ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 146

เฟิงฉิ้นหว่านชูตัวอักษรขนาดใหญ่ขึ้นรอคำติชมของฟู่ลั่วเฉิน ชูจนมือจะล้าแล้ว เพิ่งจะเห็นฟู่ลั่วเฉินยกมือรับแผ่นตัวอักษรขนาดใหญ่นั้นไป

“ในเมื่ออยากจะลอกเลียนแบบตัวอักษรของข้า อย่างนั้นก็ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ต้น” ฟู่ลั่วเฉินพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม

“ท่านชาย ข้าเพียงแค่เขียนออกมาให้ท่านดูฝีมือจริง ๆ ของข้าสักเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้อยากจะ……”

ฟู่ลั่วเฉินเหลือบตามองไป “เจ้าไม่อยากลอกเลียนแบบตัวอักษรของข้า?”

เฟิงฉิ้นหว่านตะลึงงัน ท่านชายของตนเองช่างหลงตัวเองที่สุด หญิงใต้หล้ามีความปรารถนาหลงใหลคลั่งไคล้เขากันอย่างโงหัวไม่ขึ้น หรือว่าการหลงตัวเองนี้ก็ขยายออกไปจนถึงลายมือบนตัวหนังสือ?

“จะเป็นไปได้ไงเล่า?ตัวอักษรของท่านชายมีจังหวะทรงพลังของพู่กัน เกรียงไกรยิ่งใหญ่ โอ่อ่า ตอนเห็นในครั้งที่แล้วก็รู้สึกสวยงามไม่มีที่สิ้นสุด เพียงแต่ข้านั้นกังวลฝีมือของตนเองไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น ยากที่จะเขียนออกมาคล้ายกับลายเส้นตัวอักษรของท่านชายที่มีฝีมือในการเขียนด้วยพู่กันแต่ะละขีดมีพลังอย่างยิ่งเช่นนั้น”

“หากเจ้าอะไรก็ทำได้แล้ว ยังต้องการให้คนมีความรู้เช่นข้าทำอะไร?อยากเรียน?”

“อยาก!”เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้าทันที นางไม่กล้าไม่อยาก

“อย่างนั้นข้าก็จะเริ่มสอนเจ้าจากเส้นขีดเขียนของตัวอักษรพื้นฐานก่อน” ฟู่ลั่วเฉินเหมือนกับจะมีความสุขขึ้นมา บรรยากาศรอบ ๆ ก็นุ่มนวลอ่อนโยนขึ้น

เฟิงฉิ้นหว่านแอบกัดฟัน เรียนก็เรียน ถึงอย่างไรความสามารถเยอะก็ไม่กดทับชีวิต เรียนรู้ตัวอักษรของฟู่ลั่วเฉิน ไม่แน่ต่อไปอาจสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย

เฟิงฉิ้นหว่านฝนหมึกอีกครั้ง แล้วหยิบกระดาษเซวียนจื่อมาวางไว้เรียบร้อย กำลังอยากจะเชิญฟู่ลั่วเฉินมานั่งสาธิตการเขียนตัวอักษรสักสองคำตรงนี้ แต่กลับเห็นเงามืดสะท้อนบนศีรษะ ทันทีหลังจากนั้น มือที่จับพู่กันก็ถูกฟู่ลั่วเฉินกอบกุมไว้ แล้วลงรอยหมึกไว้บนกระดาษเซวียนจื่ออย่างมั่นคง

เฟิงฉิ้นหว่านแข็งทื่อไปทั้งตัว เพียงแค่รู้สึกว่าบริเวณสันหลังปรากฎความหนาวเย็นขึ้นไม่หยุด ทำให้กลางฝ่ามือของนางเกิดรอยเหงื่อผุดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

“ท่านชาย?ท่านสอนคนอื่นเขียนตัวอักษรเช่นนี้ตลอดหรือ?”

“สอนคนอื่นเขียนตัวอักษร ไม่ได้เป็นเช่นนี้เสมอไป?” ฟู่ลั่วเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

หากเพียงแค่เขียนตัวอักษรขนาดใหญ่ให้เฟิงฉิ้นหว่านลอกแบบ ไม่รู้ว่าจะต้องเรียนไปถึงเมื่อไหร่ เช่นนี้จึงง่ายต่อการเข้าใจการขยับพู่กันและกำลังในตอนที่เขาเขียนตัวอักษรอย่างลึกซึ้ง ถึงจะสามารถเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น

หลังจากฟู่ลั่วเฉินจับมือของเฟิงฉิ้นหว่านเขียนตัวอักษรไปหลายคำ ก็พยักหน้าอย่างพอใจ

“เจ้าก็เขียนตามคำพวกนี้เถิด เมื่อไหร่ที่เขียนแล้วมีความคล้ายคลึงแล้ว ค่อยเรียนคำใหม่”

ฟู่ลั่วเฉินลุกขึ้นยืนมาแล้ว ความรู้สึกนึกคิดของเฟิงฉิ้นหว่านก็เพิ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว มองไปที่ตัวอักษรบนกระดาษขาว คนที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางดอกไม้ร่วงปลิวพลิ้วไหว นกนางแอ่นกางปีกบินคู่ท่ามกลางลมอ่อนฝนโปรย

ลูกตาของเฟิงฉิ้นหว่านสั่นสะท้านเล็กน้อน นี่น่าจะเป็นบทกวีแห่งความรักสองประโยคหรือเปล่า?

ช่างสมกับเป็นฟู่ลั่วเฉินจริง ๆ กลางสวนนี้ไม่มีคนอื่นเลย ยังคงไม่ลืมที่ตนเองกำลังแสดงละครนั้นอยู่ เมื่อครู่เขากุมมือของตนเองเขียนตัวอักษร เกรงว่าจะเป็นสาเหตุที่เข้าถึงบทบาทลึกเกินไปแล้ว?

เจ้านายตั้งใจขนาดนี้ อย่างนั้นนางเองก็ต้องพยายามให้ความร่วมให้ถึงที่สุดเสียหน่อยใช่หรือไม่?

ดังนั้น เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบตาขึ้น ในสายตามีความเลื่อมใสต่อฟู่ลั่วเฉิน “ตัวอักษรของท่านชายงดงามมากจริง ๆ บทกวีสองประโยคที่เขียนก็ช่างไพเราะ ข้าจะพยายามตั้งใจลอกเลียนแบบแน่นอน”

ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้าอย่างพอใจ “อย่างนั้นก็ดี!”

เฟิงฉิ้นหว่านอยู่ในสวนตลอดช่วงเช้า ฟู่ลั่วเฉินก็ให้คนนำเตียงนุ่ม ๆ ตัวหนึ่งมาวางอยู่อีกด้านของโต๊ะหิน พักพิงอยู่บนเตียงนุ่มอย่างสบาย ๆ หยิบหนังสือหนึ่งเล่ม พลิกไปพลิกมา

แสงแดดกลางสวนกำลังพอดี กลิ่นหอมโชยมาของดอกไม้ บางทีก็มีผีเสื้อที่มีสีสันตัวสองตัวบินผ่าน หยุดบนดอกไม้ที่ผลิบาน ก่อให้เกิดการสั่นไหวของกิ่งดอกไม้

เฟิงฉิ้นหว่านเพิ่งจะเริ่มก็ยังเขียนอย่างตั้งอกตั้งใจที่สุด เขียนแล้ว เขียนเล่าจนสติเริ่มเลอะเลือนอย่างช่วยไม่ได้

เวลาช่วงนี้ กลางวันต้องดูกิจการของตระกูลเฟิง กลางคืนดูหอหญิงงามเมืองอย่างเข้มงวด พูดได้ว่าทุกช่วงเวลานั้นไม่ได้พักผ่อนเลย

อีกทั้งเมื่อคืนก็ไม่นอนดีดีเลยจริง ๆ ครั้งนี้นางก็แบกรับไม่ไหวแล้ว

นางเหลือบตาไปมองฟู่ลั่วเฉิน เห็นเพียงฟู่ลั่วเฉินไม่รู้ว่าเอาหนังสือวางไว้ด้านข้างตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว ตนเองก็พิงอยู่บนเตียงนุ่ม หลับตานอนหลับอย่างสบาย

เฟิงฉิ้นหว่านในใจแวบหนึ่งรู้สึกไม่ยุติธรรมทันที ตนเองพยายามร่วมมืออยู่ตรงนี้อย่างตั้งใจ ฝ่ายตรงข้ามกลับนอนหลับอย่างมีความสุข

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ