หยุนฉิวล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ขาวซีด นำมือปิดบาดแผลตรงไหล่พร้อมกับความเจ็บปวดที่ส่งผลให้สีหน้ามีความดุร้าย “เป็นเรื่องเข้าใจผิด……ไม่เป็นไรหรอก”
ฟู่ลั่วเฉินโยนดาบที่อยู่บนมือลงด้วยเสียงดังกราว หันไปมองที่จ้าวยี่ “ใต้เท้าจ้าว หัวหน้าตระกูลหยุนยังยอมรับเลยว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้เจ้าจะไม่มาสืบสวนข้าและให้ข้าต้องมารับผิดชอบใช่ไหม?”
ความขมขื่นได้แวบเข้ามาในใจของจ้าวยี่ ตราบใดที่ท่านชายปลอดภัยดี ในขณะนี้ถ้าฟู่ลั่วเฉินนำมือข้างหนึ่งบิดหัวของหยุนฉิวหลุดลง เขาก็ไม่ได้มีใจที่จะสืบสวนไล่ตามต่อไป
“ข้าได้รับฟังแล้ว เป็นเพียงความเข้าใจผิด ไม่จำเป็นที่จะต้องสืบสวน”
ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้า “งั้นข้าจะกลับไปที่สวนเพื่อทำการพักฟื้นละ อ๋อใช่ ศพของหยุนฮั่นยังอยู่ตรงหอหญิงงามเมือง ใต้เท้าจ้าวพยายามดับไฟให้เร็วที่สุด นำศพออกมาเพื่อทำการตรวจสอบ ข้าเพียงแค่เหลือบมองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ช้ำไปทั้งหน้า เลือดออกทางปากและจมูก ตายเพราะโดนสารพิษอย่างชัดเจน”
“ทราบ”
เฟิงฉิ้นหว่านมองไปยังหอหญิงงามเมืองที่ลุกไหม้ไปด้วยไฟ “ท่านชาย ยังมีเหว้ยหลัน……”
“วางใจได้ ไม่เป็นไร ”
หยุนซวนเดินมาอย่างกะเผลก ได้เห็นเฟิงฉิ้นหว่านปลอดภัยดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยสีแห่งความสุข “แม่นางเฟิงไว้ใจได้ ตอนเจ้าช่วยท่านชายพันแผลอยู่ ก็มีคนได้ขึ้นไปช่วยแม่นางเหว้ยหลันลงมาแล้ว”
เฟิงฉิ้นหว่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีแล้ว……”
“ท่านชาย、แม่นางเฟิง รถม้าได้เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ณ ตอนนี้ก็กลับสวนไปพักผ่อนเถอะ”
“ได้”
เฟิงฉิ้นหว่านพยุงตัวฟู่ลั่วเฉินขึ้นรถม้าอย่างระมัดระวัง กำลังจะขึ้นไปนั่งตาม ก็เห็นเสิ่นเยว่วิ่งมาอย่างเร่งรีบ
“ฉิ้นหว่าน!”
“ท่านแม่!”
เฟิงฉิ้นหว่านเพิ่งพูดเสร็จ วินาทีต่อมานางก็ถูกเสิ่นเยว่ดึงเข้าไปในอ้อมกอดโดยตรง
“เจ้าเนี่ยเจ้าสาวโง่ ตัวเองจะไปผจญภัยแล้ว แต่ดันส่งท่านแม่ออกจากเมือง นี่เจ้าโง่ใช่ไหม?”
ตอนช่วงเช้า เสิ่นเหย่ออกจากเมืองไปยังหมู่บ้านกับสาวๆของหอหญิงงามเมือง ตกลงกันแล้วว่าถ้าได้จัดการทำให้คนเหล่านั้นคุ้นชินหรือสงบลงก็จะกลับมา แต่ว่าตอนที่นางจะเดินทางกลับไปนั้น แม่นมโจวดันพูดว่าเฟิ่งฉิ้นหว่านได้สั่งการไว้แล้ว ให้พวกเขาพักอยู่ตรงหมู่บ้านนี้สักสองคืน
เสิ่นเยว่รู้สึกได้ทันทีเลยว่ามันผิดปกติ จึงได้กลับไปสู่เมืองอย่างเร่งรีบ ได้เห็นสภาพหอหญิงงามเมืองที่ถูกไฟลุกโชนท่วมท้น นางรู้สึกเพียงเสียงหึ่งในหัวสมองนาง แทบจะทนไม่ไหวที่จะหมดสติตายไป ยังดีที่เฟิงฉิ้นหว่านไม่เป็นอะไรไป
ฟู่ลั่วเฉินเปิดม่านรถแล้วเดินลงมา ใบหน้าที่หล่อเหลากับสีหน้าที่ซีด ครึ่งของแขนเสื้อเต็มไปด้วยคราบเลือด ไอด้วยเสียงเบาเล็กน้อย แทบทนไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความกังวล ดูเหมือนว่าวินาทีต่อมาร่างกายจะอ่อนเพลียและล้มลงกับพื้น
“ฮูหยิน มีบาดแผลบนร่างกาย จึงไม่สามารถที่จะทำความเคารพฮูหยินได้ ได้โปรดฮูหยินอย่าถือโทษเลย”
“ตรงไหนกัน เราต่างหากที่ต้องขอบเจ้าท่านชายฟู่ ถ้าไม่ใช่ท่าน วันนี้ฉิ้นหว่านต้องซวยมากแน่ๆ ขอเชิญท่านชายรับคำขอบเจ้าของเราด้วยเถอะ!”
เสิ่นเหย่กล่าวเสร็จพร้อมกับกำลังจะคำนับเพื่อขอบเจ้า
ฟู่ลั่วเฉินไออย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สีหน้ายิ่งขาวซีดมากขึ้น “ฮูหยิน แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด แบบนี้ไม่ใช่เป็นการทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่รับไม่ได้หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ