กู้เจี้ยนเจียงถลึงตาใส่หลี่โม่ แค้นใจจนอยากจะต่อยหลี่โม่แรงๆสักสองหมัด ต้อนรับซินแสจางเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงกับยังดื้อรั้น ถ้าเกิดล่วงเกินซินแสจางเข้าจริงๆ คนเขาทำเรื่องคลุมเครืออะไรสักเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ตระกูลกู้บ้านแตกสาแหรกขาดได้
อยู่ห่างจากผีและเทพเจ้า แต่ว่าพอถึงเวลาที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาถึงตนเอง ใครก็ต่างรู้สึกยำเกรง กู้เจี้ยนเจียงตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้
หลี่โม่ยิ้มเย็นส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างดูถูกว่า "ซินแสอะไร ก็แค่พวกดูดวงต้มตุ๋นเท่านั้น ทำไมจะต้องเคารพคนหลอกลวงแบบนี้ด้วย"
เห็นหลี่โม่พูดว่าซินแสจางเป็นนักต้มตุ๋น กู้เจี้ยนเจียงร้อนรนจนเท้าลอย ชี้จมูกของหลี่โม่ตะโกนใส่ว่า "นายอยากตายใช่มั้ย กล้าไม่เคารพซินแสจาง! กู้หยุนหลัน รีบขับไล่สามีไร้ประโยชน์ของเธอออกไป ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้เขามาพูดเหลวไหลได้!"
ชายหนุ่มในชุดจีนสี่คนต่างกำลังมองหลี่โม่ด้วยสายตาเย็นชา ค่อยๆเดินไปหาหลี่โม่อย่างช้าๆ แสดงให้เห็นถึงการโอบล้อมกลายๆ
"นายกล้าพูดว่าซินแสจางเป็นนักต้นตุ๋น! ซินแสจางนั้นได้รับวิชามาจากปรมาจารย์ซินแส ตอนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถได้รับตำแหน่งซินแส!"
ชายหนุ่มชุดจีนเอ่ยอย่างเย็นชา "รีบคุกเข่าลงยอมรับผิดกับซินแสจางเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นถ้าซินแสจางโกรธขึ้นมาจะเกิดฟ้าร้องจากสวรรค์!"
"คุยโวก็ไม่รู้จักร่างแผนก่อนเลย วันนี้ท้องฟ้าสดใสดวงอาทิตย์สีขาว ให้ซินแสจางคนนั้นส่งฟ้าร้องลงมาให้ฉันดูหน่อย"
หลี่โม่เอ่ยหยอกล้อ
ชายหนุ่มชุดจีนชะงักไปเล็กน้อย พูดว่าฟ้าร้องจากสวรรค์นั่นเป็นการเปรียบเทียบที่เกินจริง ใครใช้ให้นายคิดเป็นจริงกัน!
"อาจารย์จางเป็นซินแส เชี่ยวชาญเรื่องลักษณะพื้นภูมิฮวงจุ้ย ไม่ใช่เทพสวรรค์!"
ชายหนุ่มชุดจีนถลึงตาจ้องหลี่โม่แล้วเอ่ยตอบ
หลี่โม่ยิ้มกริ่มเอ่ยว่า "ดังนั้น? เมื่อกี้นายก็กำลังคุยโม้น่ะสิ ความสามารถที่ไม่มีจะต้องไม่พูดเรื่อยเปื่อย"
"แกไอ้บ้า เข้าไปทั้งหมด ตีให้มันมีชีวิตอยู่อย่างไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ดูซิว่ามันยังจะอวดดีอย่างไร!"
ชายหนุ่มชุดจีนสี่คนต่างก็วางมาดออกมา ตอนที่กำลังเตรียมที่จะลงมือกับหลี่โม่นั้น เสียงทุ้มหนักมีชีวิตชีวาสายหนึ่งก็ดังออกมา
"พวกนายนี่วุ่นวายอะไรกันอยู่ บอกนายตั้งนานแล้วว่าต้องถ่อมตัวเข้าถึงได้ วันทั้งวันอย่าได้แกล้งทำท่าทางวางมาดแต่นำไปใช้จริงไม่ได้พวกนี้ ฉันก็ไม่ใช่เทพเซียนผู้วิเศษ"
คนที่พูดคือชายชราฉันขาวเคราขาวคนหนึ่ง ชายชราสวมเสื้อผ่ากลางแบบสมัยราชวงศ์ถัง มองดูแล้วมีกลิ่นอายเทพเซียนลอยออกมา ค่อนข้างมีบุคลิกสูงส่ง
กู้เจี้ยนกั๋วค้อมตัวลงเล็กน้อยติดตามอยู่ด้านข้างชายชรา มองหลี่โม่อย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ในใจคิดว่าไอ้หนุ่มนี่สร้างเรื่องให้ตนเองอีกแล้ว สมควรที่จะสั่งสอนเขาให้ดีๆ!
"ล้วนเป็นท่าทีของเด็กรุ่นหลังในตระกูลของฉันที่ไม่ดี ขอให้ซินแสจางอย่าได้โกรธเคืองพวกลูกศิษย์เลย ฉันจะต้องสั่งสอนเด็กรุ่นหลังในตระกูลให้ดีๆแน่"
กู้เจี้ยนกั๋วเอ่ยอย่างต่ำต้อยเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าซินแสจางจะพูดว่าอย่าได้วางมาดใหญ่โต แต่ว่าใครจะรู้ว่าในใจของซินแสจางจะคิดอย่างไร คนที่ใบหน้ายิ้มละไมด้านหลังแทงมีดอย่าได้มากเกินไปเลย
ถึงแม้ว่าซินแสจางจะปากกับใจตรงกัน รับรองได้ยากว่าลูกศิษย์ที่ถูกตำหนิจะไม่มีความคิดอะไรในใจ กู้เจี้ยนกั๋วคิดว่าคนที่เชี่ยวชาญด้านความคิดปรัชญาเหล่านี้เป็นคนที่ล่วงเกินไม่ได้สักเล็กน้อย
หลังจากพูดอย่างต่ำต้อยกับซินแสจางเสร็จ กู้เจี้ยนกั๋วรีบก้าวเท้าไปทางหลี่โม่ ตำหนิเสียงสูงว่า "แกมันคนไร้ค่าที่ก็ได้แต่สร้างเรื่อง! รีบไปขอโทษต่อซินแสจางและเหล่าลูกศิษย์เร็วเข้า!"
"คุณลุงใหญ่ หลี่โม่นั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะพูด"
กู้หยุนหลันเอ่ยเสียงเบา
หลี่โม่ยิ้มเย็นเอ่ยว่า "อาศัยอะไรมาให้ฉันขอโทษ ไม่ต้อนรับเขาก็มีความผิด? พวกเขาให้หยุนหลันไปเปิดประตูรถให้ซินแสจาง ก็นับว่าเป็นการบังคับอิสระผู้อื่น ก็เป็นการทำความผิดแล้ว"
"ไอ้สารเลวปากร้ายนี่! เวลานี้ยังกล้าเถียงอีก!"
กู้เจี้ยนกั๋วโกรธจนพ่นไฟ แค้นใจจนอยากมีมีดในมือไปแทงหลี่โม่ให้ตาย
ประธานหวางและคนอื่นๆเห็นเหตุการณ์วุ่นวาย พากันเข้ามาไกล่เกลี่ย
"น้องชายหลี่ นายอย่าได้ดื้อรั้นเลย รีบไปยอมรับผิดกับซินแสจางเถอะนะ ซินแสจางนั้นมีความสามารถทางเต๋า ไม่อาจไม่เคารพนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...