ฟู่ลั่วเฉินรีบก้าวเท้าออกไป ออกจากประตูจวนแล้ว หยุนซวนก็รีบจูงม้าที่เปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยแล้ววิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ท่านชาย!”
ฟู่ลั่วเฉินพลิกกายขึ้นม้า สะบัดบังเหียนอย่างแรงทันที ตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไป!”
ม้าวิ่งออกจากเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ทิ้งควันและฝุ่นบางๆไว้บนถนนหลวง
ภายในจวนอ๋อง ยู่ชินอ๋องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สะกดความโกรธที่ปรากฏขึ้นในดวงตา
เซี่ยจิ่งเฉิงที่กำลังบีบแขนเสื้อเอาไว้แน่นเดินออกมา สีหน้ายังคงมีความตื่นตระหนกตกใจไม่ได้ลดลง
“ท่านอ๋อง เหมือนกับว่าท่านผู้พี่จะโกรธมาก เป็นเพราะข้าทำผิดแล้วใช่หรือไม่?”
บนใบหน้ายู่ชินอ๋องมีความยิ้มแย้ม สีหน้ามองดูมีความอบอุ่นอ่อนโยนเป็นอย่างมาก: “แม่หนูเฉิงไม่ต้องคิดมาก ท่านผู้พี่ของเจ้ารีบออกเดินทางอย่างร้อนรนมากเกินไป ฉะนั้นความโกรธนั้นจึงรุนแรงเป็นพิเศษ ตอนที่เขาอยู่ที่จวนในวันปกติก็เป็นท่าทางอารมณ์ขึ้นๆลงๆเช่นนี้ วันข้างหน้าเจ้าเห็นมากแล้วก็จะเข้าใจเอง”
เซี่ยจิ่งเฉิงกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น สีหน้าซีดขาวเล็กน้อย
“มองดูท่านผู้พี่ไม่ชอบข้าเป็นอย่างมาก ข้าก็นึกไม่ถึงว่าความประสงค์ดีแต่กลับเป็นร้าย ท่านอ๋อง ถ้าไม่เช่นนั้นให้จิ่งเฉิงออกไปเถอะ ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะวงศ์ตระกูลเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ขอเพียงแค่จิ่งเฉิงมีทางรอดสักทาง ก็จะไม่หน้าด้านไร้ยางอายมาขอร้องอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋อง......”
“ไม่ต้องพูดคำพูดเหล่านี้ ท่านแม่ของเจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของพระชายาข้า ถึงแม้ว่าในวันนี้พระชายาจะไม่อยู่แล้ว แต่ทว่าก่อนที่นางจะสิ้นลมได้กำชับให้ข้าดูแลคนในครอบครัวฝ่ายมารดาของนางให้ดี ข้าก็จะต้องทำให้ได้ ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ก็อยู่ด้วยความสบายใจ ข้าได้ให้ฟู๋โป๋จัดการเก็บกวาดเรือนหลังหนึ่งให้เจ้าอยู่ตามลำพังเรียบร้อยแล้ว เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องคิดมาก”
เซี่ยจิ่งเฉิงสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย น้ำตาก็ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย: “ขอบคุณท่านอ๋อง......แต่ทว่าท่านผู้พี่ทางนั้น......”
“อารมณ์ของท่านผู้พี่เจ้าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ครั้งหน้ากลับมาหากรู้ว่ามีลูกผู้น้องที่รู้จักคิดและเชื่อฟังเช่นเจ้านี้ ไม่แน่ว่าภายในใจจะดีใจมากไหนนะ! เอาละ เจ้าได้รับความตื่นตระหนกตกใจ เสื้อผ้าก็เปื้อนถูกน้ำชาแล้ว รีบกลับไปเปลี่ยนชุด พักผ่อนดีๆเสียหน่อย ข้าจะส่งสาวใช้สองคนไปคอยดูแลเจ้า”
“ท่านอ๋อง ข้าได้พาสาวใช้มาด้วย”
“เจ้าพามาเพียงแค่หนึ่งคน จะพอใช้ได้อย่างไร? เจ้าไม่ต้องก้าวก่าย ข้าจะให้ฟู๋โป๋จัดการ”
“เจ้าค่ะ”
ยู่ชินอ๋องส่งเซี่ยจิ่งเฉิงออกไป ความยิ้มแย้มบนใบหน้าสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที: “ฟู๋โป๋ จัดหาสาวใช้สองคนที่ท่าทางคล่องแคล่วเฉลียวฉลาด รู้จักสังเกตสีหน้าไปคอยรับใช้อยู่ข้างกายของเซี่ยจิ่งเฉิง”
ฟู๋โป๋รีบพยักหน้า: “ท่านอ๋องโปรดวางใจ บ่าวจะจัดการให้เรียบร้อย”
ยู่ชินอ๋องก้มหน้าลงมองดูแขนของตนเองที่ได้รับบาดเจ็บ: “ข้าก็ว่าแล้วว่าตอนที่ล่าสัตว์ เหตุใดจึงมีคนไม่ระมัดระวังขนาดนั้น? ที่แท้ก็มีการวางแผนเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ”
“ท่านอ๋อง คุณหนูลูกผู้น้องท่านนั้น......”
“ผู้คนเหล่านั้นภายในจวนอ๋องให้ทำการสอบสวนให้ข้าอย่างหนัก! ถ้าหากว่าเป็นความบังเอิญจริงก็แล้วกันไป ถ้าหากไม่ใช่ความบังเอิญ......รอจนกว่าลั่วเฉินจะกลับมา มอบหมายให้เขาจัดการด้วยตนเอง”
“ขอรับ ท่าทางของท่านชายเมื่อครู่ ทำให้คนตกใจกลัวอย่างแท้จริง บ่าวไม่ได้เห็นท่านชายโกรธเช่นนี้มานานหลายปีมากแล้ว” ใจของฟู๋โป๋ยังมีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่
“ลักษณะนิสัยของลั่วเฉิน เจ้ายังไม่ชัดเจนหรือ? ลักษณะนิสัยของเขาดูเย็นชา ไม่ใส่ใจทุกเรื่อง แต่ทว่านั่นเพราะไม่ได้แตะต้องคนหรือสิ่งของที่เขาให้ความสนใจ”
“ก็ไม่รู้ว่าที่หลินผิงเกิดเรื่องอะไรขึ้น แม่นางเฟิงผู้นั้นมีอันตรายหรือไม่?”
ยู่ชินอ๋องกัดฟันด้วยความเคียดแค้น: “ให้ข้าจับผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างลับๆครั้งนี้ออกมา ข้าจะต้องทุบกระดูกเขาให้หัก!”
ไม่ง่ายเลยที่ลั่วเฉินจะหาคนที่เขาใส่ใจจนเจอ ถ้าหากว่าด้วยเหตุนี้ทำให้ไก่ก็บินหนีไข่ก็แตก(สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง) เมื่อไหร่เขาถึงจะได้อุ้มหลานชายคนโต?
ฟู๋โป๋ที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าซ้ำๆ: “บ่าวจะไปกำชับให้ทุกคนให้อยู่ในจวนเดี๋ยวนี้ ห้ามไม่ให้ออกไปโดยพลการ จะต้องช่วยท่านอ๋องลากตัวผู้ที่ทำตัวออกนอกลู่นอกทางที่อยู่ในจวนออกมาให้ได้อย่างแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ