ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 117

หลังจากที่อานผิงอ๋อง สอบถามเรื่องวัฒนธรรมการตัดสายว่าวได้อย่างชัดเจนแล้ว ก็พลันโมโหขึ้นมาเป็นอย่างมาก

หลายปีมานี้เขาได้พาบุตรชายคนเล็กของตนตามหาหมอเพื่อรักษามาโดยตลอด ทว่าร่างกายบุตรชายของตนกลับแย่ลงในทุก ๆ วัน ยอดหมอผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่ได้ขอพบในเมืองหยางเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ได้บอกกับตนเป็นนัย ๆ ว่าไร้ซึ่งหนทาง พูดได้ว่า เส้นประสาทของเขาในตอนนี้นั้นอยู่ในขั้นตึงเครียดจนถึงขีดสุด การกระทำของเฟิงฉิ้นหว่านนั้นได้จุดไฟโมโหที่อยู่ในใจของเขาขึ้นมาโดยสิ้นเชิง

องครักษ์ประจำกายที่อยู่ด้านข้างรีบกล่าวขึ้นมา: “ท่านอ๋อง กระหม่อมได้สอบถามมาแล้ว แม่นางเฟิงผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา......”

“ไม่ใช่คนธรรมดาแล้วอย่างไร? ข้าเพียงเรียกคนมาสอบถามมันผิดกฎข้อห้ามอะไรหรืออย่างไร?”

“ท่านอ๋อง......หอหญิงงามเมืองที่ท่านได้ยินมา มีแม่นางเฟิงผู้นั้นเป็นคนควบคุมจัดการ นอกจากนี้แล้วยังร่ำลือกันว่านางมีความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับฟู่ลั่วเฉินบุตรเอกของอ๋องยู่ชินมีข่าวลือกันไปทั่วนครหลินผิงว่า แม่นางเฝิงผู้นี้อาจได้เข้าจวนยู่ชินอ๋องกลายเป็นสนมของท่านชายฟู่”

“สตรีที่เคยดูแลหอหญิงงามเมืองยังคิดจะเข้าจวนยู่ชินอ๋องอีก นี่มันไม่ใช่เรื่องเหลวไหลหรอกหรือ? ข่าวลือในท้องตลาดภายนอกเหล่านั้นก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน อย่างไรเสียก็เรียกนางมาก่อน ข้าถามแล้วค่อยว่า”

“ขอรับ”

อานผิงอ๋อง บอกแล้วว่าให้เรียกคนมาที่นี่ แต่พวกบ่าวยังต้องคำนึงถึงข่าวลือ เพราะเกรงว่าจะนำพาเภทภัยมาให้ตนเอง ดังนั้นจึงไม่กล้าทำเกินเหตุนัก และส่งหนังสือเชิญไปที่จวนตระกูลเฟิงมีมารยาท

หนังสือเชิญได้ถูกส่งเขาไป แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นคำปฏิเสธจากแม่นมโจว

“ท่านอ๋อง แม่นางเฟิงแห่งตระกูลเฟิงไม่ได้ปรากฏตัว แต่ได้ส่งแม่นมชราผู้หนึ่งเป็นคนออกหน้า บอกว่าแม่นางเฟิงอายุยังน้อย อีกอย่างตระกูลเฟิงเพิ่งได้เสียผู้นำตระกูลไป ตอนนี้อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ไม่สะดวกที่จะออกมาพบแขกจริง ๆ ดังนั้นจึงมาไม่ได้ ขอท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย”

อานผิงอ๋อง นัยน์ตาลึกซึ้ง: “อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ไม่อาจพบแขกอันใดนั่น เป็นเพียงข้ออ้างในการปฏิเสธเท่านั้นเอง เฟิงฉิ้นหว่านปรากฏตัวที่หอหญิงงามเมืองอยู่บ่อยครั้ง ก็ไม่เห็นใส่ใจเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่ได้ถามกลับไปเช่นนี้รึ?”

“กระหม่อมได้ถามไปแล้ว แม่นมชราผู้นั้นบอกว่า คนที่ปรากฏตัวที่หอหญิงงามเมืองเป็นท่านชายฉินหว่าน ไม่ใช่คุณหนูเฟิงฉิ้นหว่านแห่งตระกูลเฟิง”

“มันต่างกันตรงไหนหรือ?” อานผิงอ๋อง ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “เอาป้ายชื่อของข้าไปเชิญนางมา หากนางยังไม่มาละก็......"

“ท่านอ๋อง ท่านชายน้อยรู้สึกไม่สบายอีกแล้ว ท่านอ๋องรีบไปดูเถอะขอรับ”

“เป็นอะไรรึ?” อานผิงอ๋อง ร้อนรนจนไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจคำพูดเมื่อสักครู่ของตนเอง และเดินก้าวใหญ่ ๆ ไปในห้อง

ภายในห้อง หมอผู้ติดตามทั้งสี่คนกำลังตรวจรักษาให้กับเห้อเหลียนฉางเซิงอย่างร้อนรน กังวลใจจนเหงื่อไหลท่วมศีรษะ

“ท่านอ๋อง จู่ ๆ ท่านชายน้อยก็สลบไป ทว่าชีพจรกลับปกติทุกอย่าง เหมือนกับว่าแค่หลับไปเท่านั้น”

อานผิงอ๋อง อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโต: “หลายวันมานี้ ฉางเซิงทรมานจากอาการป่วยจนนอนไม่หลับ มาตอนนี้กลับสลบไปอย่างกะทันหัน หรือว่าอาการป่วยจะแย่ลง?”

“ชีพจรของท่านชายน้อยคงตัว มั่นคงยิ่งกว่าเมื่อก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ดูแล้วไม่มีท่าทีว่าจะแย่ลง”

“หากไม่ใช่แย่ลง เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้เป็นลมสลบไปเล่า?”

“ท่านอ๋อง เหมือนว่ากระหม่อมจะหาสาเหตุเจอแล้วขอรับ บนว่าวปักเป้ามีกลิ่นหอมพิเศษอย่างหนึ่ง กลิ่นหอมชนิดนี้เหมือนว่ามีสรรพคุณในการช่วยทำให้จิตใจสงบผ่อนคลาย เพียงแต่ว่ากลิ่นของมันได้จางลงไปแล้ว ท่านชายน้อยสัมผัสเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงได้นอนหลับ แต่ไม่ได้สลบไป”

หมอทั้งสี่คนได้แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทันทีที่ร่างกายของท่านชายน้อยเกิดความผิดปกติ เช่นนั้นจะต้องตรวจสอบทุกอย่างที่เขาได้สัมผัสอย่างละเอียด เมื่อตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าว่าวนั่นไม่ปกติเท่าไรนัก

อานผิงอ๋อง มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาในทันที: “ว่าวปักเป้ารึ?”

“ขอรับ”

“ดูท่าข้าจะต้องพบกับเฟิงฉิ้นหว่านผู้นั้นให้ได้แล้ว”

จวนตระกูลเฟิง แม่นมโจวได้เล่าเรื่องที่ปฏิเสธบ่าวรับใช้ของอานผิงอ๋อง ให้ฟังหนึ่งรอบ เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม: “แม่นมโจว ในสองวันนี้คัดลอกพระคัมภีร์เพื่อภาวนาให้ท่านพ่อ ไม่พบผู้ใดทั้งสิ้น แม้แต่หอหญิงงามเมืองข้าก็จะไม่ไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ