ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 91

ผู้ที่เป็นตัวแทนของทุกคนในการรายงานให้เฟิงฉิ้นหว่านฟังคือเถ้าแก่ติงยี่ประจำร้านขายอาหารแห้ง เขาอายุมากที่สุด ในบรรดาเถ้าแก่ที่ทำให้ให้กับตระกูลเฟิงเขาอยู่มานานที่สุดื มีชื่อเสียงมาที่สุด

“คุณหนู เมื่อคราวก่อนคุณหนูบอกว่า ให้สินค้าเหล่านั้นของตระกูลเฟิงออกไปขายทั้งหมด เงินที่ได้มานั้นให้พวกเขาและคนงานจัดสรรปันส่วนกันเอง พวกข้าต่างซาบซึ้งที่คุณหนูให้ความสำคัญและตื้นตันในน้ำใจของคุณหนูอย่างยิ่งยวด”

เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มแล้วพูด: “เถ้าแก่ติงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ทุกท่านคิดดีแล้วหรือยัง จะแบ่งสินค้ารอบนี้อย่างไร?”

เถ้าแก่ติงส่ายหน้า: “เวลานั้นพวกข้าลำบากใจยิ่งนัก เพราะถึงอย่างไรเมื่อขายสินค้ารอบนี้ออกไป แล้วนำเงินมาแบ่งกัน จะเป็นการทำให้รากฐานของตระกูลเฟิงเสียหาย พวกข้าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? แต่ว่าท่านฉินให้พวกเขาสืบเสาะเรื่องที่เกิดขึ้นในนครหลินผิง พวกข้าจึงเพิ่งได้รู้ว่าคุณหนูมีความสามารถเช่นนี้”

เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มบางๆ นางเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้พวกหวางจื้อหยวนรับรู้ นางไม่เคยคิดว่าคนพวกนี้จะเก็บเงียบ การที่เรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วย่อมเกิดขึ้น

“เถ้าแก่ทุกท่านน่าจะรู้แล้วว่าข้ามีเงินมากมายในกำมือ เมื่อเป็นเช่นนี้พวกท่านสามารถนำสินค้าไปขายแล้วนำเงินไปแบ่งกันได้อย่างสบายใจ”

“คุณหนู ก่อนหน้านี้ท่านนายใหญ่เลี้ยงคุณหนูอยู่ในเรือนมาโดยตลอด พวกข้าไม่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคุณหนู แต่เมื่อเห็นวิธีการและความฉลาดหลักแหลมของคุณหนูที่มั่นคงเช่นนี้ ทำให้พวกข้านับถือจากใจจริง หลังจากวันนี้พวกข้าจะปฏิบัติต่อคุณหนูเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อนายท่านใหญ่ จงรักภักดีต่อคุณหนู ดังนั้นเงินเหล่านี้พวกข้าไม่อาจรับเอาไว้ได้”

“เถ้าแก่ติง นี่คือความคิดของท่านแต่เพียงผู้ใด หรือว่าเป็นความคิดของทุกคน?” เฟิงฉิ้นหว่านกวาดตามองเถ้าแก่ทุกคน เพียงชำเลืองมอง นางก็เห็นสีหน้าของทุกคนแล้ว

“นี่คือผลลัพธ์จากการร่วมกันหารือของพวกข้าขอรับ พวกข้าจะตรวจสอบสมุดบัญชีก่อนหน้านี้อย่างเข้มงวด ดูว่าสินค้าเหล่านั้นมาจากร้านค้าใด แล้วกลับไปที่ร้านค้านั้น เงินที่ได้จากการขายนำออกมาหนึ่งส่วน ตกรางวัลให้กับความจงรักภักดีและขยันขันแข็งของเหล่าคนงานในร้านค้าเหล่านั้น”

“เช่นนั้นพวกเถ้าแก่เหล่า?”

“พวกข้าได้รับเบี้ยหวัดทุกเดือน ตอนสิ้นปียังได้รับเงินปันผลจากท่านนายใหญ่ เพียงพอแล้วขอรับ” เถ้าแก่ติงพูด จากนั้นหยิบกระดาษขึ้นมาวางตรงหน้าเฟิงฉิ้นหว่าน “นี่คือสิ่งที่พวกข้ากำหนด โดยเป็นรายละเอียดว่าควรประเมินเช่นไร ตบรางวัลคนงานเหล่านั้นอย่างไร ขอเชิญคุณหนูอ่านขอรับ”

เฟิงฉิ้นหว่านรับมาแล้วอ่านอย่างละเอียด ข้อกำหนดด้านบนเขียนไว้อย่างชัดเจน

ยามประเมินจะพิจารณางานที่รับผิดชอบ ความคิดเห็น นิสัยใจคอต่างๆ แล้วแบ่งเป็นสามระดับเอก โท ตรี

ระดับเอกให้รางวัลเป็นเงินห้าตำลึง ระดับโทให้รางวัลเป็นเงินสามตำลึง ระดับตรีให้รางวัลหนึ่งตำลึง ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่ในสามระดับนี้ ทำได้เพียงมองตาปริบๆ เท่านั้น

ความคิดของเฟิงฉิ้นหว่านแล่นอย่างฉับไว รอยยิ้มที่มุมปากของนางลุ่มลึกกว่าเมื่อครู่

“คุณหนู ท่านว่าอย่างไรบ้าง? หากคุณหนูคิดว่าทำได้ เช่นนั้นก็ทำตามข้อกำหนดนี้ แจกจ่ายมาตรฐานในการประเมินให้กับแต่ละร้านค้า เงินที่ตกรางวัลแก่พวกเขาก็จะให้ในนามของคุณหนู”

“เถ้าแก่ติง ข้อกำหนดด้านบนละเอียดยิ่งนัก ทั้งการเลือกก็มีความยุติธรรม ข้าย่อมไม่เห็นต่าง แต่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าจะติดค้างน้ำใจเถ้าแก่ทุกท่านแล้ว”

เถ้าแก่ติงมีความสุขยิ่งนัก รอยยิ้มของเขาจริงจังอย่างมาก: “คุณหนูกล่าวเช่นนี้ได้อย่างไรขอรับ?”

“ในเมื่อทุกท่านทราบเรื่องที่ข้ากระทำในหอหญิงงามเมือง คาดว่าทุกท่านคงจะรู้ดี ต่อจากนี้ข้าจะกลายเป็นที่สงสัยและหัวเราะเยะ ทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งผลต่อชื่อเสียงของคนงานเหล่านั้นในตระกุลเฟิง การที่พวกท่านมีความคิดเช่นนี้ ก็เพราะอยากให้ข้ามีบุญคุณต่อพวกเขา แล้วทำให้พวกเขาปิดปากเงียบไม่ใช่หรือ?

“พวกข้าไม่ฉลาดหลักแหลมเท่าคุณหนู ไม่อาจคิดเรื่องมากมายเช่นนั้น เพียงรู้สึกว่าคุณหนูกลายเป็นนายหญิงคนใหม่ การที่บริวารมีความเคารพยำเกรง ซาบซึ้งในบุญคุณต่อคุณหนู เป็นเรื่องที่ดี”

“แต่ว่าพวกท่านไม่ได้รางวัลใดตอบแทน เช่นนั้นข้าก็ลำบากใจ”

เถ้าแก่ติงลุกขึ้นยืน ประสานมือทำความเคารพเฟิงฉิ้นหว่าน: “ได้รับการยอมรับจากคุณหนู เป็นรางวัลที่ดีที่สุดแล้วไม่ใช่หรือขอรับ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ