จักรพรรดิมังกร นิยาย บท 646

สรุปบท บทที่ 646 ได้ออกหน้าออกตาอย่างเต็มที่: จักรพรรดิมังกร

บทที่ 646 ได้ออกหน้าออกตาอย่างเต็มที่ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิมังกร

ตอนนี้ของ จักรพรรดิมังกร โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 646 ได้ออกหน้าออกตาอย่างเต็มที่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

กู้หยุนหลันเห็นว่าคนที่ลุกยืนขึ้นเป็นจูเจียนเฉียง เอามือปิดหน้าอย่างช่วยไม่ได้

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงยังอยู่ในเมืองฮ่าน นี่จะไล่ตามตื้อเหรอ?

หลี่โม่ยิ้มและยื่นมือออกมา และพูดอย่างสุภาพ:“นายไม่เห็นด้วยกับมุมมองของผมในจุดไหน สามารถช่วยชี้และบ่งบอกออกมาให้ชัดเจนได้ไหม”

“ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของนายทั้งหมด ทุกสิ่งที่นายพูดผมไม่เห็นด้วยทั้งนั้น” จูเจียนเฉียงแสดงอารมณ์ของคนโต้เถียงได้อย่างเต็มที่

ผู้ชมที่ฟังการบรรยายหัวเราะขึ้นมาทันที จูเจียนเฉียงพูดแบบนี้ คือการโต้เถียงชัดๆ

“นายปิดปากเถอะ อย่ายืนออกมาโต้เถียงเลย พวกเราทุกคนในที่นี้ล้วนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติกันทั้งนั้น ไม่ต้อนรับคนโต้เถียง”

“นี่คือประตูบ้านใครปิดไม่แน่น แล้วปล่อยให้คนโต้เถียงนี้วิ่งออก รีบพามันกลับบ้านไปกินยาซะ”

“คนนี้ดูไม่คุ้นหน้าเลยอ่ะ ดูเหมือนจะไม่อยู่ในวงการของพวกเรานะ เป็นใครที่พาเข้ามาหรือเปล่า และจงใจที่จะมาก่อปัญหา?”

เมื่อได้ยินทุกคนนินทา จูเจียนเฉียงที่ฟังอยู่ โมโหจนเกือบจะพ่นเลือดออกมา

“พวกเธอทุกคนหุบปากกันซะ ผมกำลังพูดคุยการโต้วาทีกับหลี่โม่อยู่ พวกเธอจะมายุ่งด้วยทำไม และทำไมพวกเธอถึงบอกว่าผมเป็นปรมาจารย์แห่งการตอบโต้!พวกเธอที่ไม่มีความรู้ และไม่มีมารยาท”

เพื่อนร่วมทีมไม่กี่คนในรอบตัวจูเจียนเฉียง ในขณะนี้ทุกคนต่างก็มีความรู้สึกร้อนบนใบหน้าของพวกเขา รู้สึกแสบร้อนเกินไป ไอ่จูเจียนเฉียงนี้คือจะบ้าไปแล้วเหรอ ถึงกล้าที่จะเริ่มต้นการโจมตีแบบกลุ่ม

เพื่อนร่วมทีมทุกคนต่างย้ายที่นั่งแยกออกจากกัน ออกห่างจากจูเจียนเฉียง เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่รู้จักคนๆ นี้

คำพูดของจูเจียนเฉียงทำให้หลี่โม่ดีใจจนเกือบจะหัวเราะออกมาอย่างดัง

คิดอยู่ในใจลึกๆ ว่าด็อกเตอร์จูคนนี้คงน่าจะปัญญาอ่อนจริงๆ นามสกุลและชื่อนี้นี่เข้ากันจริงๆ และพ่อของเขาก็มองการณ์ได้ไกลจริงๆ เลยอ่ะ

ตอนนี้ด็อกเตอร์จูคนนี้กำลังโจมตีแบบเต็มหน้าจอ ทีนี้ไม่จำเป็นต้องเสียน้ำลายของตนเอง ก็คงจะถูกทุกคนที่อยู่ในนี้พ่นตายเลยแหละ

แน่นอน หลังจากที่ทุกคนตกตะลึงและเมินงง พวกเขาทุกคนต่างก็ยิงปืนใหญ่ปากจู่โจมใส่จูเจียนเฉียง

ในทันใดนั้น อีโง่ทั้งสองได้เริ่มการทะเลาะวิวาทขึ้นมา ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้คนโรคจิต จูเจียนเฉียงโดนทุกคนรุมด่าจนอารมณ์แปรปรวน ถึงขั้นที่จะระเบิดแล้ว

จูเจียนเฉียงที่เงียบงันระเบิดแล้ว กระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้แล้วยืนขึ้นอย่างสูง โบกมือและตะโกนทันทีว่า: “หุบปากกันซะ ผมจะคุยกับหลี่โม่ หลี่โม่นายกล้าที่จะแข่งขันโต้วาทีกับผมอีกครั้งไหม!"

“ผู้พ่ายแพ้ยังจะกล้ากลับมาอีกครั้ง ความกล้าหาญของนายมีค่าควรแก่การชื่นชมมาก งั้นก็มาเถอะ”

หลี่โม่จ้องมอง จูเจียนเฉียงอย่างเฉยเมย และทำท่าทางเชิญ

จูเจียนเฉียงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี สายตาจ้องไปที่หลี่โม่ ไม่ได้ออกเสียงเป็นเวลานาน

“นักศึกษาจูเจียนเฉียงเกิดอะไรขึ้น ทำไม นิ่งแล้วเหรอ”

“คนเขาก็ตกลงที่จะแข่งขันโต้วาทีกับนายแล้ว ทำไมนายถึงไม่พูดแล้วล่ะ อย่าบอกว่ากลัวแล้วนะ”

“สมองคนนี้นี่มันมีปัญหาจริงๆ ไม่กล้าไปรุกรานคนปัญญาอ่อนหรอก”

จูเจียนเฉียงโกรธและโมโหมาก กลั้นไว้เป็นเวลานาน ในที่สุดก็โผล่ออกมาคำหนึ่ง:“นายพูดก่อน!"

“ผมจะพูดก่อนยังไง คนที่ไม่เห็นด้วยกับมุมมองของผมคือนาย งั้นนายก็ต้องชี้และบ่งบอกมุมมองของผมมีข้อผิดพลาดที่ไหนบ้าง ผมถึงจะสามารถพูดได้” หลี่โม่ก็ยังยิ้มและจ้องมองจูเจี้ยนเฉียงเหมือนเดิม

จูเจียนเฉียงกัดฟันอย่างดุดัน เขาไม่ได้ฟังการบรรยายของหลี่โม่ในเมื่อสักครู่เลย จมอยู่กับความเกลียดแค้นที่มีต่อหลี่โม่โดยสิ้นเชิง แน่นอนว่าตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะชี้และบ่งบอกข้อผิดพลาดของหลี่โม่ได้

ผู้จัดการของกวนเหลินถังได้ยินว่ามีคนมาก่อเรื่องในบนเวทีการบรรยาย จึงรีบมาอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าวงการวิชาการจะไม่ได้ใกล้ชิดกับวงการธุรกิจ แต่ส่วนมากวงการธุรกิจมักจะมีความต้องการที่จะให้วงการวิชาการช่วยเหลือ เช่น เทคโนโลยีใหม่ๆ สิทธิบัตรใหม่ๆ การพัฒนาร่วมกันและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และหวังว่านักวิชาการในระดับไฮเอนด์จะสามารถทำการล็อกบี้ในบางอย่างให้สำเร็จฯ

ถ้าสามารถทำให้หลี่โม่เป็นเน็ตไอดอลนักวิชาการได้ หลังจากนั้นก็ให้หลี่โม่ช่วยนำสินค้าต่างๆ จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังขึ้นได้อย่างแน่นอน ทุกวันนี้ วิธีการทางการตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเน็ตไอดอลถ่ายทอดสดขายของในออนไลน์ไม่ใช่เหรอ!

ทันใดนั้น คุณชายร่ำรวยหลายคนที่มาเข้าร่วมการบรรยายต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมา ความคิดของพวกเขาได้คิดไปถึงในทางเดียวกัน ต้องการที่จะทำส่งเสริมให้เป็นเน็ตไอดอล เพื่อให้เน็ตไอดอลช่วยขายสินค้าได้อย่างสมบูรณ์ และพร้อมด้วยโชว์หน้าให้ครอบครัว

คุณชานร่ำรวยที่ตื่นเต้น ต่างก็ไปล้อมรอบที่หลี่โม่กัน

“คุณหลี่ ผมเป็นคนของบริษัทโฮลดิ้งระหว่างประเทศเมืองฮ่าน ผมต้องการสนับสนุนงานวิจัยของคุณ และช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ”

“พวกเรารก็สนับสนุนด้วย คุณต้องการกองทุนเท่าไหร่ ภายในสามวันพวกเราจะเตรียมกองทุนได้แน่นอน”

“พวกเราอยากจะเชิญชวนคุณหลี่มาเยี่ยมชมที่บริษัท พวกเราทำงานในด้านสื่อภาพยนตร์ วางแผนที่จะส่งเสริมให้คุณหลี่เป็นเน็ตไอดอลนักเศรษฐศาสตร์เครือข่าย สามารถหาเงินได้มากมายจากการถ่ายทอดสดขายสินค้า ร่วมมือแบบวินๆ กัน!"

ทุกคนนินทาและพูดคุยกัน แต่หลี่โม่กลับบีบออกมาจากฝูงชน ดึงกู้หยุนหลันและวิ่งออกไป

กู้หยุนหลันวิ่งอยู่ข้างๆ หลี่โม่ แอบเขินและพูดว่า:“วันนี้นายนี่ได้ออกหน้าออกตาได้อย่างเต็มที่เลยนะ และไอ่จูเจียนเฉียงนี้ก็ ยังจะไล่ตามตื้ออยู่ได้"

“เขาไล่ตามตื้อ ก็เป็นเพราะเธอสวยเกินไปไม่ใช่เหรอ”

“เชอะ อะไรคือฉันสวยเกินไป เธอต่างหากที่เป็นคนทำร้ายจิตใจเขา เขามาที่นี่เพื่อที่จะฟื้นคืนภาคภูมิใจในตอเองนั้นกลับมา”

ทั้งสองคนล้อเล่นสองสามคำ เมื่อเห็นคุณชายร่ำรวยที่กระตือรือร้นไล่ตามออกมา เขาสองคนจึงวิ่งเร็วขึ้น

ในขณะที่เขาสองคนกำลังวิ่ง เงาหัวของอู๋เต้าเหวินก็ปรากฏขึ้นในที่ปลายทางเดิน อู๋เต้าเหวินโบกมือให้หลี่โม่อย่างแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร