ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 172

จ้าวยี่เอ่ยปากพูดว่าเทียนนั้นเป็นหยุนฮั่นโยนประโยคนี้ ทันใดนั้นทำให้หยุนฉิวและหยุนฮั่นตกตะลึงหยุดนิ่งอย่างหนัก 

“นี่……นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” หยุนฉิวพูดด้วยน้ำเสียงอันตื่นตระหนก จ้าวยี่เห็นด้วยกับตา แล้วจะเถียงต่ออย่างไร?

“ตอนนั้นไม่เพียงแต่ข้าที่ได้เห็น พวกชากวานที่ได้ทุบหน้าตากให้เป็นรูทางออกก็ได้เห็น ปกติเลยที่จะไม่พูดคำโกหกมาใส่ร้ายคนอื่น ฉะนั้น ไฟที่ลุกไหม้ตรงหอหญิงงามเมือง ประเด็นหลักเลยคือเกิดขึ้นจากบนตัวหยุนฮั่น แต่หยุนฮั่นดันเสียชีวิตไปแล้ว หอหญิงงามเมืองก็ถูกเผากลายเป็นขี้เถ้า อยากจะสอบสวนอีก ก็คือความยากบวกกับความยากแล้ว”

หยุนฉิวสีหน้าเทาขาวเป็นแผ่น “ใต้เท้า……ระหว่างนี้ไม่แน่อาจมีการเข้าใจผิด……”

เขาคิดวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว พยายามที่จะอยากขจัดลบล้างความสงสัยที่มีต่อตระกูลหยุนออกไปเสีย แต่ไม่รู้ว่าควรจะถกเถียงต่อไปยังไง?

ทันใดนั้นเฟิงฉิ้นหว่านก็เอ่ยปาก “ใต้เท้าจ้าว เรื่องมันจะเป็นเรื่องไม่จริงไม่ได้ เมื่อกี้นายท่านตระกูลหยุนถามข้าว่ามีหลักฐานหรือไม่ ข้าคิดไปคิดมา กลับคิดออกมานิดนึง แค่ไม่รู้ว่าหลักฐานนั้นยังอยู่หรือไม่”

ทันใดนั้นจ้าวยี่ก็ตั้งใจขึ้นมาทันที “หลักฐานอะไร? รีบพูดมา”

“ใต้ท้าว ณ ขณะตอนที่หยุนเลี่ยววางยาพิษฆ่าหยุนฮั่น เป็นยาที่พกมาด้วยตัวเอง ใช้ขวดที่เป็นลวดลายบรรจุไว้ ตอนนั้นเขาไม่ได้รู้ว่าหอหญิงงามเมืองจะเกิดเหตุไฟไหม้ สิ่งของทุกสิ่งจะโดนเผากลายเป็นขี้เถ้า ฉะนั้นขวดที่เป็นลวดลายต้องพกกับตัวแน่นอน เตรียมพร้อมที่จะกำจัดเมื่อออกจากหอหญิงงามเมือง แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดไฟไหม้ที่หอหญิงงามเมือง เขายังโดนจับไปขังในคุกอีก ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิด ขวดที่เป็นลวดลายคงจะยังซ่อนอยู่บนตัวของหยุนเลี่ยว!” 

ได้ยินคำนี้ สีหน้าหยุนเลี่ยวซีดมากยิ่งนักในทันที บนหน้าผากมีเหงื่อเป็นเม็ดๆซึมออกมา อย่างไรก็ตามก็ได้โตกลับด้านน้ำเสียงหนักแน่น 

“เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้าอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนัก ข้าไม่ได้วางยาพิษ ยิ่งไม่ทราบว่าขวดที่มีลวดลายนั้นคืออะไร”

“ที่ผ่านใต้เท้าจ้าวทำอะไรก็ตามมักจะละเอียดรอบคอบ เมื่อท่านออกจากหอหญิงงามเมืองแล้ว รอบข้างก็จะมีกวานชาคอยเฝ้าดูอยู่เสมอ ฉะนั้นท่านจะไม่มีทางที่จะทิ้งมันไปเรื่อย เผื่อมีคนจะมาเห็น เป็นไปได้ที่ว่าขวดที่มีลวดลายนั้นยังซ่อนอยู่บนตัวท่าน” 

“ข้าไม่มี เจ้าอย่าพูดไปเรื่อย”

“มีหรือไม่นั้น ขอเชิญใต้เท้าจ้าวตรวจค้นดูก็ได้แล้ว ถ้าหากไม่มี ก็คืนความจริงแก่ท่านผู้นี้ผู้เป็นท่านชายสามของตระกูลหยุน” ภายใต้การแสดงเฟิงฉิ้นหว่านได้มีความยิ้มด้วยความเสียดสี

“มีสิทธิ์อะไร?” ทันใดน้ำเสียงหยุนเลี่ยวก็ดังขึ้นมา มีความแหลมคมเล็กน้อยด้วยความชัดเจน เวลาเดียวกันก็ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความกลัวที่กลัวถูกจับได้

สีหน้าจ้าวยี่เต็มไปด้วยความเข้มงวด “สั่งคนมา ตรวจค้นตัวหยุนเลี่ยว ดูว่าบนตัวเขามีขวดที่มีลวดลายบรรจุยาพิษซ่อนไว้หรือไม่?” 

สีหน้าหยุนเลี่ยวเต็มไปด้วยความโกรธ เหมือนกับว่าโดนขายหน้ามาก “ได้ ใต้เท้าจ้าวจะฟังคำพูดเฟิงฉิ้นหว่านอย่างเดียว จะค้นก็ค้น ถ้าหากค้นไม่เจอหลักฐานอะไรบนตัวข้าละ ใช่หรือไม่ที่จะเป็นพยานได้ว่าทั้งหมดที่เฟิงฉิ้นหว่านได้กล่าวมานั้นเป็นเรื่องไม่จริง?” 

ใจเฟิงฉิ้นหว่านขยับเล็กน้อย ชัดเจนมากที่สีหน้าหยุนเลี่ยวจะไม่ค่อยปกติ เหมือนดั่งว่าแน่ใจมากที่บนตัวเขาจะค้นไม่เจออะไร จากนั้นก็สวนด้านกลับมากัดตัวเองทีหนึ่ง 

“ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่? ยังต้องตรวจค้นค่อยว่ากัน” จ้าวยี่เลือกกวานชาอีกสองท่านไปด้านหน้า “ค้นละเอียดหน่อย”

เฟิงฉิ้นหว่านค่อยๆหันหัวไป กวานชาสองท่านไปข้างหน้าทันทีเพื่อค้นตัวหยุนเลี่ยวล่างจากสู่บน

ผ่านไปสักครู่ กุมมือต่อจ้าวยี่กราบทูลว่า “ใต้เท้าจ้าว หยุนเลี่ยวผู้ต้องสงสัยนั้นบนตัวเขาไม่พบร่องรอยของขวดที่มีลวดลาย”

หยุนเลี่ยวโผล่สีหน้ายิ้มอันมีชัยชนะทันที “เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?”

เฟิงฉิ้นหว่านหันหัวมา มองสายตาของหยุนเลี่ยว สังเกตสีหน้าของหยุนเลี่ยวอย่างละเอียดถี่ถ้วน 

“ขวดที่มีลวดลายที่บรรจุยาพิษเป็นไปไม่ได้ที่จะหายไปโดยไร้สาเหตุ…… ถ้าหากไม่อยู่บนตัวท่าน ถ้าอย่างนั้นสถานที่ที่ท่านเคยอยู่ หรือว่าคนที่ท่านเคยพบ ใต้เท้าจ้าว นายท่านตระกูลหยุนรวมถึงผู้ที่ถูกขังในตรงคุกสองคน ใช่หรือไม่ที่ควรจะตรวจค้น?”

จ้าวยี่ขมวดคิ้ว ได้ให้คำสั่งแก่กวานชาไปตรวจสอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ