ฉินฮั๋วเหนียนยังคงงุนงงเล็กน้อย: "คุณหนู ข้ายังคงไม่เข้าใจ ตระกูลเฟิงมีร้านค้ามากมายอยู่แล้ว คุณหนูยังซื้อไว้มากเช่นนี้คิดจะทำอะไรหรือ"
“สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายเกินไป เงินจ่ายออกไปก็เป็นของตัวเอง เก็บไว้ในมือ ไม่รู้ว่าต่อไปจะถูกคนอื่นหลอกไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามร้านค้าเหล่านั้นทำเลก็ดี ที่แม้ในอนาคตจะไม่ได้ใช้งาน แต่ปล่อยเช่าออกไปก็ดี”
ดวงตาของ เฟิงฉิ้นหว่านกะพริบเล็กน้อย
ในตอนนี้ร้านค้าเหล่านั้นไม่สะดุดตาจริงๆ แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน จู่ๆราชวงศ์ก็ประกาศว่าจะทำการค้ากับประเทศตงเหว้ย มีท่าเรือการค้าสี่แห่ง และหนึ่งในนั้นอยู่ในหลินผิง
เมื่อมองดูร้านธรรมดาๆ ในตอนนี้ จู่ๆ ก็กลายเป็นแหล่งรวมเงินทองหลังจากเปิดการค้าแล้ว แม้ว่าจะปล่อยเช่าออกไปเฉยๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะหาเงินปัจจุบันกลับมาได้หลายเท่า
นางยังมีความรู้ไม่พอทางด้านการค้าขาย ยังต้องลงทุนศึกษาให้หนัก ตอนนี้ทำได้เพียงอาศัยประโยชน์จากชาติที่แล้ว พยายามสะสมทรัพย์สมบัติให้มากที่สุดอย่างมั่นคงที่สุด
มีเงินทองแล้ว นางถึงจะไปวางแผนได้มากขึ้น เพื่อจัดการกับวิญญาณชั่วร้ายของ จวนเฉิงเสี้ยง ที่จะมาในอนาคต
ฉินฮั๋วเหนียนพยักหน้า: “คุณหนูพูดถูก งั้นข้าจะซื้อร้านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เมื่อคุณหนูมีชายที่ต้องใจในอนาคต สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เป็นสินสอดทองหมั้นของท่านได้ เอาไปด้วยต้องมีเกียรติอย่างมากแน่ "
เฟิงฉิ้นหว่านสีหน้าชะงัก จากนั้นก็หัวเราะ: "จะจะไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อสามปี ท่านอาฉินคิดพวกนี้ ก็เร็วเกินไปเสียจริง"
“ความผิดข้า พูดอะไรก็ไม่คิดวิเคราะห์ นายท่านอยู่บนฟ้าขออย่าถือโทษเลย” ฉินฮั๋วเหนียนคำนับอย่างเร่งรีบ
เฟิงฉิ้นหว่านอยู่จนถึงเย็นตามปกติ เตรียมตัวจะลุกจากไป
หยุนชียืนอยู่ตรงหน้าประตู สายตามองมาอย่างตั้งใน
“มีเรื่องอะไร?”
หยุนชีรีบเดินเข้ามา: “นายท่านไปๆมาๆคนเดียวไม่ปลอดภัย ข้าน้อยอยากรับส่งนายท่านกลับจวน
“ท่านอาฉินจัดเตรียมคนไว้แล้ว” เฟิงฉิ้นหว่านพูดจบก็เดินออกไป ท่าทางค่อนข้างเฉยเมย
“นายท่าน……”
“ยังมีเรื่องอะไร?”
“แม่นมคนก่อนของนายท่าน แม่นมฉีแพร่ข่าวลือมากมาย มีคนเห็นนางออกจากเมืองไปทางทิศตะวันออก ไม่ก็ไปจับนางกลับมาไหม”
เฟิงฉิ้นหว่านหันกลับมา มองด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ กวาดมองหยุนชีขึ้นลง ไปหนึ่งรอบ: "แม่นมฉีจากไปหนึ่งวันแล้ว และรู้เพียงว่าทางทิศตะวันออก แต่ไม่รู้ว่านางไปไหนกันแน่ เจ้าสามารถจับนางกลับมาได้หรือ”
“ข้าไม่กล้าบอกว่ารับประกันเต็มสิบ แต่เพียงแค่นายท่านสั่ง แม้จะต้องเสี่ยงชีวิต ข้าก็จะพานางมาหน้านายท่าน ให้ท่านจัดการ” หยุนชีคุกเข่าบนพื้น เหงนมองเฟิงฉิ้นหว่าน ดวงตาเต็มด้วยความคาดหวังอย่างระมัดระวัง
แสงวาบผ่านในดวงตาของ เฟิงฉิ้นหว่าน นางเอนตัวไปเล็กน้อย มองตรงเข้าไปในดวงตาสีเข้มของ หยุนชี: "ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน เจ้ามองข้าด้วยสายตาแปลก ๆ เจ้ารู้จักข้ามาก่อนใช่หรือไม่? "
หยุนชีแข็งทื่อไปทั้งตัว: “นายท่านยังจำเจ้ายาจกคนหนึ่งที่ท่านคอยคุ้มกันได้ไหม?”
หยุนชีทั้งกายแข็งทื่อ ไม่กล้าจะขยับ: "นายท่านยังจำเจ้ายาจกที่ท่านปกป้องไว้เมื่อหกปีก่อนได้หรือไม่"
“หกปีก่อน?” เฟิงฉิ้นหว่านจำไม่ได้แล้ว
“ใช่ หกปีก่อน นายท่านเล่นที่ถนนหนานฮั๋วถูกข้าชนโดยไม่ตั้งใจ นายท่านไม่โกรธ กลับเอาแป้งกรอบในมือให้ข้า ต่อมายาจกหลานคนเห็นข้าผอมแห้ง จะมาแย่งของกินข้า เป็นนายท่านวิ่งเข้ามาช่วยบังไม้นั้นให้ข้า ยาจกพวกนั้นเห็นว่าทำร้ายโดนนายท่าน กลัวจะสร้างปัญหา ก็หนีไปแล้ว ตอนนั้นข้าถูกตีทั้งตัวเป็นเลือด นายท่านยังให้ข้าง้วนป้อเงินหนึ่งอัน……”
เฟิงฉิ้นหว่านก้มต่ำลง: “ข้าจำได้แล้ว เพราะงั้นเจ้ามาตอบแทนบุญคุณหรือ?”
“ใช่ ตอนนั้นหากไม่มีนายท่านบังไม้นั้นให้ข้า ข้าคงตายไปแล้ว ถึงแม้ง้วนป้อเงินที่นายท่านให้ข้า แม้ไม่สามารถช่วยชีวิตแม่ข้าได้ แต่กลับให้นางมีชีวิตอยู่ต่ออีกครึ่งปี ในใจข้าค่อยขอบคุณเสมอ ตอนนี้ถึงแม้นายท่านจะเอาชีวิตข้า ข้าก็ให้อย่างเต็มใจ”
เฟิงฉิ้นหว่านยกมุมริมฝีปากเบา ๆ สายตาเต็มไปด้วยด้วยความสุข: "ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ ในใจข้าก็ดีใจ เจ้าต้องมีชีวิตต่อไปดีๆ อย่าเอะอะก็พูดอะไรตายไม่ตาย"
นางยังคงจำไม่ได้ แต่รู้ว่าควรตอบกลับอย่างไร ถึงจะให้หยุนชีมีใจภักดีมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ