ได้ยินคำพูดของเฟิงฉิ้นหว่าน จ้าวยี่ขมวดคิ้ว “ความลับอะไรน่าตกตะลึง”
เฟิงฉิ้นหว่านค่อยๆหลับตาลง เหมือนกับว่าในใจยังคงมีความกลัวจากผลกระทบที่ผ่านมา
“อายุของนายท่านตระกูลหยุนก็มากแล้ว ภายใต้ยังคงมีลูกชายอยู่สองท่าน นั่นก็คือหยุนฮั่นและหยุนเลี่ยวที่แย่งชิงตำแหน่งนายท่าน ไปๆมาๆพวกเขาสองพี่น้องก็สนิทกัน ทะเลาะกันได้อย่างสนุกสนานมาก ปกติแล้วนึกว่าทั้งสองมีความเท่าเทียมกันโดยที่ไม่สามารถแบ่งแยกออกว่าใครใหญ่กว่ากัน แต่ที่จริงแล้ว นายท่านตระกูลหยุนมีความลำเอียง หลายปีที่ผ่านมานี้ มักชอบบังคับหยุนฮั่นมาทรมานตัวหยุนเลี่ยว ความหมายคล้ายว่าแม้แต่เศษเสี้ยวเล็กน้อยก็ไม่อยากให้เขาสืบทอดมรดกของตัวเอง หยุนฮั่นทนไม่ได้กับความกดดันนี้ ฉะนั้นจริงคิดอยากหาความยุติธรรมจากหอหญิงงามเมือง”
หยุนฉิวอดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดอีกครั้ง “เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้าพูดไปเรื่อยให้น้อยลงหน่อย!”
“ข้าพูดไปเรื่อยใช่หรือไม่ ในใจของนายตระกูลหยุนรู้ดีที่สุด! นอกจากนี้ นายท่านลำเอียงหรือไม่ คนช่างสังเกตเขาดูก็รู้แล้ว! ตอนที่นายท่านตระกูลหยุนหนีออกจากหอหญิงงามเมือง ที่ได้พามาด้วยเป็นลูกชายคนที่สามหยุนเลี่ยวของท่านเลยนะ ถ้าหากไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีกันและเป็นห่วงรักสุดๆ จะยอมทิ้งลูกอีกคนโดยไม่สนใจเลยหรือ?”
“ข้าไม่ได้ทำ!”
“ใต้เท้าจ้าว เพราะว่า ณ ตอนนั้นหยุนฮั่นได้โทษหยุนฉิวว่าลำเอียง หยุนเลี่ยวก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงตีกับเขาอย่างรุนแรง ระหว่างตีกัน หยุนฮั่นไม่ระวังที่ได้นำโต๊ะเล็กทุบโดนศรีษะของหยุนเลี่ยว นี่แหละคือที่มาของแผลบนตัวหยุนเลี่ยว”
จ้าวยี่หยักหน้า “หลังจากนั้นละ?”
“หลังจากนั้น นายท่านตระกูลหยุนบอกว่าตัวเองผิด จากนี้ไปจะปฏิบัติต่อลูกชายทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน หวังว่าวันข้างหน้าสองพี่น้องจะคืนดีต่อกัน ยังพูดว่าหยุนเลี่ยวเป็นน้องชาย ในฐานะที่ตัวเองเป็นน้องชายกลับลงมือตีพี่ชาย เป็นการไม่ให้ความเคารพ ฉะนั้นจึงขอให้หยุนเลี่ยวรินชายอมรับความผิดพลาดที่ทำต่อหยุนฮั่น
หยุนฉิวยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ ความตื่นตระหนกผุดเข้ามาในใจ ความรู้สึกที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการคิดนั้นก็ได้ทำให้เขาห้ามเฟิงฉิ้นหว่านหยุดการพูดที่ไม่ใช่เรื่องจริงนั้น “ใต้เท้าจ้าว คำที่เฟิงฉิ้นหว่านกล่าวไม่เป็นเรื่องไม่มีสาระทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ที่นางกล่าวนั้นไม่มีอยู่จริง”
เฟิงฉิ้นหว่านไม่ได้สนใจหยุนฉิว ยังคงพูดต่อ “ใต้เท้าจ้าว ทุกคำที่ข้ากล่าวนั้นไม่มีคำโกหก ตอนนั้นที่ได้เห็นหยุนเลี่ยวรินชายอมรับความผิดพลาดต่อหยุนฮั่น นึกว่าเรื่องก็ได้จบไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหยุนเลี่ยวผู้จิตใจดำนั้น ถึงกับวางยาพิษในน้ำชา อยากจะขจัดพี่น้องที่ทะเลาะกับตัวเองมาหลายปีนี้ ได้นำความเฮงซวยนี้มาสู่ข้า!”
หยุนเลี่ยวลืมตาโตขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม “เจ้าหยุดพูดสิ่งที่ไม่เป็นจริง ข้าไม่เคยใส่ยาพิษลงไปเลย!”
เฟิงฉิ้นหว่านเงยหน้ามองขึ้น มองตรงไปยังหยุนเลี่ยว สายตาบ่งบอกถึงการบังคับซักถาม “ท่านชายหยุนองค์สาม ท่านกล้าสาบานต่อฟ้า ตอนอยู่หอหญิงงามเมือง ท่านไม่ได้พกพายาพิษ ยิ่งไม่ได้มีพิรุธต่อการชินยา?”
ทันใดนั้นหยุนเลี่ยวนึกได้ว่าก่อนหน้านั้นเพื่อที่จะใส่ร้ายเฟิงฉิ้นหว่าน ได้นำยาพิษใส่ลงในน้ำชา ร่างนั้นแข็งทื่อ
ปฏิกิริยาดังกล่าวตกอยู่ในสายตาของจ้าวยี่ ทำให้สีหน้าของเขายิ่งเข้มงวดขึ้น “เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้าพูดต่อ มีอะไรอีก?”
“ข้าได้เห็นเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น ทำให้อึ้งไปหมด คิดได้แต่ว่าต้องรีบซ่อนตัวไว้ ในเมื่อได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ ตระกูลหยุนคงจะฆ่าข้าให้เสียเป็นแน่ และจะไม่ให้ข้าได้เห็นสถานการณ์ที่สองพี่น้องผิดหัวต่อกัน ตอนนั้นหยุนฮั่นสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ คิดว่าการวางยาพิษฆ่าตนเองนั้นเป็นความคิดที่หยุนฮิวและหยุนเลี่ยวร่วมมือกัน ได้แต่เพียงรู้สึกสิ้นหวัง ฉะนั้นจึงเลือกที่จะตายไปด้วยกัน ได้เผาทั้งหอหญิงงามเมือง”
หยุนฉิวรีบใส่หัว “ใต้เท้าจ้าว เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนี้ ตลอดวันที่ผ่านมา ตระกูลหยุนและตระกูลเฟิงมีการเข้าใจผิดกัน นอกจากนี้กิจการก็ยังมีความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง ก่อนวันเกิดเหตุพวกข้าได้ไปหอหญิงงามเมือง คืออยากจะมาทำความเข้าใจกันโดยไม่ทะเลาะกันอีกกับแม่นางเฟิง แต่ไม่คิดเลยว่า……”
เฟิงฉิ้นหว่านแซกคำพูดของหยุนฉิว ยึดเอาเสียก่อนโดยตรง “นายตระกูลหยุนจะมาใส่ร้ายป้ายสีที่ข้าสนทนาส่วนตัวกับคนข้างๆอีกแล้วหรือโดนเจ้าจับตัวเป็นๆเลยสิ?”
“ใต้เท้าจ้าว คนตระกูลหยุนรังแกกันเกินไปแล้ว พวกเขาได้เห็นที่ข้าเห็นเหตุการณ์ที่หยุนเลี่ยวจะวางยาฆ่าพี่น้องตัวเอง ก็อยากจะทำลายล้างข้าเสีย ไม่เพียงแต่ชีวิตของข้า ชื่อเสียงยังไม่เว้นเลย ตอนเมื่อใต้เท้าจ้าวไปตรวจสอบหอหญิงงามเมือง ก็น่าจะพบเจอแล้ว ตรงหอหญิงงามเมืองนอกจากศพของหยุนฮั่นแล้ว ยังมีชายอีกสองคน ชายสอบคนนั้นเป็นคนตระกูลหยุน หยุนฉิวสั่งพวกเขาทำลายความจริงของข้า จากนั้นยังมาทำลายชื่อเสียงของข้า ถึงตอนนั้นก็เป่าประกาศไปทั่ว บอกว่าข้าติดต่อกับคนอื่นอย่างไม่เปิดเผยและถูกเป็นผู้ต้องสงสัย โกรธและอับอายจึงฆ่าตัวตาย”
ฟู่ลั่วเฉินนั่งอยู่ด้านข้างได้หรี่ตาลง ความหนาวเย็นฉ่ำยังคงล้อมรอบทั่วร่างกาย ความหนักแน่นหน้าอกจุกใจ ท่านไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าหอหญิงงามเมืองจะเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ