เข้าไปยังจวนอ๋อง ฟู่ลั่วเฉินสังเกตได้อย่างชัดเจนเลยว่าภายในจวนอ๋องมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก “ในจวนอ๋องมีดอกไม้เยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หยุนซวนก็มีท่าทางอันสงสัย “ใช่ แถมยังดอกไม้ยังเป็นสีชมพูหมดอีกด้วย?”
ดูแล้วสวยแปลกๆเลย
จวนยู่ชินอ๋องเดินอยู่ด้านข้าง ได้ยินคำที่พูดออกมาจึงกรอกตาอย่างค่อนข้างที่จะไม่เป็นผู้ดี พูดจาด้วยความไม่พอใจกับฟู่ลั่วเฉิน “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? หรือว่าเจ้าไม่เข้าใจเลยหรือ?”
ฟู่ลั่วเฉินมีความสงสัย “หรือว่าท่านพ่ออยากรับพระราชินีท่านใหม่ จึงจัดแต่งจวนอ๋องใหม่ก่อนล่วงหน้า?”
จวนยู่ชินอ๋องโกรธจนแทบกระโดดขึ้นมาตีหัวฟู่ลั่วเฉิน “ท่านพ่อรักท่านแม่ของเจ้าอย่างสุดซึ้งใจ จนตายไปก็ไม่สามารถเลิกรักได้ พระราชินีอะไร? นอกจากท่านแม่ของเจ้า ในโลกนี้มีใครอีกที่จะมีสิทธิ์มาเป็นพระราชินีของข้า? นี่ได้เตรียมพร้อมเพื่อต้อนรับแม่นางเฟิง ก่อนหน้านี้ในจดหมายที่หยุนซวนได้ส่งมา บอกว่าแม่นางเฟิงชอบสีชมพูมิใช่หรือ? จึงให้คนไปเตรียมพร้อมหน่อย แต่เสียใดลูกชายข้านั้นไม่พยายาม”
ฟู่ลั่วเฉินตกใจเล็กน้อย ทันใดนั้นรีบทำการเงียบ ด้วยประสบการณ์หลายปีที่ได้มีนี้ เวลานี้ห้ามพูดเด็ดขาด ถ้าไม่อย่างนั้น รับประกันได้เลยท่านพ่อบ้านข้าจะสามารถพูดได้ถึงสองชั่วโมง
จวนยู่ชินอ๋องไม่ได้รับคำตอบกลับ ทันใดก็ได้ยิ่งมีความไม่พอใจ “ไหนเจ้าพูดสิทำไมแม่นางเฟิงถึงไม่กลับมากับเจ้า?”
“ก็ต้องมีเรื่องที่จะต้องเคลียร์นิดหน่อย”
“หึ!” จวนยู่ชินอ๋องโกรธอย่างไม่พอใจ
ทั้งสองคนกลับไปยังกลางห้องโถง พ่อบ้านนำถ้วยชามาทันที
“ท่านชายเดินทางกลับมาลำบากแล้วนะ รีบดื่มชาให้ชุ่มคอ ข้าน้อยจะให้คนไปเตรียมอาหารมาตอนนี้” พ่อบ้านฝูกล่าวด้วยความหัวเราะเล็กน้อยอยู่ด้านข้าง
“ขอบคุณท่านอาฝู”
พ่อบ้านยิ้มจนใบหน้าเหี่ยวย่น “ท่านชายไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก คราวหน้าพาแม่นางเฟิงกลับมาด้วยกันก็ได้แล้ว”
ทันใดนั้นฟู่ลั่วเฉินรู้สึกว่าชาบนมือตัวเองมีความร้อนจัด
ได้ยินคำนี้ จวนยู่ชินอ๋องได้ฮึบขึ้นมา “ใช่แล้ว ลั่วเฉิน เจ้าได้คิดว่าจะกลับไปเมื่อไหร่?”
“ช่วงระยะเวลานี้คงไม่ได้กลับไป”
แสงในสายตาฟู่ลั่วเฉินลึกขึ้นเบาๆ เขาอยากจะกลับไปปกป้องเฟิงฉิ้นหว่านต่อ แต่ตอนนี้เมืองหลวงทางนี้มีเรื่องที่สำคัญมากต้องการเขาไปทำ
จวนยู่ชินอ๋องเก็บความเสียดายในใจไว้ บกมือให้คนออกไปก่อน เอ่ยปากพูด “ก่อนหน้านี้ที่เจ้าได้พูดเรื่องนั้นในจดหมาย ท่านพ่อก็ทราบหมดแล้ว เจ้าเตรียมพร้อมอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเผยเรื่องเรือนไป๋เซียง?”
“ใช่” น้ำเสียงฟู่ลั่วเฉินอย่างหนักแน่น “องค์ชายสามจะปล้นทรัพย์ จะพัฒนาลูกน้องของตัวเอง เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล ถ้าหากเขาอะไรก็ไม่ทำรอแต่ความตาย ก็แสดงว่าเขาเป็นคนโง่ แต่ว่าจะเอาทรัพย์สินก็ต้องได้มาอย่างเป็นธรรม เขาใช้วิธีคดเคี้ยวแบบนี้ ทำให้ทั้งเจียงหนานวุ่นวายมืดมืน นี่ก็คือสิ่งที่ข้าอดทนต่อไปไม่ได้แล้ว”
“ข้าก็คิดไม่ถึง องค์ชายสามผู้ซื่อตรงดั่งหยก สามารถที่จะทำสิ่งที่ทำลายล้างสวรรค์ได้ ตอนเรื่องหอเซียวเซียงจุ๋นได้เผยแพร่ออก ทำให้รู้สึกว่าน่ากลัวจริงๆ ทุกวันนี้ยิ่งโผล่เรื่องเรือนไป๋เซียง……ครั้งนี้จะต้องสั่งสอนเขาให้ดีทีหนึ่ง ให้เขารู้ว่าเรื่องอะไรที่ควรทำ กับเรื่องอะไรที่ไม่ควรแตะเด็ดขาด”
ตำแหน่งฐานะของราชวงศ์มีเกียรติ หากไปทำการก่อเหตุไม่ดีขึ้น ผลกระทบก็ยิ่งหนักมากขึ้น
“ท่านพ่อ ช่วงเวลาที่ข้าออกจากเมืองหลวงนี้ ท่านอยู่จวนอ๋องถูกคนรบกวนเยอะมากใช่หรือ?”
“ตอนที่เจ้าเพิ่งจากไป องค์ชายสองและองค์ชายสามได้สั่งคนมา ก็ยังคงเป็นการพูดเหมือนเมื่อก่อน ที่นำพิรุธของตัวเองมาใช้เพื่อได้คนไปยังฝ่ายเขา แต่ว่าหลังจากได้ข่าวตระกูลหยุนเกิดเรื่อง พวกเขาก็กลายเป็นว่านิ่งสงบเสีย แต่การจับจ้องมองในภายนอกมีมากกว่าเดิม ลั่วเฉิน ทางเจ้านั้นที่ได้ก่อเหตุมีความสะเทือนอย่างแรง ชัดเจนเลยว่าองค์ชายสองและองค์ชายสามเกิดความสงสัยในใจ เจ้าต้องคิดวิธีทางการเผชิญมัน”
ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้าอย่างหนัก “ข้าทราบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ