จักรพรรดิมังกร นิยาย บท 77

สรุปบท บทที่ 77 ไปขอโทษ: จักรพรรดิมังกร

ตอน บทที่ 77 ไปขอโทษ จาก จักรพรรดิมังกร – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 77 ไปขอโทษ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิมังกร ที่เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 77 ไปขอโทษ

สมองของกู้หยุนหลันในตอนนี้ว่างเปล่า เธอพยักหน้ารับ แล้วให้หลี่โม่พาเธอออกไป

แต่แล้ว หวางเมิ่งเหยาที่อยู่ด้านข้างก็ถลาตัวเข้ามาขวางทางหลี่โม่กับกู้หยุนหลันเอาไว้ แล้วตะโกนตีโพยตีพายว่า “แกออกมาได้ยังไง? ทำไมแกถึงไม่บาดเจ็บเลยฮะ? แล้วคนที่ถูกทำร้ายเมื่อกี้คือใครกัน?”

เธอไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าหลี่โม่จะออกมาโดยไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บใดๆแบบนี้

หลี่โม่หันกลับไปมองหวางเมิ่งเหยาด้วยสายตาเย็นชา แล้วกล่าวเตือนไปว่า “หลีกไป!”

คำง่ายๆเพียงสองคำ ทำเอาหวางเมิ่งเหยาตกใจจนก้าวถอยหลัง

น่ากลัวจริงๆทั้งน้ำเสียงและท่าทางนั่น!

นี่เป็นสิ่งที่คนไร้ประโยชน์แบบเขาจะแสดงออกมาได้งั้นเหรอ?

นี่ทำให้ภายในใจของหวางเมิ่งเหยาทั้งเกลียดทั้งหวาดกลัว จู่ๆเธอก็ยกมือขึ้นตั้งใจจะตบแรงๆไปที่หน้าของหลี่โม่พร้อมกับตะโกนว่า “แกกล้าดุฉันหรอ? พี่ฉันกับท่านเฉียวยังอยู่แกก็กล้าดุฉันเหรอ?”

ป้าบ!

เธอหวดมือลง แต่กลับถูกอีกฝ่ายบีบค้างเอาไว้แน่นกลางอากาศ

หลี่โม่บีบข้อมือของเธอ เขาใช้แรงเพียงเล็กน้อย หวางเมิ่งเหยาก็เจ็บจนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“อย่าบังคับให้ผมต้องลงมือ!” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก จากนั้นก็สะบัดมือของหวางเมิ่งเหยา ก่อนจะตั้งท่าพากู้หยุนหลันจากออกมา

หวางเมิ่งเหยาที่ถูกผลักจนเซเกิดความโกรธแค้นใจ เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะมองไปเห็นหวางห้านเชาที่เดินกะเผลกออกมาจากประตู

จมูกฟกช้ำใบหน้าบวมเป่ง บาดเจ็บไปทั้งตัว!

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

“พี่คะ!”

หวางเมิ่งเหยารีบพุ่งตัวเข้าไปพยุงหวางห้านเชาเอาไว้ทันที “ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ใครตบพี่กันคะ? เป็นไอ้เศษสวะหลี่โม่นั่นใช่ไหม!”

พูดจบ หวางเมิ่งเหยาก็มองจ้องหลี่โม่กับกู้หยุนหลันที่กำลังจะเดินออกจากประตูด้วยสายตาอาฆาตแค้น เธอรีบพุ่งตัวไปคว้าเอาแจกันอันหนึ่งที่ด้านข้าง ก่อนจะฟาดไปที่กู้หยุนหลัน!

ในตอนนั้นหวางห้านเชาอยากจะคว้าตัวน้องสาวที่โง่เขลาของเขาเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันการณ์ เขาได้แต่มองฉากเบื้องหน้าอย่างสิ้นหวัง

เรื่องเกิดขึ้นไวมาก!

ทุกคนต่างพาก็ตกใจ หลี่โม่สัมผัสได้ถึงความอันตรายที่ด้านหลังของเขา เขาผลักกู้หยุนหลันออกไปด้วยสัญชาตญาณ ก่อนจะยกมือขึ้นบังไว้ และก็บังเอาไว้ได้ทันจริงๆ

แจกันถูกฟาดลงบนแขนของหลี่โม่ ความเจ็บบังเกิดขึ้น ส่วนแจกันนั้นแตกออก

เลือดสดๆไหลลงมาตามแขนของเขา

แขนของหลี่โม่ถูกบาดจนเป็นแผลใหญ่

กู้หยุนหลันเบิกตากว้าง เธอกระวนกระวายใจโผตัวเข้าไป แล้วมองดูมือของหลี่โม่ที่เต็มไปด้วยเลือด

ในเวลานี้เธอโมโหมาก เธอหันหลังกลับไป เดินกระแทกส้นสูงเสียงดักตึกตึกตึกตรงเข้าหาหวางเมิ่งเหยา ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วหวดลงบนใบหน้าของหวางเมิ่งเหยาอย่างแรง พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “หวางเมิ่งเหยา ตบครั้งนี้ฉันคืนให้เธอ!”

ป้าบ!

แล้วก็ตบอีกครั้ง!

“ส่วนครั้งนี้เป็นการตบแทนสามีฉัน!”

จากนั้น กู้หยุนหลันก็ใช้กระดาษชำระปิดที่แผลของหลี่โม่เอาไว้ ก่อนจะรีบผ่านหลี่โม่ออกมา

ในตอนนั้นเอง คนทั้งสำนักงานแทบจะระเบิด!

ไม่มีใครกล้าออกเสียง

ฉากแต่ละฉากเบื้องหน้า ทำเอาพวกเขาไร้ซึ่งการตอบสนอง

หวางห้านเชาโดนทำร้ายจนแทบดูไม่ได้ หวางเมิ่งเหยาก็ถูกกู้หยุนหลันตบติดกันไปสองครั้ง

เฉียวเจิ้งหลงยืนอยู่หน้าประตู เขาใช้สายตาโกรธแค้นมองไปยังสองพี่น้อง แล้วพูดเสียงเข้มว่า “พวกเรากลับ”

เมื่อกี้ หลี่โม่ได้พูดกับเขา ว่าเรื่องของหวางห้านเชาเขาจะจัดการเอง ไม่ต้องการให้เฉียวเจิ้งหลงยื่นมือเข้ามาแทรกอีกแล้ว

ในเวลานั้นเฉียวเจิ้งหลงก็เข้าใจว่า ในเมืองฮ่านจะไม่มีตระกูลหวางอีกต่อไป

หวางห้านเชาก็เข้าใจเหมือนกัน ดังนั้นหลังจากที่เขาออกมาแล้วถึงได้เป็นราวกับคนตาย ในเวลานั้นก็ยังเห็นน้องสาวตัวเองทำให้หลี่โม่บาดเจ็บอีก ใจของเขาก็รู้ทันทีว่า พวกเขาตายแน่

ภายในคลินิกเล็กๆบนถนน

กู้หยุนหลันไปจัดการกับบาดแผลเป็นเพื่อนหลี่โม่ เธอนั่งเจ็บปวดใจอยู่ข้างเขา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เป็นยังไงบ้าง เจ็บหรือเปล่า?”

หลี่โม่ยิ้มอย่างมีความสุข “ไม่เป็นไรครับ แผลเล็กนิดเดียว คุณนั่นล่ะ เจ็บหน้าหรือเปล่า?”

กู้หยุนหลันคิ้วโค้งงอ บนใบหน้ายังมีรอยบวมแดงอยู่เล็กน้อย

นึกถึงว่าในเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ หลี่โม่เป็นราวกับเจ้าชายขี่ม้าขาวที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเธอ

หัวใจเต้นแรงแบบนั้น ไม่ได้มีมานานแล้ว

หลี่โม่เหมือนจะเปลี่ยนไปจริงๆ

กู้หยุนหลันส่ายหน้า เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร เมื่อกี้...ขอบคุณนะ”

หลี่โม่ยิ้ม “คุณเป็นภรรยาผมนะครับ พูดขอบคุณอะไรกับผมกัน”

กู้หยุนหลันมองค้อนเขาไปหนึ่งที ก่อนจะหยิกเนื้อน้อยบริเวณเอวของเขา แล้วพูดว่า “ก็นายน่ะปากเสีย แต่ว่า เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมคนที่โดนทำร้ายในห้องทำงานนั่นถึงไม่ใช่นายล่ะ?”

“พอได้แล้ว!”

แต่แล้วหวางฉางเห้อกลับตะคอกขึ้น ก่อนจะถลึงตาใส่หวางเมิ่งเหยา เขาเหลือบตามองหวางห้านเชาแล้วถามขึ้นว่า “ลูก ลูกแน่ใจใช่ไหมว่าท่านเฉียวมีท่าทางเคารพหลี่โม่มากน่ะ?”

หวางห้านเชาพยักหน้า “ใช่ครับ ผมเห็นด้วยตาตัวเองเลย หลี่โม่คนนี้จะต้องไม่ใช่แค่ลูกเขยแต่งเข้าธรรมดาๆแบบนั้นแน่”

“ฮึ! พวกพี่น่ะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ หนูว่านะ ไอ้เฉียวเจิ้งหลงนั่นก็คงมีแต่ชื่อเสียงจอมปลอมนั่นล่ะ แม้แต่กับเศษสวะแบบนั้นก็ยังกลัว” หวางเมิ่งเหยาบ่นพึมพำ สีหน้าเต็มปด้วยความหยิ่งผยอง

หวางฉางเห้อถลึงตาใส่เธอ ก่อนจะส่ายหน้าและถอนหายใจ แล้วดุขึ้นว่า “ลูก ทำไมลูกถึงยังไม่เข้าใจอีก? เฉียวเจิ้งหลงไม่ใช่คนธรรมดานะ คำพูดของเขาแค่ประโยคเดียว ในเมืองฮ่านนี้ตระกูลหวางเราก็ไร้ที่ยืนได้เลย ลูกเข้าใจไหม?”

ได้ยินพ่อพูดแบบนั้น หวางเมิ่งเหยาตระหนักถึงความหนักหนาของปัญหานี้ เธอถามอย่างไม่กล้าแม้แต่จะเชื่อว่า “พ่อคะ พ่ออย่าทำหนูตกใจสิคะ นี่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ก็เห็นๆอยู่ว่าหลี่โม่มันก็แค่ไอ้คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งนะคะ”

หวางฉางเห้อส่ายหน้า ในใจร้อนรนจนแทบแย่

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น!

หวางฉางเห้อรับโทรศัพท์ แล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “แม่งเอ๊ยใครกันวะ! บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาขายของให้ มีบ้านมีเงินครบแล้วเว้ย!”

“เหอๆ หวางฉางเห้อ นี่ผมเอง ฉู่จงเทียน” เสียงหนึ่งดังขึ้นในโทรศัพท์

ฉู่จงเทียน?

หวางฉางเห้อตกใจจนเหงื่อแตก เขาพูดตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดกลัว “ท...ท่านเทียน?”

ชื่อของฉู่จงเทียนในเมืองฮ่านนี้ ก็คือจุดสูงสุดของอำนาจ!

แค่เขาพยักหน้าครั้งเดียว ตระกูลหวางก็สามารถหายไปจากเมืองฮ่านอย่างไร้ร่องรอยได้เลย

คิดไม่ถึงเลย ว่าฉู่จงเทียนผู้ที่เป็นเฮียของสังคมอิทธิพลมืดแห่งเมืองฮ่านจะโทรศัพท์หาเขา

“ท่านเทียน ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าเป็นท่าน ก็เลยนึกว่าเป็นพนักงานขายโทรมา” หวางฉางเห้ออธิบายด้วยรอยยิ้มที่แฝงความประจบเอาไว้บนใบหน้าของเขา “ท่านเทียน ทำไมจู่ๆถึงโทรหาผมเหรอครับ?”

ฉู่จงเทียนขี้เกียจที่จะอ้อมค้อม จึงกล่าวตรงประเด็นไปว่า “มีคนให้ผมมาเตือน ว่าอย่าสร้างปัญหาให้คนของบริษัทวินเซิงที่ชื่อกู้หยุนหลัน ไม่อย่างงั้น ชื่อของตระกูลหวางแห่งเมืองฮ่านจะกลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์!”

ป้าบ!

เมื่อพูดประโยคนั้นจบ สายโทรศัพท์ก็วางไป

หวางฉางเห้อตกตะลึงจนยืนค้างอยู่กับที่ ทั้งตัวสั่นและเหงื่อออกท่วม เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา แล้วพึมพำออกมาว่า “จบกัน จบแน่ ตระกูลหวางของเราจบเห่แน่”

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หวางฉางเห้อก็ลุกขึ้นพูดอย่างร้อนรนว่า “เร็วเข้า พวกลูกรีบไปบริษัทวินเซิงกับพ่อเดี๋ยวนี้เลย!”

“พ่อครับ ทำไมจู่ๆจะไปบริษัทวินเซิงล่ะครับ? พ่อเป็นอะไรไป?” หวางห้านเชาไม่เข้าใจ

“ทำอะไรน่ะเหรอ? ก็ไปขอโทษกู้หยุนหลันแทนแกสองคนยังไงล่ะ!”

หวางฉางเห้อพูดอย่างโมโห “รู้ไหมว่าใครโทรมา? ฉู่จงเทียน ท่านเทียนน่ะ! ครั้งนี้พวกแกเอาปัญหาใหญ่มาให้พ่อเลยนะ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร