ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 177

ฟู่ลั่วเฉินยกเท้าเดินไปด้านนอก ตอนที่เดินไปถึงหน้าประตู จู่ๆก็หยุดก้าวเดินอย่างกะทันหัน

หยุนซวนรีบเปิดปากพูด : “ท่านชายมีอะไรหรือ?”

“เสื้อผ้าชุดนี้ของข้าเหมาะสมหรือไม่?”

หยุนซวนมองไปที่สีของเสื้อผ้า จากนั้นมองไปที่ใบหน้าของฟู่ลั่วฉิน พยักหน้า : “ท่านชายค่อนข้างดูดี”

“ข้าจำได้ว่ามีลายสีเงินบนพื้นขาวตัวหนึ่ง เจ้าไปเอามาให้ข้าเปลี่ยน”

หยุนซวนตะลึงจนเบิกตากว้าง : “ท่านชาย นี่ท่าน.....”

ไม่ใช่ว่าท่านชายถูกเสิ่นฮูหยินทำให้ตกใจแล้วนะ? เมื่อก่อนมักจะเห็นท่านชายเย่ใส่เสื้อสีขาวบ่อยๆ ท่านชายก็เคยพูดติดตลกคนอื่นเขา ตอนนี้ตัวเองก็จะใส่แล้วหรือ?

“รีบไป” ฟู่ลั่วเฉินนึกถึงช่วงเวลาที่เผชิญหน้ากันที่ศาล ท่าทางของเฟิงฉิ้นหว่านที่กำลังส่องกระจกและแต่งหน้าอย่างระมัดระวัง

ว่ากันว่าลูกสาวมีความคล้ายคลึงกับแม่มากที่สุด ปกติเฟิงฉิ้นหว่านชอบใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อนๆ ก่อนออกจากบ้านก็ต้องแต่งเติมหน้าให้เรียบร้อย ค่อนข้างใส่ใจกับรูปลักษณ์ภายนอก เสิ่นฮูหยินท่านนั้นก็น่าจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน แบบนี้ล่ะก็ แต่งกายสุภาพเรียบร้อยหน่อย ไม่น่าจะมีอะไรผิด

ฟู่ลั่วเฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ จากนั้นกวานผมปานหลงสีแดงทองบนศีรษะถูกแทนที่ด้วยกวานผมสีขาว หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้ว ค่อยลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องโถงด้านหน้า

เสิ่นเยว่มองดูสวนแห่งนี้ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกตกตะลึง

ตั้งแต่เดินเข้ามาจากประตูตลอดทาง ข้างในทิวทัศน์ของสวน ดอกไม้ล้ำค่า ภายในห้องโถงด้านหน้าแห่งนี้ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ ทั้งแก้วและโคมไฟเผยให้เห็นถึงบรรยากาศของความหรูหรา ทำให้คนที่พบเจออดไม่ได้ที่จะระวังตัวเล็กน้อย

แม่นมโจวพูดเสียงเบาอยู่ด้านข้าง : “ฮูหยิน สวนแห่งนี้จัดวางได้ดูดีมากจริงๆ”

เสิ่นเยว่รีบจ้องมองนางหนึ่งที บอกใบ้ให้นางอย่าพูดไปเรื่อย : ข้างกายของฉิ้นหว่านเคยมีองครักษ์ลับของฟู่ลั่วเฉินปรากฏตัว ว่ากันว่าท่านชายเหล่านี้เวลาเดินอยู่ข้างนอก ข้างกายล้วนแล้วมีองครักษ์ลับและหน่วยทหารล้าตายติดตาม ไม่แน่รอบๆอาจจะมีคนมากมายเฝ้าสังเกตพวกนางอยู่ เรื่องขายหน้าเช่นนี้ มันจะทำให้ฟู่ลั่วเฉินคิดว่าตระกูลเฟิงขึ้นเวทีไม่ได้ไม่ใช่หรือ ก็เลยทำให้ฉิ้นหว่านต้องเสียหน้า?

แม่นมโจวรีบหุบปาก ก้มหน้าลงไม่กล้าพูดไปเรื่อยอีกต่อไป

ฟู่ลั่วเฉินเดินเข้ามาในห้องโถงด้านหน้าอย่างช้าๆ รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่กดดัน เดิมทีภายในใจก็มีความประหม่าเล็กน้อยอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความตึงเครียดเข้าไปอีก

“ข้าผู้น้อยน้อมพบเสิ่นฮูหยิน”

ฟู่ลั่วเฉินยกมือขึ้นแล้วโค้งคำนับ ชุดยาวจีนลวดลายเงินสีขาวทั้งตัวทำให้ร่างกายสูงของเขาหล่อเหลาขึ้นเรื่อยๆ การโค้งคำนับของเขาเคลื่อนไหวได้อย่างอ่อนโยนและสง่างาม มีกลิ่นอายของขุนนางอยู่รอบ ๆ มองดูหนึ่งที เหมือนต้นสนบนภูเขาที่สูงใหญ่ พร้อมกับส่องแสงประกายแวววาว

เสิ่นเยว่ถอนสายตาจากการชื่นชมภาพที่น่าทึ่ง ลุกขึ้นและหลบเลี่ยงการโค้งคำนับของฟู่ลั่วเฉินตามมารยาท

“ท่านชายฟู่ ข้าเจ้าน้อมรับไม่ไหว ข้าเจ้าเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง รับการโค้งคำนับของท่านชายฟู่ไม่ได้ ที่มาในครั้งนี้ เป็นการส่งของมาขอบคุณท่านชาย ขอบคุณท่านชายที่ช่วยชีวิตของลูกสาวในหอหญิงงามเมือง”

“ข้าและฉิ้นหว่านเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตอนนั้นตอนที่ติดต่อกันเคยพูดแล้ว ระหว่างซึ่งกันและกันสนใจเพียงมิตรภาพเท่านั้น ไม่แบ่งแยกตัวตน ด้วยเหตุนี้ข้าและนางล้วนแล้วเท่าเทียมกัน ท่านเป็นแม่ของฉิ้นหว่าน ก็เป็นผู้อาวุโสของข้าเช่นกัน รับการโค้งคำนับของข้า เป็นเรื่องที่สมควร”

“ท่านชายฟู่พูดตลกแล้ว ตัวตนนี้ไม่ว่าจะแบ่งแยกหรือไม่แบ่งแยก ล้วนแล้ววางอยู่ตรงนั้น มันจะสามารถหายไปในอากาศได้อย่างไร?”

ระหว่างที่เสิ่นเยว่หัวเราะ พร้อมกับหยิบรายการของขวัญจากมือของแม่นมโจว มอบให้ฟู่ลั่วเฉิน

“สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นสิ่งของขอบคุณท่านชายฟู่ และขอให้ท่านชายอย่ารังเกียจของขวัญอันน้อยนิดเลย”

“ฮูหยิน ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ก่อนหน้านี้ที่ข้าช่วยฉิ้นหว่านเอาไว้ เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเท่านั้น กลับไม่ต้องการการตอบแทนอะไร”

“ท่านชายไม่ต้องการสิ่งตอบแทนจากการช่วยเหลือ นั่นเป็นการอบรมทางด้านศีลธรรมอันสูงส่งของท่าน แต่ว่าหนี้บุญคุณยังคงเป็นหนี้บุญคุณ ตระกูลเฟิงของข้าไม่เคยมีนิสัยของการเป็นหนี้บุญคุณแล้วไม่คืน ท่านชายไม่รับของเหล่านี้เอาไว้ คิดว่าเป็นเพราะสิ่งของเหล่านี้มันน้อยนิดเกินไป งั้นข้าจะกลับไปเตรียมมาใหม่”

หนี้บุญคุณไม่คืน ย่อมมีโอกาสถูกคนอื่นทวงหนี้บุญคุณเสมอ นางไม่สามารถปล่อยให้ฉิ้นหว่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้

ฟู่ลั่วเฉินรีบรับสิ่งของเหล่านั้นเอาไว้ รายการสิ่งของหนามาก วางอยู่ในมือค่อนข้างมีน้ำหนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ