เมื่อมองเห็นอู๋เต้าเหวินที่โผล่ออกมาในทันที หลี่โม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ดึงกู้หยุนหลันวิ่งเข้าหาเขาอย่างไม่ลังเล
หลังจากที่เข้าไปในห้องของอู๋เต้าเหวิน กู้หยุนหลันวิ่งหนีจนหายใจไม่ออกเล็กน้อย
“เต้าเหวิน นี่นายทำอะไร ทำไม่ผมรู้สึกว่านายกำลังแอบๆ ซ่อนๆ อยู่?
หลี่โม่ถามแบบตรงๆ
อู๋เต้าเหวินเหลือบมองกู้หยุนหลัน จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มที่บูดบึ้ง:“เอ่อ เจอปัญหานิดหน่อย ค่อนข้างจะยุ่งยาก เลยไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร ก็เลย"
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย มองไปในทางที่ประตูเล็กที่ปลายห้องแล้วพูดว่า:“ออกไปจากที่นี่ได้ไหม?"
“ได้สิ ผมส่งพวกเธอออกไป คุณหลี่ นายพอจะมีเวลาคุยกับผมหน่อยไหม”
อู๋เต้าเหวินจ้องหลี่โม่และพูด
หลี่โม่อยิ้มและพูดว่า:“ได้สิ เดียวส่งหยุนหลันกลับไปแล้ว พวกเราอยากจะพูดอะไรก็ได้เลย"
“โอเค ดีเลย"
อู๋เต้าเหวินก้าวเดินไปที่ประตูเล็ก เปิดประตูเล็กแล้วเดินออกไปก่อน
ด้านหลังประตูเล็กเป็นถนนลับ เห็นได้ชัดเลยว่านี่คือทางผ่านที่อู๋เต้าเหวินเตรียมไว้สำหรับการหลบหนีให้แก่ตนเอง
หลี่โม่และกู้หยุนหลันเดินตามหลังออกมา หลังเดินอย่างบิดเบี้ยวพวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่จอดรถ
“ทางหลบหนีของนายซ่อมแซมได้ดีนะ ออกมาก็เป็นสถานที่ที่จอดรถเลย ขึ้นรถของผมเถอะ” หลี่โม่พูดเสร็จก็เดินไปที่ด้านหน้าของ เบนซ์ และเปิดประตู
กู้หยุนหลันนั่งหน้า อู๋เต้าเหวินนั่งหลัง หลี่โม่สตาร์ทรถและขับรถออกจากสถานที่จอดรถ
“ความคิดที่การสร้างห้องบรรยายในเมืองของนายนั้นค่อนข้างดีอยู่นะ ต่อไปก็ขยันหมั่นเพียรตั้งใจทำและสู้อีกต่อไป"
หลี่โม่พูดคำนี้ออกมาแบบผ่านๆ เพื่อเปิดบรรยากาศที่อึดอัด
อู๋เต้าเหวินยิ้มขมขื่นและพูดออกมาสองสามคำอย่างเฉยเมย เพราะความคิดในใจของเขาหนักแน่นเหลือเกิน ไม่มีอารมณ์ที่จะล้อเล่นเลย
เมื่อเห็นอู๋เต้าเหวินไม่มีอารมณ์ที่จะล้อเล่น หลี่โม่ก็ไม่ได้พูดอีกเลย
ขับรถกลับถึงที่วิลล่าบนภูเขาอย่างราบรื่น กู้หยุนหลันรู้ว่าทั้งสองคนมีเรื่องจะคุยกัน ดังนั้นจึงเดินลงจากรถคนเดียว และเดินเข้าไปในทางวิลล่า
“ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว มีเรื่องอะไรนายก็บอกออกมาตรงๆ เลย มีคนรังแกนายเหรอ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น?” ระหว่างที่หลี่โม่พูดก็เอาบุหรี่ออกมาแท่งหนึ่งแล้วยื่นให้อู๋เต้าเหวิน
อู๋เต้าเหวินรับบุหรี่ที่หลี่โม่มอบให้ หลังจากที่สูบสองสามคำแล้วหยิบซองจดหมายออกจากกระเป๋าของเขา
นำซองจุดหมายยื่นให้หลี่โม่ อู๋เต้าเหวินพูดด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง:“นี่คือมีคนส่งให้นาย ผมลังเลนานมาก คิดในใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับนายดีไหม
แท้จริงแล้ว เวลาที่บรรยายไม่ได้เป็นวันนี้ ผมแค่อยากจะบอกเรื่องบางอย่างให้นาย เขาเลยเตรียมกิจกรรมการบรรยายของวันนี้อย่างเร่งรีบ นายเปิดดูเนื้อหาของซองจดหมายนี้ก่อนเถอะ "
ซองจดหมายดูธรรมดามาก เป็นแค่ซองกระดาษคราฟท์ธรรมดาๆ แต่ที่ตราประทับของซองจดหมาย ติดโลโก้หัวกะโหลกสีดำไว้
หลี่โม่บีบซองจดหมายเบาๆ หลังจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า:“ข้างในคือลูกปืน ค่อนข้างจะใหญ่ น่าจะเป็นลูกปืนไรเฟิลซุ่มยิง"
“อืม ผมจับดูแล้วก็รู้สึกเหมือน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...