ได้ยินว่าหัวไหล่ของเฟิงฉิ้นหว่านปวดกำเริบที่หอหญิงงามเมืองอีกครัง เสิ่นเยว่ปวดใจอย่างมาก กลัวว่านางอายุเพียงน้อยนิดจะทิ้งต้นตอของโรคเอาไว้ จึงให้นางอยู่รักษาตัวในจวน
เฟิงฉิ้นหว่านจัดการพวกหวางจื้อหยวนได้ชั่วคราวแล้ว ชั่วขณะหนึ่งไม่มีการใดต้องทำ จึงเชื่อฟังเสิ่นเยว่
“เหว้ยหลัน เวลานี้คำนวณเวลาแล้ว โสมที่ให้เจ้าส่งน่าจะถึงมือท่านชายฟู่แล้วใช่หรือไม่?”
เหว้ยหลันพยักหน้า: “เรียนคุณหนู น่าจะใกล้ถึงแล้วเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ดี!”
เมืองซีหลิงด้านนอกเมืองหลวง รถม้าคันหนึ่งมุ่งตรงไปด้านหน้าช้าๆ องครักษ์ที่อยู่รอบๆ สีหน้าเคร่งขรึม น่าเกรงขาม
ในรถม้า ฟู่ลั่วเฉินเปิดกล่องในมือ เห็นโสมมัดด้วยเชือกสีแดง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว: “เฉิงเหวย เจ้าว่าเฟิงฉิ้นหว่านส่งโสมมาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”
“ให้เจ้าบำรุงร่างกายอย่างไรเล่า?”
“ความคิดของยัยเด็กนั่น ข้ารู้สึกว่าไม่ธรรมดาเช่นนี้”
เย่ลั่วหานหัวเราะเสียงเบา: “เช่นนั้นเจ้าก็คิดพิจารณาดูให้ดี ดูว่าด้านในมีสิ่งใดน่าพิศวงซ่อนอยู่หรือไม่”
เสียงของหยุนซวนดังขึ้นนอกรถม้า: “ท่านชาย เวลานี้มองเห็นประตูเมืองแล้ว ข้าเห็นว่าคล้ายคนที่ท่านอ๋องส่งมาจะรออยู่ที่หน้าประตู ท่านไม่ได้กลับมานาน คาดว่าท่านอ๋องคงจะถวิลหาเป็นอย่างยิ่ง”
“อืม” ฟู่ลั่วเฉินเก็บกล่องบรรจุโสม ตัดสินใจว่าหลังจากกลับจวนค่อยครุ่นคิดถึงเรื่องนี้
หยุนซวนอดทนรอไม่ไหวแล้ว ขี่ม้าไปยังหน้าประตูเมืองด้วยความรวดเร็ว เห็นเจ้าลุงท่านหนึ่งรออยู่หน้าประตูเมือง ดวงตาทอประกายทันที: “ฟู๋โป๋ เหตุใดท่านจึงมารอด้วยตนเอง?”
สีหน้าของพ่อบ้านจวนอ๋องที่ถูกเรียกว่าฟู๋โป๋เปี่ยมไปด้วยความปวดใจ ทันทีที่เอ่ยพูดก็สะอึกสะอื้น: “ท่านชายเล่า? ท่านชายสบายดีหรือไม่ หมอหลวงจากวังหลวงรออยู่ในจวนแล้ว ท่านอ๋องเข้าวังหลวง เพื่อเชิญหัวหน้าหมอหลวงในสำนักหมอหลวงมาที่จวนโดยเฉพาะ ต้องรักษาบาดแผลของท่านชายได้แน่นอน”
“อยู่ในรถม้าคันด้านหลังขอรับ” เมื่อคิดขึ้นได้ว่าตลอดทางท่านชาแกล้งทำเป็นบาดเจ็บสาหัส หยุนซวนให้ความร่วมมือโดยการรีบทำหน้าเศร้าหมอง
“ใครก็ได้มาที คุ้มกันรถม้าของท่านชายกลับจวนอ๋อง จะได้ไม่ต้องให้พวกคนต่ำช้ามาลอบสังหารโดยไร้เหตุผลอีก”
หยุนซวยมองซ้ายมองขวา ไม่เห็นผู้ใด พูดเสียงทุ้มต่ำแล้วเอ่ยถามฟู๋โป๋: “ฟู๋โป๋ ทางท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งใดเรียกว่าสองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงราวน้ำแข็งกับไฟ?”
หยุนซวนส่ายหน้าด้วยความฉงน: “หมายความว่าอย่างไรขอรับ?”
“รอท่านชายกลับถึงจวนอ๋อง ย่อมเข้าใจเอง”
น้ำแข็ง? ไฟ?
เหตุใดฟังแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดี หยุนซวนหนาวสั่นไปทั้งตัว หลังจากนั้นก็รีบโยนความคิดนี้ทิ้งโดยไร้ซึ่งความกังวล: ถึงอย่างไรท่านชายก็เผชิญหน้ากับท่านอ๋องด้วยตนเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาที่เป็นบริวาร
รถม้าไปถึงหน้าประตูเมืองอย่างรวดเร็ว ฟู๋โป๋เปิดม่าน แล้วรีบปิดม่านอย่างรวดเร็ว จากนั้นร้องไห้ฟูมฟาย: “ท่านชายของข้า เหตุใดท่านช่างอาภัพเช่นนี้? ไปชื่นชมความงามของเจียงหนานด้วยร่างกายที่แข็งแรง แต่เหตุใดจึงกลับมาด้วยบาดแผลเต็มตัว? รีบคุ้มกันท่านชายกลับจวน”
ฟู่ลั่วเฉินมองม่านรถม้าที่พลิ้วไหว รอยยิ้มที่มุมปากของเขาฉายความจนปัญญา
นั่งรถม้าเข้าเมืองหลวง ภัตตาคารทั้งสองข้างทางมีหญิงสาวจำนวนไม่น้อยนั่งอยู่ เวลานี้พวกนางต่างมองมาที่รถม้าของฟู่ลั่วเฉิน สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความกังวล
“ท่านชายฟู่? ท่านชายฟู่? ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง?”
“ท่านชาย......”
หญิงสาวเจ้าอารมณ์บางส่วน เมื่อเห็นฟู๋โป๋ที่อยู่ข้างรถม้าเช็ดน้ำตา ขอบตาของพวกนางแดงก่ำทันที: พ่อบ้านจวนยู่ชินอ๋องเสียใจเช่นนี้ ท่านชายฟู่ต้องบาดเจ็บสาหัสมากกระมัง......
“ท่านชาย.......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ