เมื่อได้ยินจ้าวยี่กล่าวดังนั้น อานผิงอ๋อง ก็ชะงักไปเล็กน้อย: “ใต้เท้าเจ้าหมายความว่า สามารถพบแม่นางเฟิงได้เพียงที่หอหญิงงามเมืองเท่านั้นหรือ? แต่ข้ายังต้องดูแลบุตรชายของข้า หอหญิงงามเมืองนั่น......”
“ท่านอ๋อง แม้ว่าเมื่อก่อนหอหญิงงามเมืองจะเป็น...... แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว หากใช้คำพูดของแคว้นข้า ก็คือไม่พบเพียงสามวัน เปลี่ยนไปจนต้องมองใหม่อีกครั้ง หอหญิงงามเมืองสะอาดอย่างเรียบร้อย โดยเฉพาะติ่มซำยิ่งยอดเยี่ยมอย่าบอกใคร ต่อให้ท่านอ๋องพาท่านชายน้อยไปด้วย ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะที่นั่นไม่มีสิ่งขวางหูขวางตาใด ๆ อยู่เลย”
“ข้าทราบแล้ว ขอบคุณใต้เท้าเจ้าที่ชี้แนะ”
“ท่านอ๋องเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าช่วยอะไรไม่ได้นัก อีกไม่กี่วัน จะมีการแสดง ปลาทะยานข้ามประตูมังกร จะมีแขกเข้าไปชมเป็นจำนวนมาก ข้าเองก็ได้รับบัตรเชิญเช่นกัน หากท่านอ๋องอยากไป ข้าลองช่วยถามขอบัตรเชิญอีกสักใบดูได้”
“เช่นนั้นรบกวนใต้เท้าจ้าวแล้ว”
“ท่านอ๋องอย่าได้เกรงใจไปเลย”
ไม่นาน ทางด้านเหว้ยหลันก็ได้รับข่าว
“คุณหนู อานผิงอ๋อง ผู้นั้นไม่ได้บังคับให้ท่านไปพบเขาให้ได้จริง ๆ ด้วย แต่ได้ขอบัตรเชิญผ่านทางใต้เท้าเจ้าแทน คงเตรียมหาวิธีพบท่าน ในตอนที่ท่านไปที่หอหญิงงามเมืองกระมัง”
“ข้าทราบแล้ว เจ้าไปบอกคำของข้า ให้ทางหอหญิงงามเมืองเตรียมการให้ดี เรื่องอื่นสามารถเอาไว้ก่อนได้ แต่ปลาทะยานข้ามประตูมังกรจะต้องแสดงให้สมจริง”
“เจ้าค่ะ”
เฟิงฉิ้นหว่านนึกถึงหอชมจันทราที่ได้แย่งลูกค้าไปในระยะนี้ขึ้นมา ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอ่อน ๆ : ไม่รู้เหมือนกันว่าครั้งนี้หอชมจันทราจะรับมืออย่างไร?”
ภายในหอชมจันทราในเวลานี้ หยุนเลี่ยวท่านชายสามแห่งตระกูลหยุนกำลังมองดูของขวัญที่ถูกส่งกลับมา ก็ขมวดคิ้วแน่น: “ยาชั้นเลิศพวกนี้ อานผิงอ๋อง รับเอาไว้?”
“ไม่ขอรับ บอกว่ามันไร้ประโยชน์ ไม่อยากรับของกำนัลที่ล้ำค่าเช่นนี้ขอรับ”
“นี่มันไม่ปกตินัก เมื่อก่อนอานผิงอ๋อง เห็นยาเหล่านี้ จะต้องรับเอาไว้เป็นแน่ แม้ว่าตอนนั้นจะได้ปฏิเสธไปแล้ว ก็ต้องมาถามราคายาในภายหลัง และใช้เงินซื้อเอาไว้อย่างแน่นอน ครั้งนี้ทำไมถึงได้ส่งกลับคืนมาโดยตรงเล่า?”
“ท่านชาย ยังมีอีกเรื่องขอรับ เหมือนว่าอานผิงอ๋อง ท่านนั้นต้องการพบเฟิงฉิ้นหว่าน ส่งคนไปเชิญถึงสามครั้งภายในหนึ่งวัน ทว่าไม่มีผู้ใดเชิญไปได้เลย”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ? ส่งคนไปเชิญเฟิงฉิ้นหว่านถึงสามครั้งอย่างนั้นรึ?”
หยุนเลี่ยวขมวดคิ้วแน่น แล้วเงยหน้ามองไปยังยาสมุนไพรที่อยู่บนโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
“เฟิงฉิ้นหว่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับอานผิงอ๋อง ได้อย่างไร? การตรวจสอบเมื่อก่อนหน้านี้ บอกว่าตระกูลเฟิงล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับตงเหว้ยมิใช่หรือ?”
“จากที่ตรวจสอบในก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ ขอรับ เพียงแต่ว่าเฟิงฉิ้นหว่านได้ออกไปเล่นว่าวอยู่ครั้งหนึ่ง......”
หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น หยุนเลี่ยวก็ขมวดคิ้วแน่น: “อานผิงอ๋อง ได้ส่งคนไปเชิญเฟิงฉิ้นหว่าน หรือว่าต้องการเรียกนางไปลงโทษ?”
“น่าจะไม่ใช่ขอรับ เพราะครั้งสุดท้ายที่ไปเชิญนั้น ได้มอบทองคำร้อยตำลึงไปด้วย หากต้องการเอาโทษ จะมอบเงินให้ทำไม?”
หยุนเลี่ยวสีหน้าดำคล้ำเล็กน้อย: “หากเฟิงฉิ้นหว่านตีสนิทเข้าใกล้อานผิงอ๋อง ด้วยวิธีสกปรก เช่นนั้นที่อานผิงอ๋อง ส่งยาสมุนไพรเหล่านี้กลับคืนมา และไม่ได้แสดงออกใด ๆ เลยก็พออธิบายได้แล้ว ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา หอชมจันทราได้ล่วงเกินหอหญิงงามเมืองไปไม่น้อย”
“ท่านชาย แล้วตอนนี้จำเช่นไรดีหรือ?”
“อีกสองวันจะมีการแสดง ปลาทะยานข้ามประตูมังกรที่หอหญิงงามเมืองมิใช่หรือ? เช่นนั้นหอชมจันทราก็แสดงฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์ ปล่อยข่าวออกไป และส่งบัตรเชิญออกไปด้วย”
“ท่านชาย แบบนี้จะได้ผลหรือขอรับ?”
“ปลาทะยานข้ามประตูมังกรเป็นเพียงการแสดงกายกรรมเท่านั้นเอง หรือว่ากายกรรมจะน่าดูกว่าหญิงงามอีกหรืออย่างไร? นอกจากนี้ให้ปล่อยข่าวออกไปอีกว่า แขกที่มาหอชมจันทราในวันนั้น คิดแค่ร้อยละเจ็ดสิบของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่านั้น ตราบใดที่แขกพวกนั้นยังมีสมองอยู่ ก็จะรู้ว่าควรเลือกอย่างไรดี”
ต้องการดึงดูดความสนใจจากฟู่ลั่วเฉิน แย่งการยิ่งสนับสนุนจากเขา เช่นนั้นเพื่อเยียบเฟิงฉิ้นหว่านลงไปก็จำเป็นที่จะต้องเดินหมากตัวนี้ นอกจากนี้แล้วตระกูลหยุนยังได้จับตามองเส้นทางการค้าขายกับตงเหว้ยมาเป็นเวลานานแล้ว ก็จะมองเห็นความเป็นไปได้อันริบหรี่นี้ได้มันไม่ง่ายเลย ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้เฟิงฉิ้นหว่านแย่งมันไปไม่ได้
ไม่นานนักข่าวจากทางหอชมจันทราก็ได้กระจายเข้าหูของผู้คนในนครหลินผิงได้รับรู้
มีคนที่คาดเดาว่า แม้ว่าหอหญิงงามเมืองไม่คิดจะขึ้นเวทีประลองในครั้งนี้ เกรงว่าก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วสินะ?
แต่คิดไม่ถึงว่าหอหญิงงามเมืองจะยังคงสงบอยู่เหมือนเดิม แม้แต่เฟิงฉิ้นหว่านก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ