จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 85

สรุปบท บทที่ 85 ปรมาจารย์สามท่านไปทางใต้: จักรพรรดิมารหวนคืน

สรุปเนื้อหา บทที่ 85 ปรมาจารย์สามท่านไปทางใต้ – จักรพรรดิมารหวนคืน โดย หว่อปู้ซื่อZ

บท บทที่ 85 ปรมาจารย์สามท่านไปทางใต้ ของ จักรพรรดิมารหวนคืน ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หว่อปู้ซื่อZ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 85 ปรมาจารย์สามท่านไปทางใต้

พวกกัวเทียนเวยและเจิ้งหยางโป๋ต่างก็ประหลาดใจมาก !

ชิ้นส่วนของค่ายปกป้องจวนที่กัวเทียนเวยมาตั้งหลายสิบปีกว่าจะครบ

ในฐานะที่พวกเฉันเป็นชั้นสุดปรมาจารย์ ตระหนักถึงอานุภาพของค่ายปกป้องจวนเป็นอย่างดี แต่พลังดาบของเฉินจิ้นที่ธรรมดาๆ กลับทำให้เกราะป้องกันด้านนอกพังลงทันที !

นี่เป็นไปได้อย่างไร ?

เขาทำได้อย่างไร ?

แต่ฉากต่อๆ ไปนั้น ทำให้พวกเขาผวาสุดขีด !

ระหว่างที่เฉินจิ้นฟาดดาบไป เกราะป้องกันค่ายก็พลังทลายลงทีละชั้น

จนกระทั่งถึงชั้นสุดท้าย !

ในที่สุดเฉินจิ้นก็หยุดลง

“ให้เวลาพวกคุณเตรียมตัวครึ่งวัน หลังจากครึ่งวันแล้วจะสังหารให้หมด !”

เฉินจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

จากนั้นก็พาโม้หลัวหายตัวไปจากที่เดิม !

กัวเทียนเวยกับเจิ้งหยางโป๋จึงได้รู้สึกโล่งใจ

เหนือหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ

“ความจริงแล้ว มันเป็นฝีมือต่ำต้อยในสายตาเขา !”

กัวเทียนเวยพูดอย่างเสียสติ

การบุกโจมตีที่เฉินจิ้นมีต่อเขามันมากเกินไป

สีหน้าของเจิ้งหยางโป๋ย่ำแย่มาก เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เฉันใจได้ถึงสาเหตุที่เฉินจิ้นทำเช่นนี้

“เทียนเวย หลังจากสังหารมันแล้ว ความเสียหายทุกอย่างของคุณหลังจากนี้ ฉันจะรับผิดชอบเอง !”

เฉินจิ้น หากคุณต้องการให้คนของตระกูลเจิ้งมาที่นี่ ถ้าเช่นนั้นฉันก็จะทำตามที่คุณต้องการ

คุณนี่อวดดีเหลือเกิน

ความแข็งแกร่งของตระกูลเจิ้ง คุณไม่สามารถจินตนาการได้ !

......

......

ภายในเรือนสี่ประสานแบบโบราณหลังหนึ่ง ชายชราที่มีเคราสีขาวและใบหน้าแดงก่ำผลักประตูห้องแล้วเดินออกมา

“ยินดีต้อนรับการออกมาของบรรพบุรุษครับ”

“ขอแสดงความยินดีกับความก้าวหน้าด้านพลังวิชาของบรรพบุรุษครับ !”

ในเรือนสี่ประสานมีอุทยานต่างๆ ที่หลากหลายเฉกเช่นสวนสาธารณะขนาดเล็กอันงดงาม ทำให้ผู้คนรื่นตาชื่นใจ

ในตอนนี้มีหลายคนกำลังยืนพูดและโค้งคำนับอย่างเคารพอยู่ที่นี่

หากมีคนแปลกหน้าอยู่ที่นี่ จะรับรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกอย่างเคารพนี้คือผู้ยิ่งใหญ่แต่ละภาค !

มีผู้ยิ่งใหญ่ด้านเศรษฐกิจ มีฉันราชการระดับสูง และปรมาจารย์บูโด......

ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ฉันงนอก คนเหล่านี้ก็คือผู้สำคัญในแต่ละด้าน เพียงกระทืบเท้าก็สั่นสะท้าน

ทว่าตอนนี้แต่ละคนกลับเคารพเป็นพิเศษ

หลังจากชายชราออกมาแล้ว ก็ได้เห็นลูกหลายที่หยิ่งผยองของตระกูลเจิ้งของเขาเต็มสวน ในใจจึงรู้สึกมีความสุขอย่างไม่รู้ตัว

“แล้วตงหยางล่ะ ?”

ชายชรามองไปรอบ ทันใดนั้นก็ตามขึ้น

เจิ้งตงหยางเป็นลูกหลานที่เขาชื่นชอบที่สุด พรสวรรค์อยู่เหนือกว่าเขา

“ตงหยาง......ตงหยางไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงครับ !”

หัวหน้าครอบครัวของตระกูลเจิ้งในตอนนี้คือ เจิ้งหย่วนถู เดินออกมาแล้วพูดอย่างเคารพ

ทว่าบนหน้าผากของเขามีเหงื่อจางๆ และแม้ว่าพลังวิชาของเขาจะเป็นชั้นกลางปรมาจารย์ แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถควบคุมเสียงอันสั่นเครือของตัวเองไว้ได้

เขาไม่กล้าจินตนาการเลยสักนิดว่าหลังจากชายชรารู้เรื่องของเจิ้งตงหยางเฉันแล้ว จะมีการตอบสนองอย่างไร

“คุณเด็กดื้อนี่ไม่อยู่เมืองหลวง ในความเป็นจริงหวังว่าจะได้เลื่อนขึ้นเป็นชั้นปรมาจารย์ก่อนสามสิบปี ไม่ยอมฝึกฝนให้ดี วิ่งไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ไม่รู้”

ชายชราพูดอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง ทว่าบนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู !

“ขอตอบคำถามของบรรพบุรุษนะครับ ตงหยางได้เลื่อนขึ้นเป็นชั้นปรมาจารย์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนครับ ท่านฝึกซ้อมอยู่ตลอด จึงมิกล้าที่จะมารบกวนท่านครับ แต่......” คำพูดของเจิ้งหย่วนถูยังไม่ทันจบก็ถูกชายชราขัดจังหวะขึ้นมา

ใบหน้าของชายชราเผยถึงความตื่นเต้น “เลื่อนขั้นตั้งแต่หนึ่งเดือนที่แล้ว ดีมาก สมเป็นลูกหลายของฉัน เจิ้งเจี้ยนหัว !”

“ฮ่าๆๆ รีบเรียกเขากลับมาเมืองหลวงเถอะ ฉันจะได้ทดสอบเขา !” เจิ้งเจียงหัวพูดด้วยรอยยิ้ม พลังวิชาของเขาได้ไปสู่ระดับที่สูงขึ้นอีกก้าวแล้ว ตอนนี้ก็ได้เดินมาถึงชั้นสูงสุดปรมาจารย์ และได้เริ่มก้าวเฉันแตะขอบแดนเสินแล้ว บางทีในชีวิตนี้อาจมีหวังก้าวไปสู่แดนเสิน

ส่วนเจิ้งตงหยาง ได้เลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์ในอายุน้อยกว่าสามสิบปี ไม่เพียงแต่เป็นปรมาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดของหวาเสี้ยในวันนี้ และพรสวรรค์อันสูงส่งของเขา มีหวังที่จะก้าวไปสู่แดนเสินได้ !

นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีซ้ำดีซ้อน

หากในอนาคตตระกูลเจิ้งจะมีแดนเสินอีกคนหนึ่ง หรือว่าเขากับเจิ้งตงหยางทั้งสองคู่ได้เลื่อนขั้นเป็นแดนเสิน แม้ว่าเจิ้งเจี้ยนหัวจะมีชีวิตมาตั้งร้อยปี เมื่อได้นึกถึงเรื่องนี้เล็กน้อยก็ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ การหายใจก็ถี่ขึ้นเล็กน้อย

หากเป็นเช่นนั้น ตระกูลเจิ้งของพวกเขากลายเป็นตระกูลใหญ่อันดับแรกของหวาเสี้ย แม้ว่าจะเป็นตระกูลที่ซ่อนเร้นลึกลับ เมื่อต้องเผชิญกับตระกูลเจิ้งของพวกเขาก็ต้องยอมโค้งคำนับ !

แต่ถูกเฉินจิ้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและตามสังหารตลอดทาง

หลังจากได้ยินข่าวนี้ ร่างของเจิ้งเจี้ยนหัวก็ระเบิดความอยากสังหารคนออกมาอย่างหาที่เปรียบมิได้

ทันใดนั้นกระเบื้องเคลือบรอบๆ ก็แตกกระจาย

ฝูงชนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็ไม่กล้าที่จะหายใจ

......

......

ในวันนี้ตระกูลเจิ้งในเมืองหลวงที่ลำดับชั้นญาติสูงสุดและเคยมีข่าวลือว่าหัวหน้าครอบครัวรุ่นก่อนๆ มรณภาพในท่านั่งสมาธิได้เลิกออกมาแล้ว

พลังของเขาทำให้ปรมาจารย์หลายท่านในเมืองหลวงต่างก็หวาดกลัว

ในช่วงเวลาหนึ่งผู้คนต่างคาดเดาว่าเจิ้งเจี้ยนหัวจะก้าวเฉันสู่แดนเสินแล้วหรือยัง

ในเวลาเดียวกัน สายตาของแต่ละคนก็มุ่งเน้นไปที่ตระกูลเจิ้ง

ทุกคนต่างก็สงสัยว่าการที่เจิ้งเจี้ยนหัวได้เลิกออกมานี้เกี่ยวข้องกับเฉินจิ้นแห่งเจียงเป่ยหรือไม่

เป็นอย่างที่คิด ในวันนั้นเจิ้งเจี้ยนหัวของตระกูลเจิ้งในเมืองหลวงได้พาปรมาจารย์สองท่าออกจากเมืองหลวงแล้วมุ่งหน้าตรงไปทางใต้ !

ผลลัพธ์นี้ทำให้หลายตระกูลในเมืองหลวงต่างก็ตกตะลึง

ตระกูลเจิ้งในเมืองหลวงแข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิด !

นอกจากทั้งปรมาจารย์ทั้งสองท่านเจิ้งตงหยางกับเจิ้งหยางโป๋ ก็มีปรมาจารย์อีกสามท่านที่เดินทางไปทางใต้ อีกอย่านี้ยังไม่ใช่อำนาจของตระกูลเจิ้งทั้งหมด แน่นอนว่ายังมีปรมาจารย์อยู่ในตระกูลเจิ้งขอเฝ้าดูอีกด้วย

นี่อาจหมายความว่าตระกูลเจิ้งในเมืองหลวงจะต้องมีปรมาจารย์อย่างน้อยหกคนหรือมากกว่านั้น !

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนต่างหวาดกลัวตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง ต่างพากันถอนหายใจ “ในคราวนี้ เฉินจิ้นจะต้องตายแน่เลย”

พวกเขาได้ประจักษ์พยานว่าดาวดวงใหม่อันเจิดจ้าที่ค่อยๆ สูงขึ้นในแดนบูโด

แต่ต่อไปพวกเขาก็จะประจักษ์พยานว่าดาวดวงใหม่นี้ได้ตกลงไปในทางที่น่าเศร้า

......

......

ที่เจียงหนาน นอกวิลล่าเทียนซิน !

หลังจากเฉินจิ้นรู้ว่าเจิ้งเจี้ยนหัวจะพาปรมาจารย์สองท่านมาช่วยเหลือเจิ้งหยางโป๋

มุมปากก็ยิ้มขึ้น !

“โม้หลัว เวลาที่คุณจัดการและควบคุมตระกูลเจิ้งมาถึงแล้ว !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน