ข่าวที่เกิดเรื่องกับกิจการร้านค้าของตระกูลเฟิงแน่นอนว่าปิดบังไว้ไม่มิด โดยเฉพาะหวางจื้อหยวนและพ่อค้าอื่น ๆ มากจนกระทั่งได้รับการเตือนลับ ๆ จากตระกูลหยุนเรียบร้อยแล้ว
ช่วงเวลากลางคืน เฟิงฉิ้นหว่านมาที่หอหญิงงามเมือง แต่พบสิ่งประหลาดใจ หอหญิงงามเมืองในวันนี้เหมือนจะเงียบเป็นพิเศษ
การเตือนของตระกูลหยุนทำให้ผู้คนมากมายเริ่มจะต้องการถอย แม้กระทั้งจะมาหอหญิงงามเมืองก็ยังไม่กล้า
เฟิงฉิ้นหว่านสวมชุดบุรุษ ยังคงยืนต้อนรับแขกเหรื่อตรงหน้าประตูเช่นเดิมเหมือนเมื่อก่อน รอไปชั่วครู่หนึ่ง ถึงจะพบหวางจื้อหยวนพาคนอีกสามคนมุ่งหน้ามา
“คาราวะนายท่านหวาง”
“ท่านชายฉินไม่ต้องมากพิธี”
การมาของทั้งสามคน ทำให้ในใจเฟิงฉิ้นหว่านมีแผนการที่คิดไว้ในใจมากอยู่หลายส่วน
หวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆ นั่งอยู่ชั้นสอง เฟิงฉิ้นหว่านนำสุราเข้ามา เทกาสุราใส่แก้วให้ทุกคนจนเต็ม
หลังจากดื่มไปสองแก้ว หวางจื้อหยวนก็เปิดปากก่อน “ท่านชายฉิน เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ พวกเราต่างได้ยินมา ไม่ทราบว่าพอจะมีอะไรที่พวกเราจะสามารถช่วยเหลือได้บ้างหรือไม่?”
เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบตาขึ้น ในสายตามีรอยยิ้มบางเบา “เวลานี้ใคร ๆ ต่างก็หลีกเลี่ยงตระกูลเฟิงอีกทั้งหอหญิงงามเมือง นายท่านหวางไม่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วยหรือ?”
“ข้าเป็นคนมีสัจจะที่สุด ก่อนหน้านี้ได้ลงนามในหนังสือโฉนดที่ดินกับท่านชายฉิน ตกลงกันแล้วว่าต้องทำเงินให้ได้มาก ๆ ด้วยกัน แน่นอนว่าไม่สามารถล้มเลิกกลางคันได้” หวางจื้อหยวนตบหน้าอก “อีกทั้งนี่คือการทำการค้า จะไม่รับความเสี่ยงได้อย่างไร?อย่างไรข้าก็เต็มใจจะเชื่อมั่นท่านชายฉิน”
สามคนที่อยู่ข้างกายหวางจื้อหยวนพยักศีรษะตาม ถึงแม้ไม่ได้พูด แต่ท่าทางกลับแสดงออกอย่างชัดเจนเรียบร้อยแล้ว
เฟิงฉิ้นหว่านลุกขึ้นยืน ทำความเคารพต่อหวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆ “ขอบคุณนายท่านหวางและทุกท่านที่ไว้วางใจ”
“ท่านชายฉินไม่จำเป็นต้องมากพิธี เพียงแต่ต่อไปหากมีโอกาสทำเงินได้มาก ก็อย่าใจแคบให้พาพวกเราไปด้วยก็พอแล้ว” หวางจื้อหยวนหัวเราะห้าห้า
เฟิงฉิ้นหว่านพยักศีรษะ “เวลานี้ข้ามีการค้าอย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่ามีคนของนายท่านหวางสนใจเข้าร่วมสักหน่อยหรือไม่?”
หวางจื้อหยวนตะลึงงันอยู่ที่เดิม คำพูดนั้นคือแค่พูดพูดไป ก็เพื่อแสดงท่าทีให้ชัดเจน แต่คาดไม่ถึงว่าเฟิงฉิ้นหว่านจะตอบรับเช่นนี้
หลังจากได้รับคำเตือนของตระกูลหยุน หวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆ ก็พิจารณาไตร่ตรองกันเป็นเวลานาน เผชิญหน้าตระกูลหยุนศัตรูที่เข้มแข็งนี้ พวกเขาต่างหวาดกลัวเหมือนกันอย่างช่วยไม่ได้
แต่ไม่รู้ว่าทำไม คิดถึงช่วงเวลาสั้น ๆ หอหญิงงามเมืองก็เกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงไปมากมาย หวางจื้อหยวนกลับอยากจะไปเชื่อมั่นในเฟิงฉิ้นหว่านเท่านั้น แม้กระทั่งพูดชักจูงมิตรสหายหลายคนของตน ถึงจะมีการพูดคุยในวันนี้ได้
“ไม่ทราบว่าท่านชายฉินพูดถึงการค้าอะไร?”
เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มเบาเบา “บนช่วงเวลาสำคัญนี้ยังคงสามารถยืนหยัดมั่นคงมาถึงหอหญิงงามเมืองได้ เห็นได้ว่านายท่านทั้งหลายล้วนมีแผนการที่คิดไว้ในใจกันแล้ว ครั้งนี้ได้อยู่ท่ามกลางพายุฝนโหมกระหน่ำแล้ว แทนที่จะโดนลงมือสั่นสะเทื่อนกลางพายุฝน ไม่เท่ากับมุ่งหน้าไปอย่างองอาจกล้าหาญ แล้วลองชื่นชมทัศนียภาพหลังพายุฝนเล่า”
สีหน้าหวางจื้อหยวนขยับเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านชายฉิน ไม่ทราบว่าที่ท่านพูดว่าอยากมุ่งหน้าไปอย่างองอาจกล้าหาญ คือหลังจากวางแผนครุ่นคิดครั้งแล้วครั้งเล่า หรือว่าสู้อย่างจนตรอกด้วยความไร้ซึ่งหนทางที่จะจัดการแล้ว?”
เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “หากมีเพียงข้าคนเดียว อย่างนั้นก็เป็นข้อหลัง แต่หากมีพวกนายท่านหวางเพิ่ม ก็กลายเป็นข้อแรกแล้ว”
“ไม่ทราบว่าท่านชายฉินมีแผนการเช่นไร?”
“ไม่ทราบว่านายท่านทุกท่านเคยมีความอิจฉาร้านค้าเกลือหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ