กลางที่ว่าการอำเภอ หยุนซวนกำลังสังเกตบัตรเชิญที่อยู่ในมือ ในแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ: “ท่านชายดูเร็ว บัตรเชิญนี่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวเสียจริง ลวดลายแกะสลักของลายฉลุบนบัตรเชิญนี่ทำขึ้นมาจากทองจริงๆ เช่นนี้ถ้าหากแกะออกมาก็สามารถนำไปใช้จ่ายได้เลยใช่หรือไม่?”
ช่างเป็นนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงเสียจริง!
นายอำเภอจ้าวยี่ที่อยู่ด้านข้างขยิบตาให้หยุนซวนไม่หยุด: “องครักษ์หยุนซวน บัตรเชิญนี่ก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก”
“ไม่ดีอย่างไร? รูปแบบของลวดลายนี่ก็ดูแปลกใหม่มาก อีกอย่างใต้เท้าดูหมึกที่ใช้บนบัตรเชิญนี่ ถ้าหากว่าข้าดูไม่ผิดละก็ ที่ใช้ก็น่าจะเป็นหมึกที่ดีที่สุด น่าจะเป็นหมึกโบราณ เมื่อสมัยนั้นท่านอ๋องเคยได้รับหมึกแบบนี้มาชิ้นหนึ่ง เช่นนั้นยังตัดใจใช้ไม่ลงเลย แม่นางเฟิงช่างใจกว้างยิ่งนัก”
ฟู่ลั่วเฉินมองไปยังจดหมายที่อยู่ในมือ ลมหายใจที่อยู่รอบตัวกลับยิ่งหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ
จ้าวยี่ยกมือขึ้นและเช็ดเหงื่อเย็นเฉียบที่บนหน้าผาก: “หอหญิงงามเมืองคือหอนางโลม ราชสำนักมีกฎว่า ขุนนางไม่อนุญาตให้เที่ยวผู้หญิงโสเภณี เช่นนั้นบัตรเชิญนี่ก็ไม่มีประโยชน์”
“ราชสำนักมีกฎแบบนี้จริง แต่ว่าบนบัตรเชิญไม่ใช่ว่าเขียนชัดเจนแล้วหรือ? เป็นการเชิญใต้เท้าจ้าวไปชมดอกไม้ ไม่ใช่เชิญท่านไปดื่มสุราดอกไม้(การจัดงานเลี้ยงในหอนางโลมมีการเล่นอนาจารเพื่อความสนุกสนาน) เช่นนี้เหตุใดถึงไปไม่ได้?”
หยุนซวนไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย
กฎนี่ก็คือกฎ คนก็คือคน
ท่านชายของตนเองตอนอยู่ที่เมืองหลวง มักจะอยู่ในสถานที่แบบนี้จนไม่อยากจากไปบ่อยๆไม่ใช่หรือ? ถ้าไม่เช่นนั้น ฉายานามท่านชายเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครจะได้มาได้อย่างไรกัน?
เหงื่อเย็นเฉียบบนหัวของจ้าวยี่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
หยุนซวนเข้าไปใกล้ข้างกายของฟู่ลั่วเฉิน: “ท่านชาย เพียงแต่ว่ามีอยู่จุดหนึ่งที่แปลกประหลาดมาก ท่านว่าเพราะเหตุใดใต้เท้าจ้าวจึงมีบัตรเชิญ แต่ท่านถึงไม่มีละ?”
จ้าวยี่ถึงกับนั่งไม่อยู่ไม่ไหวแล้ว องครักษ์หยุนซวนคนนี้มองไม่เห็นถึงอากาศเย็นบนตัวของท่านชายที่กำลังจะจับตัวกันจนกลายเป็นน้ำแข็งหรืออย่างไร? ทำไมยังถึงเจ็บปวดตรงไหนก็เหยียบลงไปที่ตรงนั้นอีก?
เขาก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าบัตรเชิญจะถูกส่งมา แต่ว่าส่งมาให้เพียงแต่เขา ไม่ได้ส่งมาให้ท่านชายด้วย
หยุนซวนที่อยู่ด้านข้างยังคงพูดพร่ำไม่หยุด: “ข้ายังออกไปสืบข่าวดูแล้ว นอกจากส่งให้ใต้เท้าจ้าวแล้ว บางส่วนยังส่งไปให้พ่อค้ารายย่อยที่มีเงินของหลินผิงและคนเรียนหนังสือที่มีชื่อเสียง ก็ไม่รู้ว่าแม่นางเฟิงคัดเลือกคนอย่างไร ถึงกับลืมท่านชายไปได้เชียวหรือ?”
คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของหยุนซวนก็แสดงท่าทางนึกออกได้ออกมาทันที: “ท่านชาย แม่นางเฟิงคงไม่ใช่ไม่รู้ว่าท่านคือท่านใช่ไหม?”
วันนั้นตอนที่ท่านชายและแม่นางเฟิงมีความสัมพันธ์กันแบบเนื้อแนบเนื้อ บนใบหน้าของท่านชายยังมีการปลอมตัว กล่าวคือ เรื่องที่แม่นางเฟิงทำไปพวกนี้ไม่ใช่เพื่อดึงดูดความสนใจของท่านชายเลยสักนิด เพราะนางไม่รู้ถึงรูปร่างลักษณะและฐานะที่แท้จริงของท่านชายโดยสิ้นเชิง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ยิ่งรู้สึกว่าฐานะชายชาตรีนี้ที่ท่านชายแบกรับไว้มากเกินไปจริงๆ
จ้าวยี่ฟังแล้วไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้ แต่ฟู่ลั่วเฉินกลับเข้าใจ ขมวดหว่างคิ้วเข้าด้วยกัน:
“เจ้าไปรวบรวมรายชื่อที่ได้รับบัตรเชิญแล้วนำมาให้ข้า”
หยุนซวนดวงตาเป็นประกาย: “นายท่าน ท่านคิดจะแย่งบัตรเชิญของใคร ไม่ต้องรวบรวมรายชื่อ ข้าไปแย่งมาให้ท่านเลยก็จบเรื่องแล้ว รับรองว่าท่านได้เข้าไปแน่นอน”
“ให้เจ้าไปรวบรวมรายชื่อ!” ฟู่ลั่วเฉินกวาดสายตาเย็นชาออกไป
หยุนซวนทำความเคารพอย่างรีบร้อน: “เจ้ารู้แล้ว”
พูดจบก็รีบวิ่งออกไปทางข้างนอกอย่างรวดเร็ว หากช้ากว่านี้อีกหน่อย ท่านชายจะต้องลงมือแล้ว
อย่าถามว่าเพราะอะไรเขาถึงชัดเจนเช่นนี้ เพราะทั้งหมดนี่คือประสบการณ์ที่ได้รับมาหลายปี!
จ้าวยี่มองดูบัตรเชิญที่อยู่บนโต๊ะวางคดี ยื่นมือออกไปเตรียมจะหยิบขึ้นมาเพื่อสังเกตอย่างละเอียด ลวดลายนั่นแท้จริงแล้วแปลกใหม่ไม่เหมือนใครจริงๆ
ฟู่ลั่วเฉินเหลือบตาขี้น สายตาที่เย็นชาจ้องมองไปยังนิ้วของจ้าวยี่ที่กำลังจะวางลงไป
จ้าวยี่รู้สึกเย็นแค่เพียงหลังมือเท่านั้น นำมือทั้งสองข้างเก็บกลับมาอย่างทำตัวไม่ถูก: “ท่านชาย ถ้าเช่นนั้นบัตรเชิญนี้เก็บไว้ให้ท่าน?”
ฟู่ลั่วเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เก็บสายตากลับมา: “ตรวจสอบรายชื่อแล้วจะส่งคืนให้ใต้เท้าจ้าว ท่านเก็บเอาไว้ที่ตนเองเถอะ”
“ถ้าเช่นนั้นข้าควรจะไป หรือจะไม่ไปดีละ?”
“ใต้เท้าจ้าวมีความอยากรู้อยากเห็นในหอหญิงงามเมืองหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ