ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 116

เฟิงฉิ้นหว่านพิจารณาดูเด็กหนุ่มอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองว่าวกระดาษที่อยู่บนท้องฟ้า จากนั้นก็ดึงสายป่านของว่าวที่อยู่ในมือจนขาดในทันที

“เฮ้ย !” เด็กหนุ่มตะโกนออกมาด้วยความตกใจ มองดูว่าวที่งดงามอย่างยิ่งตัวนั้นตกลงมาจากท้องฟ้า ดูแล้วน่าจะหล่นลงในแม่น้ำที่อยู่ไกลออกไป

“พี่สาวท่านนี้ ทำไมท่านถึงได้ดึงสายป่านของว่าวจนขาดล่ะ ?”

เฟิงฉิ้นหว่านหัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร พาเหว้ยหลันหันหลังเดินกลับไปยังรถม้าที่จอดอยู่ข้างทาง แล้วจากไปโดยไม่พูดไม่จา

แววตาของเด็กหนุ่มปรากฏความผิดหวังขึ้นมา : “เสด็จพ่อ ดูเหมือนพี่สาวท่านนั้นจะไม่ชอบข้า ?”

ผ้าม่านของรถม้าเปิดออก ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำกวักมือเรียกเด็กน้อย ใบหน้าเมไปด้วยความเอ็นดู :

“พูดเหลวไหล ฉางเซิงของพ่อเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลก หญิงสาวคนเมื่อครู่แค่ดูก็รู้ว่ามีจุดประสงค์อื่น มิเช่นนั้นแดดร้อนเช่นนี้ ใครจะออกมาเล่นว่าวที่นี่กัน ? ฉางเซิงไม่ต้องคิดมาก ที่นางไม่สนใจเจ้า คงเพราะมีจุดประสงค์เพื่อต้องการดึงดูดความสนใจของเจ้าอย่างแน่นอน !”

เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่าฉางเซิงยังคงเหม่อลอย : “แต่ข้าถึงขนาดลงไปพูดคุยกับพี่สาวคนนั้นแล้ว ทำไมนางถึงไม่สนใจข้า ?”

“หญิงสาวที่หน้าตางดงามมักมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ผู้หญิงคนนั้นคงคิดที่จะล่อลวงเจ้าอย่างแน่นอน ฉางเซิงของพ่อเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในโลก ห้ามติดกับง่าย ๆ เด็ดขาด”

“ท่านพ่อ ท่านส่งคนไปตามหาว่าวกระดาษตัวนั้นหน่อยได้ไหม ? เมื่อครู่ข้ามองจากที่ไกล ๆ บนว่าวมีเด็กน้อยตัวอ้วนนำโชคอยู่ งดงามเป็นอย่างยิ่ง หากหล่นลงมาเสียหายคงน่าเสียดายไม่น้อย”

“ทำไมเจ้าถึงสนใจว่าวกระดาษตัวนั้นนัก ?”

“ข้าเองก็ไม่รู้ เมื่อครู่เห็นพี่สาวคนนั้น ก็รู้สึกสนิทสนมเป็นอย่างยิ่ง เหมือนกับว่าเคยพบหน้ากันที่ไหนมาก่อนสักแห่ง”

ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว ความรู้สึกระแวดระวังในใจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่กลับไม่ปฏิเสธคำขอของบุตรชายตนเองเลยแม้แต่น้อย : “เด็ก ๆ ไปหาว่าวที่เพิ่งหล่นลงมาตัวนั้นมาให้ได้”

องครักษ์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบรับคำสั่ง ตอนที่เดินไป ได้พาหมอที่อยู่ในรถม้าด้านหลังไปด้วย

เก็บว่าวกระดาษกลับมา หากไม่ตรวจสอบให้ดีว่าไม่ชำรุดเสียหาย ก็ยังไม่อาจนำไปมอบให้กับท่านชายน้อยได้

เฟิงฉิ้นหว่านขึ้นรถม้า และขมวดคิ้วแน่นมาตลอดทาง

เหว้ยหลันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกงุนงง : “คุณหนู ท่านชายน้อยที่ลงมาจากรถม้าเมื่อครู่ น่าจะเป็นบุตรชายของอานผิงหวานสินะเจ้าคะ เขาพูดคุยกับคุณหนูแล้ว ทำไมคุณหนูถึงไม่ยอมเอ่ยตอบล่ะเจ้าคะ ?”

“จู่ ๆ ก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้” ความคิดของเฟิงฉิ้นหว่านเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่อาจควบคุมได้ ภาพในสมองค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

ตอนที่เพิ่งจะมาถึงจวนเฉิงเสี้ยง คนเหล่านั้นไม่ได้เปิดเผยหน้าตาที่แท้จริง นางเองโชคดีที่ได้มีโอกาสตามซูหยูเข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวัง จึงได้เปิดหูเปิดตา มีงานเลี้ยงในวังอยู่ครั้งหนึ่ง นางเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ร่างกายซูบผอม ดูแล้วเขาน่าจะมีอายุประมาณสิบหกปี แต่รูปร่างนั้นกลับดูเหมือนเด็กที่มีอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปีเท่านั้น

เขาดูซูบผอมเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้าซีดเผือด แต่เวลายิ้มกลับดูสดใสเป็นอย่างยิ่ง

ภายหลังนางได้ยินคนพูดคุยกัน ถึงได้รู้ว่าเด็กคนนั้นคือเชลยที่ตงเหว้ยส่งเข้าวัง ตอนนั้นพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว รู้สึกว่าเวลาที่เขายิ้มออกมา ราวกับมีพระอาทิตย์อันสดใส ส่องแสงอยู่ที่มุมปากของเขา

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อพบหน้ากันอีกครั้ง เด็กคนนี้กลับดูเหมือนตุ๊กตาเศษผ้า นอนอยู่ริมพื้นหญ้าข้างทะเลสาบ ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ดวงตาเบิกโพลง ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความกลัวที่ไม่ลดน้อยลง และไร้ซึ่งลมหายใจอย่างสมบูรณ์

ตอนนั้นนางรู้สึกหวาดกลัวมาก แต่เมื่อมองดูศพของเด็กน้อย กลับรู้สึกรับไม่ได้อย่างน่าประหลาดใจ เพียงแต่ตอนนั้นนางทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงค่อย ๆ เดินตรงเข้าไป และปิดตาทั้งสองข้างให้กับเขา

เด็กคนนั้นก็คือเด็กหนุ่มที่ลงมาจากรถม้าและพบหน้ากันในวันนี้

เด็กน้อยที่อานผิงอ๋อง ดูแลราวกับสมบัติล้ำค่า ทำไมถึงถูกส่งเข้าไปเป็นเชลยในวังหลวงได้ ? เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกันแน่ ?

เฟินฉิ้นหว่านรู้สึกเหมือนมีเมฆหมอกบดบังอยู่ตรงหน้า และเมฆหมอกนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการของนางในอนาคต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ