“คุณคิดว่าอยากพบคุณหลี่เมื่อไหร่ก็ได้งั้นเหรอ?”
ซุนฮุ่ยกางพูดอย่างไม่เกรงใจ
อย่าว่าแต่หวางจงเสวียนเลย แม้แต่ซุนฮุ่ยกางก็แทบจะไม่ได้โอกาสได้เจอกับเจ้าของบริษัทหยุนจงหลันกรุ๊ป
ซุนฮุ่ยกางเองก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้เจอหลี่โม่มาระยะหนึ่งแล้ว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าของบริษัทคิดอะไรอยู่ โครงการลงทุนที่ใหญ่ขนาดนี้แต่กลับไม่สนใจอะไรเลย เขาไม่กลัวเกิดความผิดพลาดใดๆ เลยหรือ
ซุนฮุ่ยกางได้แต่ส่ายหัวแล้วดึงสติกลับมา จากประสบการณ์หลายปีของการเป็นผู้จัดการในบริษัททำให้เขารู้ว่าเขาไม่ควรสงสัยในการตัดสินของเจ้านาย
หวางจงเสวียนอ้อนวอนด้วยสีหน้าขมขื่น “ถ้าวันนี้ผมไม่ได้พบคุณหลี่ บุคลากรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราเตรียมไว้ก็คงต้องยกเลิกกันหมดแล้วครับ เพราะเราไม่มีเงินทุนมากมายมาจ่ายพวกเขาแล้วครับ”
“นั่นคือปัญหาของพวกคุณนะ ในสัญญาเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าวันเวลาในการเริ่มงานอยู่ที่ทางเราจะกำหนด ถ้าเราไม่อนุมัติพวกคุณก็เริ่มงานไม่ได้”
ซุนฮุ่ยกางพูดอย่างประชดประชัน
หวางจงเสวียนแทบจะเป็นบ้า “ท่านประธานซุนครับ อย่างน้องต้องให้เวลาคร่างๆ กับเรานะครับ ถ้าทางนี้บอกจะให้เริ่มงานพรุ่งนี้เลยแล้วพวกเราจะหาคนที่ไหนมาทำงานครับ”
“แล้วคุณจะเอายังไง? คุณไม่มีทางได้พบเจ้านายเราหรอก เก่งจริงคุณก็ไปหาเขาเองสิ”
หวางจงเสวียนสงบสติอารมณ์แล้วมองไปที่โทรศัพท์บนโต๊ะและพูดว่า “รบกวนท่านช่วยโทรแจ้งคุณหลี่หน่อยได้ไหมครับ สถานการณ์ของเราเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ นะครับ”
“เจ้านายไม่อยู่บริษัท แล้วคุณจะให้ผมโทรหาใคร? ผมไม่มีเบอร์ติดต่อส่วนตัวของเขาด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อผม เดี๋ยวผมให้คนพาคุณไปรอที่ออฟฟิศก็ได้ ดูว่าคุณจะรอได้สักกี่ชั่วโมง”
ซุนฮุ่ยกางส่ายหัวแล้วปิดเอกสารในมือและโยนไปด้านข้าง
เมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่น่าเบื่อในช่วงนี้ ซุนฮุ่ยกางก็เต็มไปด้วยความหงุดหงิด
“ผมจะบอกคุณนะ เจ้านายผมมีเงินมหาศาล แล้วบริษัทหยุนจงหลันกรุ๊ปก็เหมือนแค่ของเล่นของเขาเท่านั้น เขาไม่ได้ใส่ใจหยุนจงหลันกรุ๊ปมากเท่าไหร่หรอกนะ ดีไม่ดีอาจจะลืมบริษัทหยุนจงหลันกรุ๊ปไปแล้วด้วยซ้ำ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะนึกขึ้นได้เมื่อไหร่ ดังนั้นเรื่องวันเวลาในการเริ่มโครงการของคุณก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายผมจะนึกขึ้นได้เมื่อไหร่แล้วล่ะ”
สามพี่น้องหวางจงเสวียนถึงกับตกตะลึง พวกเขาต่างก็คิดว่าเงินสองพันล้านในการลงทุนหยุนจงหลันกรุ๊ปก็เป็นเงินก้อนใหญ่มหาศาลแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าสำหรับคุณหลี่แล้วกลับเป็นเหมือนของเล่นชิ้นเล็กๆ เท่านั้น
นั่นเงินสดสองพันล้านเลยนะ!
เขาลืมเงินก้อนนี้ไปได้ไง?
เขาต้องมีเงินมากเท่าไหร่กันแน่ เศรษฐีระดับพันล้านยังไม่กล้าเอาเงินสองพันล้านมาล้อเล่นเลย
แม้กระทั่งมหาเศรษฐีระดับแสนล้านก็คงไม่เอาเงินสองพันล้านมาล้อเล่นอย่างแน่นอน!
“ท่านประธานซุนครับ แล้วเราควรทำยังไงดีครับ ต้องรอต่อไปเหรอครับ?”
หวางจงเสวียนถามอย่างจนปัญญา
“ก็รอต่อไปสิ ขนาดผมยังรออยู่เลยไม่เห็นเหรอ ที่ดินกว้างใหญ่ขนาดนี้แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย บางทีผมยังแอบสงสัยเลยว่าผมเป็นตาแก่เฝ้าสวนหรือเปล่า แล้วถ้าไม่มีอะไรพวกคุณกลับกันก่อนดีกว่า”
หวางจงเหิงกระซิบข้างหูหวางจงเสวียน “พี่ ลองถามประธานซุนดูสิว่าเจ้านายเขารู้จักหลี่โม่กับกู้หยุนหลันจริงหรือเปล่า”
หวางจงเสวียนลังเลในใจแต่ก็คิดว่านี่เป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขาแล้ว
“ท่านประธานซุนครับ ผมอยากรบกวนถามหน่อยว่าเจ้านายคุณรู้จักกู้หยุนหลันกับหลี่โม่หรือไม่ครับ?”
“ผมจะไปรู้ได้ไงว่าเจ้านายผมรู้จักใครบ้าง หรือว่าพวกคุณโดนหลอกมา? แต่ในเมืองฮ่านนี้คงมีไม่กี่คนที่สามารถรู้จักเจ้านายผมหรอก”
ซุนฮุ่ยกางพูดอย่างเฉยเมย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...