เฟิงฉิ้นหว่านกำชับองครักษ์ลับสองนาย หลังจากนั้นก็มองพวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว
เหว้ยหลันยืนอยู่ด้านข้าง ใบหน้ามีความกังวล รู้สึกว่าเรื่องนี้ยังจำเป็นต้องอธิบายสักหน่อย เพื่อเฟิงฉิ้นหว่านจะได้ไม่คิดมาก
“คุณหนู ท่านชายส่งคนสองคนนี้มาก็ไม่ได้มีความหมายอื่นใด……”
“ส่งคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ครั้งก่อน หลังจากท่านชายกลับเมืองหลวง แทบจะพร้อม ๆ กันกับบ่าว”
เฟิงฉิ้นหว่านหลุบดวงตาลงเบาเบา แสงเทียนส่องแสงสะท้อน สายตาดวงตาคู่นั้นสวยและสงบเงียบ “ข้ารู้แล้ว กลับไปข้าจะขอบคุณท่านชายด้วยตนเอง”
เหว้ยหลันถอนหายใจด้วยเสียงเบา ๆ “คุณหนูไม่ได้คิดมากก็ดีแล้ว ท่านชายเพียงแค่กังวลอันตรายและความปลอดภัยของคุณหนู”
“จวนยู่ชินอ๋องเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตรวจสอบได้แล้วหรือไม่?”
“รู้เพียงว่าตอนที่ข่าวส่งมา ได้ใช้ช่องทางลับที่สุดที่ท่านชายตั้งใจทิ้งไว้เป็นพิเศษ ตอนที่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงความเป็นความตายไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นท่านชายได้รับข่าวถึงรีบออกเดินทางทันที แม้แต่จะบอกลาแม่นางก็ไม่ทัน ฐานะของบ่าวไม่มีคุณสมบัติพอค้นหาข่าวนี้ได้”
เฟิงฉิ้นหว่านครุ่นคิด “เกิดเรื่องกับจวนยู่ชินอ๋อ เกิดเรื่องกับอ๋องผิงหวาง……ถ้าสองเรื่องนี้ล้วนเป็นการกระทำของตระกูลหยุนทั้งหมด อย่างนั้นอำนาจของตระกูลหยุนควรจะมีมากเท่าใดกัน?”
“คุณหนู ต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือไม่?”
เฟิงฉิ้นหว่านส่ายศีรษะ “หลีกเลี่ยงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”
หากเฟิงฉิ้นหว่านคาดการณ์ไม่ผิด ต่อไปหลังจากเจ็ดวันที่สถานการณ์สงบสุข เจ้าของร้านหลายคนของตระกูลเฟิงทั้งหมดจะเข้ามาพบ
“คุณหนู เดิมทีพ่อค้าและเส้นทางการค้าที่ติดต่อกันมาอย่างดี ล้วนถูกคนขัดจังหวะทำให้ชะงักไปช่วงตอนกลาง พวกเราทางนี้ส่งคนไปปรึกษาหารือแล้ว แต่ก็ถูกปฏิเสธที่จะเจรจาร่วมมือด้วย วันนี้ร้านค้าข้าว ร้านค้าผ้าล้วนได้รับผลกระทบมากมายแล้ว”
ยังคงเป็นเถ้าแก่ใหญ่ติงยี่ของร้านค้าข้าวที่พูดแทนทุกคน หลังจากเขาพูดจบก็ขมวดหว่างคิ้วแน่น มีท่าทางทีกังวลอย่างช่วยไม่ได้
“เถ้าแก่ติง เรื่องราวข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปบอกทุกคน ถ้าการค้าได้รับผลกระทบจากซื้อขายหากร้ายแรงมากแล้ว ก็ให้ปิดร้านค้าเลย ค่าแรงให้ตามปกติ”
ติงยี่เบิกดวงตากว้างโดยไม่ได้ตั้งใจ รอยย่นกลางหว่างคิ้วยิ่งชัดเจนขึ้น “คุณหนู ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ๆ เกรงว่าตระกูลเฟิงก็จะอันตรายมากแล้ว”
“ทนความทุกข์ยากช่วงเวลานี้ไปได้ จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เวลานี้เงินที่สูญเสีย ต่อไปก็สามารถหาเงินคืนกลับมาได้หลายเท่า เถ้าแก่ติงไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”
“คุณหนูมีความมั่นใจจริง ๆ หรือ?”
“หากเถ้าแก่ติงเชื่อถือข้า ก็กลับไปหยุดพักอย่างสงบนิ่งสักช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นจะต้องมีเรื่องยุ่ง ๆ แน่นอน”
ติงยี่พยักศีรษะ สีหน้าบนใบหน้าฉายแววยืนหยัดมั่นคง “คุณหนูเป็นท่านนาย พวกเราเหล่านี้ที่เป็นเถ้าแก่แน่นอนว่าต้องเชื่อมั่นในท่านนาย อย่างนั้นข้าจะพาคนกลับไป จะต้องพยายามทำให้สภาพการณ์มั่นคงให้ได้ ถึงแม้พวกเราจะช่วยคุณหนูใหญ่ได้ไม่มาก แต่จะไม่เป็นภาระให้ท่านแน่นอน”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองหลินผิง พวกเขาเหล่านี้ที่เป็นเถ้าแก่แน่นอนว่าก็ได้ยินกับหู ความเป็นจริงมีการรวมตัวกันอย่างลับ ๆ แล้ว ปรึกษาหารือกันหลายครั้งหลายครา แต่พูดไปพูดมา ก็ไม่รู้ว่าตนเองจะพอสามารถช่วยอะไรได้บ้าง
สายตาเฟิงฉิ้นหว่านเผยรอยยิ้ม “วันนี้ร่วมทุกข์ร่วมสุข วันไหนร่ำรวยมีเกียรติร่วมเสพ ความรู้สึกขอบคุณและภักดีของเถ้าแก่ติงอีกทั้งเถ้าแก่ท่านอื่น ๆ เฟิงฉิ้นหว่านจะจดจำไว้ในใจ จะไม่มีวันลืมตลอดไป”
“คุณหนูไม่อาจพูดเช่นนี้ได้เด็ดขาด นี่ล้วนเป็นพวกเราที่ควรรับผิดชอบให้ถึงที่สุด อย่างนั้นข้าต้องขอกลับก่อนแล้ว จะนำความหมายของคุณหนูไปบอกต่ออย่างแน่นอน”
“ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ