สองวันต่อมา หอหญิงงามเมืองยังคงคึกคักเช่นเดิม
แต่เฟิงฉิ้นหว่านกลับไม่เปิดชั้นสี่ของหอหญิงงามเมืองอีก สิ่งนี้ทำให้คนที่ได้ยินข่าวเกิดความอยากรู้ จึงส่งสารมาเพื่อหยั่งเชิง แต่เฟิงฉิ้นหว่านกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย
หลังจากรู้ข่าวนี้แล้ว พวกของหวางจื้อหยวนก็ยิ่งรู้สึกยินดี : โอกาสไม่อาจพลาดได้จริง ๆ เวลาจะไม่ย้อนคืนมาอีก
ถ้าหากคืนนั้นพวกเขาไม่คว้าโอกาสที่ฉิ้นหว่านหยิบยื่นมาให้ ไม่แน่ว่าตอนนี้คนที่รอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อ อาจจะเป็นพวกเขาก็ได้ ?
เพื่อสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่หยวน สองวันต่อมานางจึงเดินทางไปขอเข้าพบยังเรือนรับรอง แต่ผลสุดท้ายกับถูกขวางเอาไว้ด้านนอก จึงไปขอเขาพบฟู่ลั่วเฉิน
เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลี่หยวน ฟู่ลั่วเฉินย่อมรู้ดีแน่นอน ถึงขั้นว่าอาจเป็นแผนการของเขา ลองไปถามดูคงไม่ผิดหวังแน่นอน
ภายในคฤหาสน์ ฟู่ลั่วเฉินกำลังนั่งจิบชาอยู่
หยุนชวนนั่งอยู่ด้านข้าง กำลังยกชาขึ้นมาจิบเช่นกัน : “หลงจิ่งก่อนฤดูฝนที่ตระกูลฉือผลิต ดูเหมือนรสชาติจะไม่ได้ดีสักเท่าไรนะขอรับ ?”
“เจ้าไม่เข้าใจการลิ้มรสชา ก็อย่าทำให้ใบชาชั้นดีต้องเสียของ”
“ท่านอ๋องกล่าวว่าสิ่งใดที่ไม่รู้ก็สามารถศึกษาได้ ตอนนี้ข้าน้อยไม่รู้จักการชิมชา ต่อไปหากข้าน้อยดื่มมากเข้าก็จะเข้าใจเอง” หยุนชวนพูดอย่างมั่นใจ
“มีใบชาให้เจ้าสิ้นเปลืองได้มากมายเช่นนั้นที่ไหนกัน ?”
“รอให้เถ้าแก่จินครอบครองสวนชาของตระกูลฉือได้เสียก่อน อยากจะดื่มเท่าไหร่ก็ย่อมได้”
หยุนชวนเพิ่งจะพูดจบ จินหมิงก็เดินเข้ามาพอดี
ฟู่ลั่วเฉินค่อย ๆ วางถ้วยชาลงบนโต๊ะทำงาน ก้นถ้วยกระทบกับโต๊ะ เกิดเสียงที่คมชัด
“คารวะท่านชาย” บนหน้าผากของจินหมิงเต็มไปด้วยเหงื่อ “ท่านชาย เรื่องการซื้อสวนชาของตระกูลฉือ เกิดปัญหาเล็กน้อยขอรับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฟู่ลั่วเฉินก็สงบลงเป็นพิเศษ : “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”
“ก่อนหน้านี้ทำตามคำสั่งของท่านชาย มุ่งมั่นที่จะรองรับกิจการที่ว่างเปล่าออกมาจากสมาคมการค้าหนานเจียง จึงใช้เงินไปจำนวนไม่น้อย จากนั้นในตลาดก็มีใบชาและธัญพืชปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นของที่คุณภาพสูงแต่ราคาตกต่ำ ข้าน้อยจึงอดไม่ได้ที่จะซื้อเข้ามาเก็บไว้เป็นจำนวนไม่น้อย เพื่อหวังที่จะขายต่อออกไป ซึ่งเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ดังนั้นจึงใช้เงินไปอีกจำนวนมาก”
“แล้วอย่างไรต่อ ?”
“หลังจากนั้นท่านชายกล่าวว่าต้องการซื้อสวนชาของตระกูลฉือ ข้าน้อยจึงจัดระเบียบทรัพย์สินดู คิดจะอาศัยช่วงชุลมุนซื้อสวนชาเอาไว้ คาดว่าคงยังไม่ทันถูกสังเกตเห็น เมื่อไม่เกิดการแข่งขัน คาดว่าใช้เงินจำนวนเจ็ดหมื่นตำลึงก็น่าจะเพียงพอ แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะมีคนจำนวนมากที่ต้องการจะซื้อสวนชา ทำให้ตอนนี้ราคาพุ่งสูงขึ้นแล้ว......”
“ทำให้เงินไม่พอหรือ ?”
“ขอรับ” เหงื่อบนหน้าผากของจินหมิงยิ่งไหลออกมามากขึ้น “ต้องโทษที่ข้าน้อยโลภ ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นใบชาและธัญพืชเหล่านั้น ไม่ควรจะซื้อเก็บเอาไว้จำนวนมาก”
“ขายออกไปตอนนี้ไม่ทันหรือ ?”
“ข้อแรกเวลากระชั้นชิดเกินไป ข้อสองหากต้องการส่งใบชาและธัญพืชเหล่านี้ออกไป จะต้องอาศัยเรือในการขนส่ง แต่ตอนนี้หวางจื้อหยวนซึ่งประกอบกิจการขนส่งทางเรือ กำลังแข่งขันกับข้าน้อยเพื่อแย่งชิงสวนชาอยู่ เขาจึงไม่ติดต่อค้าขายกับข้าน้อยเป็นการชั่วคราว ดังนั้นสินค้าพวกนี้จึงเก็บสะสมอยู่ในโกดัง”
ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วแน่น : “คนที่ต้องการแย่งชิงสวนชามีใครบ้าง ?”
“ล้วนเป็นพ่อค้าในหลินผิงขอรับ”
“เหอะ มิน่าล่ะ” ฟู่ลั่วเฉินหัวเราะเยาะออกมาทันที “ยังขาดเงินอยู่อีกเท่าไร ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ