ที่ชายแดนประเทศเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ บริเวณรอบนอกหลายสิบกิโลเมตรที่ร้างไร้ผู้คนแห่งหนึ่ง
เงาสองร่างวิ่งไล่ตะบึงกันด้วยความเร็วสูงสุดคนหนึ่งหน้าคนหนึ่งหลังราวกับมารร้าย
คนที่อยู่ด้านหน้าเป็นชายอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่ง
โฉดชั่วอำมหิต บนใบหน้ายังมีรอยมีดบากยาวกว่าสิบเซนติเมตรอยู่รอยหนึ่ง โดดเด่นจนน่าตกตะลึง ในมือถือง้าวที่เปล่งแสงแวววาว ทั้งร่างส่งกลิ่นอายเมาโลหิตอันเข้มข้น
อายุของคนที่อยู่ด้านหลังอยู่ที่ประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี
เครื่องหน้าเรียบร้อย แต่งกายด้วยชุดผ้าไหม ทั่วทั้งร่างตลบอบอวลไปด้วยรังสีสังหาร ในมือกุมดาบโค้งเหล็กกล้า ตัวดาบบนตัวดาบสามารถมองเห็นตัวอักษร ‘สำนักอิ๋ง’ ได้อย่างเลือนราง ดาบนี้มีชื่อว่าดาบโค้งเหลิ่งเยว่!
“แมยิสเตร็ด นายไล่ตามฉันมาสามวันสามคืนแล้วนะ เพื่อเงินเดือนอันน้อยนิดที่น่าสงสารของนาย คุ้มที่จะทุ่มสุดชีวิตขนาดนี้เลยเหรอ?”
ชายหน้าบากวิ่งมาถึงที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งแล้วหยุดลง สายตาที่ราวกับสัตว์ป่าคู่หนึ่งจ้องชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเขม็ง
“นักฆ่า แกสูญเสียจิตสำนึกไปจนหมดแล้ว ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ชั่วช้าไม่มีใครเกิน!” แมยิสเตร็ดหยุดฝีเท้าไว้ในเวลาเดียวกัน “วันนี้คือวันตายของแก!”
“เฮอะ!” นักฆ่าสบถเสียงเย็น “พวกคนของสำนักอิ๋งอย่างพวกนายคิดว่าตัวเองเป็นคนกอบกู้โลกจริง ๆ งั้นเหรอ?”
“บนโลกนี้มีคนชั่วอยู่มากมายขนาดนั้น พวกนายจะฆ่าได้หมดงั้นเหรอ!?”
“ขุดรากถอนโคนอำนาจมืด บำรุงขวัญพลเมืองดี ลงโทษคนชั่ว กำจัดสิ่งเลวร้าย ยินดีใช้ทั้งชีวิตของฉันแลกมากับฟ้าที่สดใส!” แมยิสเตร็ดตอบกลับเสียงสูง
“คนที่ชั่วช้าแบบนักฆ่าอย่างแก สำนักอิ๋งเจอเมื่อไหร่ฆ่าเมื่อนั้น!”
“เหอะ!”นักฆ่าสบถเสียงเย็นอีกครั้ง
“นายคิดว่าฉันกลัวนายจริง ๆ แล้วอย่างนั้นเหรอ? เพื่อนร่วมทีมของนายหายกันไปหมดแล้ว อาศัยนายจะมาฆ่าฉันน่ะ ฝันกลางวันจริง ๆ!”
“ปัญญาอ่อน!” สายตาของแมยิสเตร็ดเข้มขึ้น “พอได้แล้ว ไม่พูดจาไร้สาระกับนายแล้ว ตายไปเถอะ!”
ฟ้าว ๆ ๆ!
สิ้นเสียง ร่างของเขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ดาบโค้งที่อยู่ในมือลากออกมาเป็นแสงเยือกเย็นอันคมกริบหลายเส้น
“คิดจะฆ่าฉันก็ต้องดูว่านายมีความสามารถนั้นไหม!” นักฆ่าตะโกนออกมาเสียงดัง มือทั้งคู่โบกไหว ง้าวโผล่ออกมาพร้อมเสียงสูงและยาว
เคร้ง ๆ ๆ!
บริเวณนั้นมีเสียงปะทะที่เสียดหูดังขึ้นมา ประกายไฟกระจายขึ้นรอบด้าน พลังดาบกระจายไปทั่ว
ฟึ่บ!
หลังจากที่ทั้งสองคนสู้กันสิบกว่ายกแล้ว แมยิสเตร็ดก็หลบท่าดาบของนักฆ่า พลิกข้อมือหนึ่งที ดาบโค้งก็ลากตรงกลางเอวของนักฆ่าเป็นแผลยาวสิบกว่าเซนติเมตร โลหิตพุ่งออกมารวดเร็วราวลูกธนู
“หืม? นึกไม่ถึงว่าแกจะทำให้ฉันเป็นแผลได้ สมควรตายจริง ๆ”
นักฆ่าตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล ง้าวสับลงไปที่บ่าของแมยิสเตร็ดด้วยความรวดเร็วและรุนแรงอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้
เคร้ง!
รูม่านตาของแมยิสเตร็ดหดลงเล็กน้อย ร่างของเขาพุ่งไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ปรากฏเห็นร่างของเขาเพียงครึ่ง ในขณะเดียวกันเขาก็ยกมือขึ้นขวางเอาไว้ เสียงปะทะกันดังกังวานขึ้นอีกครั้ง
ปึง ๆ ๆ!
เนื่องจากถูกรับแรงปะทะได้ แมยิสเตร็ดถูกกำลังที่ปะทุขึ้นอย่างบ้าคลั่งของนักฆ่าสั่นสะเทือนจนถอยหลังไปห้าหกก้าว ที่แขนเริ่มมีความรู้สึกชา ลมปราณของเขาแสดงออกมาสับสนอยู่เล็กน้อย
จากนั้นนักฆ่าก็ไม่ได้เร่งลงมืออีก เขาฉีกเศษผ้าที่อยู่บนร่างกายมาจัดการกับบาดแผลเลือดอาบของเขา
กริ๊ง!
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ดาวเทียมบนร่างของแมยิสเตร็ดก็ส่งเสียงดังขึ้นมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
โทรศัพท์เครื่องนี้มีน้อยคนมากที่รู้เบอร์โทร ใช่จัดการเรื่องราวเร่งด่วนโดยเฉพาะ โทรศัพท์นี้ดังขึ้นมาจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ ๆ!
“ผมคือแมยิสเตร็ด ใครครับ?” แมยิสเตร็ดกวาดตามองนักฆ่าทีหนึ่ง เห็นเขาไม่มีท่าทีจะออกกระบวนท่า ขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
“ผมคือลู่เยว่!” ปลายสายส่งเสียงหนัก ๆ ของลู่เยว่ออกมา “ลูกสาวของท่านผู้บังคับบัญชาโดนจับตัวไป เป็นตายอาจรู้ รีบมาหยุนเฉิง!”
“อะไรนะ!?” แมยิสเตร็ดตะโกนออกมาเสียงดัง ในขณะเดียวกันความหนาวเหน็บที่ทำให้ผู้คนหายใจไม่ออกก็กระจายออกมาจากร่างของเขา
นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าจับลูกสาวของท่านผู้บังคับบัญชาไป นี่คืออยากโดนสังหารเก้าชั่วโคตรหรือ!?
“ขอเวลาผมไม่กี่ชั่วโมง จะรีบไปเดี๋ยวนี้!”
หลังจากที่วางหูโทรศัพท์แล้ว แมยิสเตร็ดก็มองไปยังนักฆ่า “ฉันไม่มีเวลาเล่นเป็นเพื่อนแกแล้ว จำไว้ว่าชาติหน้าให้เป็นคนดี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด
ไม่ลงตอนต่อไปแล้วหรอค่ะ...
รอๆๆๆ...