ซูเม่าเหวินกลิ้งเข้าไปในห้องประชุม แม้จะเต็มไปด้วยความอัปยศ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างหลี่โม่ เขายังคงยิ้มแย้ม ไม่กล้าแสดงอารมณ์ออกมาแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นคนกลิ้งเข้ามาจริง ๆ เฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นพวกเขาก็หัวเราะออกมา
“ไอ้เศษสวะแกหานักแสดงมาจากไหน แสดงเก่งจริง ๆ ให้เข้ามา เขาก็กลิ้งเข้ามาจริง ๆ ต่อไปฉันก็คงต้องจ้างนักแสดงแบบนี้มาสักกลุ่ม มาเป็นเพื่อนเสแสร้งได้เป็นอย่างดีแน่นอน”
“เพื่อเงินทำได้ทุกอย่าง มันช่างไร้ยางอายสิ้นดี ไอ้คนที่ขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ไม่ใช่ผู้นำตระกูลซูแน่นอน น่าขำจริง ๆ”
“นักแสดงคนนี้จ้างมาเท่าไหร่? ฉันจะจ่ายให้สิบเท่า แค่แกคลานเข้ามาเห่าให้ฉันฟังสองครั้ง”
เฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆเอาซูเม่าเหวินมาพูดเล่น ตอนนี้ความโกรธในใจของซูเม่าเหวินถูกเปลี่ยนไปอยู่ที่เฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆแล้ว
“คุณหลี่ ผมได้กลิ้งเข้ามาแล้ว คนเหล่านี้ไม่เคารพคุณหลี่ โปรดให้ผมระบายแค้นแทนคุณหลี่” ซูเม่าเหวินยังอยู่ในท่าที่กลิ้ง แล้วกล่าวอย่างจริงใจ
หลี่โม่ยิ้ม “อากัปกิริยาไม่เลว ลุกขึ้น งั้นพวกเขาก็ปล่อยให้คุณจัดการแล้วกัน”
“ขอบคุณครับคุณหลี่ ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดี จะสั่งสอนพวกเขาอย่างดี”
ซูเม่าเหวินถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกว่าตามปฏิกิริยาของหลี่โม่ ขอแค่ตนเองแสดงความจริงใจมากพอ คงจะได้รับการอภัยจากหลี่โม่
ซูเม่าเหวินลุกขึ้นยืน มองเฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ ด้วยสายตาที่เย็นชา
เมื่อเฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของซูเม่าเหวินได้อย่างชัดเจน รูปลักษณ์ของซูเม่าเหวินค่อยๆ ซ้อนทับกับรูปภาพของซูเม่าเหวินในความทรงจำของเฝิงจื่อฉาย เฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆ ค้นพบพร้อมกับความหวาดกลัว คนที่กลิ้งเข้ามาจากประตู เป็นซูเม่าเหวินผู้นำตระกูลซูจริง ๆ!
“ซู ซู ซูเม่าเหวิน คือซูเม่าเหวินจริงๆ! นี่ นี่เป็นไปไม่ได้! มันคงเป็นภาพหลอนของฉัน!”
“ฉันมองแล้วคือซูเม่าเหวิน เป็นไปได้ไหมว่าไอ้เศษสวะจะหาคนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายซูเม่าเหวิน? ถ้าเป็นผู้ตระกูลซูจริง ๆ ไม่น่าจะกลิ้งเข้ามามั้ง”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนที่อยู่ตรงหน้าใช่ผู้นำตระกูลซูหรือเปล่า?”
เฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆ ตกตะลึงโดยสิ้นเชิง ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าเป็นซูเม่าเหวิน ยิ่งรู้สึกว่าเป็นซูเม่าเหวิน หัวใจของเฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆ ยิ่งเย็นยะเยือกขึ้นไปเรื่อย ๆ
ซูเม่าเหวิน กลิ้งเข้ามาจริง ๆ
เมื่อสักครู่คนที่ตนเองหัวเราะเยาะ เป็นผู้นำตระกูลซูจริง!
ล่วงเกินผู้นำตระกูลซู จะมีจุดจบยังไง!
รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเฝิงจื่อฉายน่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้เสียอีก เขาใช้สองมือประสานกัน กล่าวกับซูเม่าเหวินว่า “ซู ผู้นำตระกูลซู เมื่อสักครู่พวกเราไม่รู้ว่าเป็นคุณ ได้โปรดให้อภัยด้วย”
“ให้อภัยเหี้ยอะไร! กล้าไม่เคารพคุณหลี่ เป็นโทษที่ใหญ่มหันต์! บอดี้การ์ด !”
ซูเม่าเหวินตะคอกเสียงดัง
บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกประตูรีบเข้ามาในห้องประชุม แล้วมองไปที่บอดี้การ์ดของเฝิงจื่อฉาย
บอดี้การ์ดของเฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างมาก เพียงแค่มองไปที่ลักษณะพลังของอีกฝ่าย พวกเขาก็รู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้บอดี้การ์ดของซูเม่าเหวิน
“ท่านประธานเฝิง พวกเรา พวกเรากลัวว่าจะไม่สามารถปกป้องท่านได้ บอดี้การ์ดของผู้นำตระกูลซูนั้นเก่งเกินไป”
บอดี้การ์ดของเฝิงจื่อฉายกล่าวอย่างร้อนรน
สีหน้าของเฝิงจื่อฉายเปลี่ยนเป็นขาวซีดเผือด คำรามใส่บอดี้การ์ดข้าง ๆ ตนเอง “ไอ้สารเลวพวกแกยังไม่รีบถอยไปอีก”
เวลานี้เฝิงจื่อฉายเข้าใจดี เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความเมตตา ขอแค่เพียงผ่อนหนักให้เป็นเบา ถ้าให้บอดี้การ์ดต่อต้าน มันเป็นพฤติกรรมที่รนหาที่ตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...