จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด นิยาย บท 3

สรุปบท บทที่ 3 เขตตะวันตกเกรี้ยวกราด: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด

สรุปเนื้อหา บทที่ 3 เขตตะวันตกเกรี้ยวกราด – จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด โดย สุ้ยเยว่หย่งเหิง

บท บทที่ 3 เขตตะวันตกเกรี้ยวกราด ของ จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย สุ้ยเยว่หย่งเหิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ที่ชายแดนประเทศเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ บริเวณรอบนอกหลายสิบกิโลเมตรที่ร้างไร้ผู้คนแห่งหนึ่ง

เงาสองร่างวิ่งไล่ตะบึงกันด้วยความเร็วสูงสุดคนหนึ่งหน้าคนหนึ่งหลังราวกับมารร้าย

คนที่อยู่ด้านหน้าเป็นชายอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่ง

โฉดชั่วอำมหิต บนใบหน้ายังมีรอยมีดบากยาวกว่าสิบเซนติเมตรอยู่รอยหนึ่ง โดดเด่นจนน่าตกตะลึง ในมือถือง้าวที่เปล่งแสงแวววาว ทั้งร่างส่งกลิ่นอายเมาโลหิตอันเข้มข้น

อายุของคนที่อยู่ด้านหลังอยู่ที่ประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี

เครื่องหน้าเรียบร้อย แต่งกายด้วยชุดผ้าไหม ทั่วทั้งร่างตลบอบอวลไปด้วยรังสีสังหาร ในมือกุมดาบโค้งเหล็กกล้า ตัวดาบบนตัวดาบสามารถมองเห็นตัวอักษร ‘สำนักอิ๋ง’ ได้อย่างเลือนราง ดาบนี้มีชื่อว่าดาบโค้งเหลิ่งเยว่!

“แมยิสเตร็ด นายไล่ตามฉันมาสามวันสามคืนแล้วนะ เพื่อเงินเดือนอันน้อยนิดที่น่าสงสารของนาย คุ้มที่จะทุ่มสุดชีวิตขนาดนี้เลยเหรอ?”

ชายหน้าบากวิ่งมาถึงที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งแล้วหยุดลง สายตาที่ราวกับสัตว์ป่าคู่หนึ่งจ้องชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเขม็ง

“นักฆ่า แกสูญเสียจิตสำนึกไปจนหมดแล้ว ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ชั่วช้าไม่มีใครเกิน!” แมยิสเตร็ดหยุดฝีเท้าไว้ในเวลาเดียวกัน “วันนี้คือวันตายของแก!”

“เฮอะ!” นักฆ่าสบถเสียงเย็น “พวกคนของสำนักอิ๋งอย่างพวกนายคิดว่าตัวเองเป็นคนกอบกู้โลกจริง ๆ งั้นเหรอ?”

“บนโลกนี้มีคนชั่วอยู่มากมายขนาดนั้น พวกนายจะฆ่าได้หมดงั้นเหรอ!?”

“ขุดรากถอนโคนอำนาจมืด บำรุงขวัญพลเมืองดี ลงโทษคนชั่ว กำจัดสิ่งเลวร้าย ยินดีใช้ทั้งชีวิตของฉันแลกมากับฟ้าที่สดใส!” แมยิสเตร็ดตอบกลับเสียงสูง

“คนที่ชั่วช้าแบบนักฆ่าอย่างแก สำนักอิ๋งเจอเมื่อไหร่ฆ่าเมื่อนั้น!”

“เหอะ!”นักฆ่าสบถเสียงเย็นอีกครั้ง

“นายคิดว่าฉันกลัวนายจริง ๆ แล้วอย่างนั้นเหรอ? เพื่อนร่วมทีมของนายหายกันไปหมดแล้ว อาศัยนายจะมาฆ่าฉันน่ะ ฝันกลางวันจริง ๆ!”

“ปัญญาอ่อน!” สายตาของแมยิสเตร็ดเข้มขึ้น “พอได้แล้ว ไม่พูดจาไร้สาระกับนายแล้ว ตายไปเถอะ!”

ฟ้าว ๆ ๆ!

สิ้นเสียง ร่างของเขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ดาบโค้งที่อยู่ในมือลากออกมาเป็นแสงเยือกเย็นอันคมกริบหลายเส้น

“คิดจะฆ่าฉันก็ต้องดูว่านายมีความสามารถนั้นไหม!” นักฆ่าตะโกนออกมาเสียงดัง มือทั้งคู่โบกไหว ง้าวโผล่ออกมาพร้อมเสียงสูงและยาว

เคร้ง ๆ ๆ!

บริเวณนั้นมีเสียงปะทะที่เสียดหูดังขึ้นมา ประกายไฟกระจายขึ้นรอบด้าน พลังดาบกระจายไปทั่ว

ฟึ่บ!

หลังจากที่ทั้งสองคนสู้กันสิบกว่ายกแล้ว แมยิสเตร็ดก็หลบท่าดาบของนักฆ่า พลิกข้อมือหนึ่งที ดาบโค้งก็ลากตรงกลางเอวของนักฆ่าเป็นแผลยาวสิบกว่าเซนติเมตร โลหิตพุ่งออกมารวดเร็วราวลูกธนู

“หืม? นึกไม่ถึงว่าแกจะทำให้ฉันเป็นแผลได้ สมควรตายจริง ๆ”

นักฆ่าตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล ง้าวสับลงไปที่บ่าของแมยิสเตร็ดด้วยความรวดเร็วและรุนแรงอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้

เคร้ง!

รูม่านตาของแมยิสเตร็ดหดลงเล็กน้อย ร่างของเขาพุ่งไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ปรากฏเห็นร่างของเขาเพียงครึ่ง ในขณะเดียวกันเขาก็ยกมือขึ้นขวางเอาไว้ เสียงปะทะกันดังกังวานขึ้นอีกครั้ง

ปึง ๆ ๆ!

เนื่องจากถูกรับแรงปะทะได้ แมยิสเตร็ดถูกกำลังที่ปะทุขึ้นอย่างบ้าคลั่งของนักฆ่าสั่นสะเทือนจนถอยหลังไปห้าหกก้าว ที่แขนเริ่มมีความรู้สึกชา ลมปราณของเขาแสดงออกมาสับสนอยู่เล็กน้อย

จากนั้นนักฆ่าก็ไม่ได้เร่งลงมืออีก เขาฉีกเศษผ้าที่อยู่บนร่างกายมาจัดการกับบาดแผลเลือดอาบของเขา

กริ๊ง!

ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ดาวเทียมบนร่างของแมยิสเตร็ดก็ส่งเสียงดังขึ้นมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

โทรศัพท์เครื่องนี้มีน้อยคนมากที่รู้เบอร์โทร ใช่จัดการเรื่องราวเร่งด่วนโดยเฉพาะ โทรศัพท์นี้ดังขึ้นมาจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ ๆ!

“ผมคือแมยิสเตร็ด ใครครับ?” แมยิสเตร็ดกวาดตามองนักฆ่าทีหนึ่ง เห็นเขาไม่มีท่าทีจะออกกระบวนท่า ขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

“ผมคือลู่เยว่!” ปลายสายส่งเสียงหนัก ๆ ของลู่เยว่ออกมา “ลูกสาวของท่านผู้บังคับบัญชาโดนจับตัวไป เป็นตายอาจรู้ รีบมาหยุนเฉิง!”

“อะไรนะ!?” แมยิสเตร็ดตะโกนออกมาเสียงดัง ในขณะเดียวกันความหนาวเหน็บที่ทำให้ผู้คนหายใจไม่ออกก็กระจายออกมาจากร่างของเขา

นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าจับลูกสาวของท่านผู้บังคับบัญชาไป นี่คืออยากโดนสังหารเก้าชั่วโคตรหรือ!?

“ขอเวลาผมไม่กี่ชั่วโมง จะรีบไปเดี๋ยวนี้!”

หลังจากที่วางหูโทรศัพท์แล้ว แมยิสเตร็ดก็มองไปยังนักฆ่า “ฉันไม่มีเวลาเล่นเป็นเพื่อนแกแล้ว จำไว้ว่าชาติหน้าให้เป็นคนดี!”

โรงแรมหวนหยูในหยุนเฉิง ในห้องชุดหมายเลข 808 ผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงหนึ่งคนนั่งอยู่บนโซฟา

ผู้ชายมีอายุยี่สิบกว่าปี ใส่แบรนด์เนมทั้งตัว บุคลิกสูงสง่า มือซ้ายคีบซิการ์ มือขวาประคองแก้วไวน์หนึ่งใบ

ผู้หญิงมีใบหน้าที่ทำให้สวรรค์ริษยาได้ อายุยี่สิบสี่ยี่สิบห้าปี เครื่องหน้าประณีตงดงาม รูปร่างงดงามนุ่มนวล ผิวพรรณเนียนละเอียดเกลี้ยงเกลา

เธอก็คือฉินหยู่ซินมีถูกกล่าวขานว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของตงโจว และก็เป็นมารดาของหรุ่ยหรุ่ยด้วย!

เธอในตอนนี้มีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ทั้งร่างสั่นเบา ๆ

“คุณ... คุณชายเทา ขอ... ขอร้องคุณล่ะ ช่วยฉันตามหาลูกสาวของฉันด้วย...”

ฉินหยู่ซินลุกขึ้นยืนแล้วก็คุกเข่าให้กับชายเจ้าชู้ เสียงสะอึกสะอื้น

“เหอะ ๆ ฉินหยู่ซิน เธอคงจะคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีวันที่ต้องมาขอร้องอ้อนวอนฉันสินะ?”

ชายเจ้าชู้สูบซิการ์เข้าไปทีหนึ่งแล้วพ่นใส่ใส่หน้าของฉินหยู่ซิน

“ไม่ใช่ว่าเธอทระนงตัวมากหรอกเหรอ? ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบหน้าผู้ชายเจ้าชู้อย่างฉันมาตลอดหรอกเหรอ?”

“ฉันตามจีบเธอมาตั้งสามปี แม้ว่าเธอจะมีลูกไม่มีพ่อคนหนึ่งฉันก็ยังไม่รังเกียจเธอ แต่เธอกลับไม่มองฉันตรง ๆ สักครั้ง!”

“แล้วตอนนี้เธอเป็นอะไรล่ะ? ทำไมถึงยอมลดหัวที่หยิ่งยโสของเธอลงแล้วล่ะ?”

“คุณชายเทา คุณจะว่าอะไรฉันก็ได้ แต่ขอร้องให้คุณช่วยฉันด้วย...” ฉินหยู่ซินร้องไห้แต่ก็ยังงดงาม เธอโขกศีรษะไปด้วยเอ่ยปากไปด้วย

“นอกจากคุณแล้ว ฉันก็หาคนที่สามารถช่วยเหลือฉันคนอื่นไม่ได้อีก... ขอร้องคุณล่ะ...”

“เธออยากให้ฉันช่วยเธอจริง ๆ เหรอ?” สายตาทั้งคู่ของซุนหมิงเทาประทุษร้ายร่างกายของฉินหยู่ซินอยู่รอบหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นฉันจะได้ประโยชน์อะไร?”

“ขอ... ขอเพียงคุณสามารถช่วยฉันตามหาลูกสาวของฉันได้ ฉันจะให้คุณทำอะไรก็ได้...” ฉินหยู่ซินสั่นสะท้านไปทั้งตัว

แน่นอนว่าเธอรู้ถึงเจตนาของฝ่ายตรงข้าม แต่เธอไม่มีทางเลือกใด ๆ!

ลูกสาวแทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ เพื่อจะตามหาลูกสาวของเธอให้เจอ เธอสามารถละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างได้!

รวมถึงศักดิ์ศรี ร่างกาย รวมถึงชีวิตด้วย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด