างไกลกับบูโดขั้นสูงสุดเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินจิ้น เขาไม่กล้าที่จะแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน
ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินจิ้นยังเด็กเกินไป บนตัวก็ไม่มีพลังอำนาจของสกิลล่ะก็ ไอ้เหอสามคงคิดว่าเฉินจิ้นเป็นสกิลอย่างไม่คลางแคลงใจ
ดังนั้น ในเมื่อสูชิ่งหรุงบรรลุบูโดขั้นสูงสุดแล้ว คู่ต่อสู้ก็มีน้อย
ทว่าไอ้เหอสามยังไม่กล้าแน่ใจว่าสูชิ่งหรุงจะสามารถจัดการกับเฉินจิ้นได้หรือไม่
เขาต้องการเกลี้ยกล่อมเหอซิงหรุงไม่ให้แก้แค้น เพราะเหอเซ่าเป็นคนผิดก่อนที่อยากได้ภรรยาของเฉินจิ้นและต้องการกำจัดเขา
เฉินจิ้นเพิ่งลงมือฆ่าเหอเซ่า จากนั้นก็ให้เงื่อนไขโดยไม่ได้มาทำความเดือดร้อนให้ตระกูลเหอ นี่ก็เป็นผลดีมากแล้ว
ทว่าไอ้เหอสามรู้ดีว่า หากเขาพูดเรื่องพวกนี้ออกไป เหอซิงหรุงคงไม่ยอมฟังเขา
มองอีกมุมหนึ่ง ถ้าเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเหอซิงหรุง โดยที่ลูกชายของตัวเองถูกฆ่าตายและครอบครัวของตัวเองยังถูกข่มขู่ มีหรือที่เขาจะทนยอมได้
ส่วนหนึ่งคือรักลูกหมดใจ จึงคิดแก้เเค้นให้ลูกรัก
อีกส่วนคือศักดิ์ศรีของตระกูล ซึ่งไม่ยอมให้ผู้ใดมาดูหมิ่นได้
ไอ้เหอสามสูดหายใจ หวังว่าสูชิ่งหรุงจะสามารถกำจัดเฉินจิ้นได้สำเร็จ
ทันใดนั้นมีเสียงดังมาจากข้างนอกกะทันหัน
พ่อบ้านมองเข้าไปในห้องโถง ใบหน้าของเขาตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้น?” ใบหน้าเหอซิงหรุงแผ่ไอเย็น
พ่อบ้านเหมือนกำลังเครียด ทำอะไรไม่ถูก ดูเหมือนว่าจะต้องเปลี่ยนพ่อบ้านคนนี้เสียแล้ว
“สู...สูชิ่งหรุงกลับมาแล้วครับ” คำพูดของพ่อบ้านตื่นตระหนกเล็กน้อย
“ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ฉันบอกแล้วว่าไม่มีปัญหาแน่นอน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนในห้องโถงก็ลุกขึ้น
เหอซิงหรุงก็เช่นกัน สีหน้าเย็นเยือกก็เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“คืนนี้จะต้องเอาหัวเฉินจิ้นมาเซ่นไหว้ลูกชายฉัน!” เหอซิงหรุงลุกขึ้นนำทุกคนเดินออกไปต้อนรับสูชิ่งหรุง
พ่อบ้านเหงื่อตกกว่าเดิม เขาเพิ่งได้สติ ด้วยความตกใจของตัวเองจึงพูดออกไปไม่กระจ่าง จากนั้นจึงรีบบอกไปว่า “ไม่ ...ไม่ใช่ครับ สูชิ่งหรุงกลับมาแล้ว แต่...แต่ที่กลับมา คือ...คือ...ศพของเขา….”
------------
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน