“เปล่า ฉันไม่เป็นไร ก็แค่เป็นห่วงคุณ”
กู้หยุนหลันพูดด้วยรอยยิ้ม
หลี่โม่กุมมือของกู้หยุนหลันไว้แล้วมองไปที่เฝิงจื่อฉายที่กำลังรู้สึกตื่นตระหนก
ลูกน้องของเฝิงจื่อฉายถูกหลี่โม่จัดการไปหมดแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกกลัวมาก เขาพยายามหาทางวิ่งหนี แต่ข้างหลังเขาเป็นซอยตัน ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือหลี่โม่ ดังนั้นเขาไม่มีโอกาสที่จะหนีไปได้เลย
เฝิงจื่อฉายรู้สึกเสียใจและเสียดายมาก ถ้ารู้ว่าหลี่โม่เก่งขนาดนี้เขาคงไม่เรียกแค่ชูราทั้งหก แต่เขาจะขอยืมลูกน้องของจางจงหยางเป็นร้อยๆ คนเพื่อมาจัดการกับหลี่โม่อย่างแน่นอน
แต่ ณ เวลานี้เฝิงจื่อฉายทำได้เพียงเสียใจเท่านั้น นอกจากเสียใจแล้วเขายังรู้สึกว่าข้อมูลที่ฮั่วเจี้ยนเฟิงให้มานั้นไม่ถูกต้องเลย คนที่เก่งกาจขนาดนี้จะเป็นคนกระจอกไร้ค่าอย่างที่พูดได้ยังไง แค่ใช้ทักษะการต่อสู้ก็สามารถกลายเป็นคนโด่งดังได้แล้ว
“พี่ชาย ผมชื่อเฝิงจื่อฉายครับ ผมพอมีชื่อเสียงใจเมืองจินไห่นี้ เรื่องเมื่อกี้คือความเข้าใจผิดกันนะครับ พวกเราที่เดินอยู่สายนี้น่าจะให้อภัยกันได้นะครับ พี่ชายปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแบบนี้เถอะครับ”
เฝิงจื่อฉายคิดว่าเขายังมีไม้สุดท้าย ถ้าหาหลี่โม่ไม่ยอมจริงๆ เขาก็จะใช้ชื่อของจางจงหยางมากอ้าง เพราะเขาเชื่อว่าในเมืองจินไห่นี้ไม่มีใครกล้าต่อกรกับจางจงหยางอย่างแน่นอน
“แสดงความขอโทษสิ”
หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา
เฝิงจื่อฉายหน้าแดงก่ำทันที เขาไม่เคยขอโทษใครมาก่อน ที่ผ่านมาเขาได้แต่รังแกคนอื่นและคนที่เขารังแกยังก็ต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากเขาด้วย
“พี่ชาย มันจะเกินไปหน่อยไหม คุณก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่กลับเป็นผมมากกว่าที่เป็นฝ่ายเสียหาย ลูกน้องผมถูกคุณอัดจนสลบไปหมดแล้วนะ แถมยังต้องเสียค่ารักษาพยาบาลอีก ผมไม่เรียกร้องค่าเสียหายกับคุณก็ดีแค่ไหนแล้ว”
หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วชี้ไปที่ลูกน้องทั้งหกด้วยปลายเท้า “ดูเหมือนว่าคุณก็อยากนอนกับพวกเขาด้วยสินะ”
เฝิงจื่อฉายรู้สึกไม่พอใจทันที ไอ้หมอนี่มันไม่ฟังเหตุผลเลยจริงๆ ต่อให้มันเก่ง แต่ที่นี่คือเมืองจินไห่ ไม่ใช่เมืองฮ่านของมันนะ!
“คุณเก่งก็จริง แต่คนอย่างเฝิงจื่อฉายก็ไม่ใช่คนอ่อนแออะไรนะ จางจงหยาง เฮียหยางของเมืองจินไห่เป็นเพื่อนสนิทของผม ต่อให้คุณจะไม่ให้เกียรติผม แต่คุณก็ควรให้เกียรติเฮียหยางบ้างนะ”
“เฮียหยางไหน ไม่เคยได้ยิน ผมจะให้เวลาคุณขอโทษสิบวินาที หรือคุณจะไปนอนกับลูกน้องของคุณ”
ความหวังสุดท้ายของเฝิงจื่อฉายพังทลายลง เขาคิดว่าเมื่อเอ่ยถึงนามของจางจงหยางแล้วหลี่โม่จะเกียรติเขา แต่ที่ไหนได้หลี่โม่กลับไม่สนใจเลยแม้แต่นิด
“ได้สิ นายเก่งมาก กล้าไม่ให้เกียรติคนอย่างเฮียหยาง นายรอความซวยมาเยือนได้เลย”
เฝิงจื่อฉายทิ้งประโยคสุดท้ายแล้วเตรียมจะวิ่งหนี่ แต่หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วเตะไปที่เอวของเฝิงจื่อฉายจนเขาล้มลงกับพื้น
ความเจ็บปวดทำให้เฝิงจื่อฉายส่งเสียงร้องอย่างรุนแรง สองมือของเขากุมเอวไว้แน่นๆ ด้วยความเจ็บปวด เฝิงจื่อฉายคิดว่าเอวของเขาถูกหลี่โม่เตะจนหักไปแล้ว
“นายมันจะมากเกินไปแล้ว คอยดู เดี๋ยวนายเจอดี!”
เฝิงจื่อฉายกัดฟันพูด
เจ้าของร้านหลายคนในตลาดดอกไม้ได้แต่มองมาที่เฝิงจื่อฉายจากที่ไกล เพราะเขาเป็นที่รู้จักและเป็นที่น่าเกรงขามของทุกคน ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปหาเขา
ทุกคนต่างก็ต้องตกใจที่เห็นหลี่โม่อัดเฝิงจื่อฉายร่วงลงพื้น
“โห ไอ้หมอนั่นคงมาจากต่างแดนแน่เลย ถ้าเป็นพวกเราชาวเมืองจินไห่ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเฮียฉายหรอก มันต้องซวยแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...