เมื่อเย่ลั่วหานได้ยินเฟิงฉิ้นหว่านบอกว่าอยากจะมอบพู่ห้อยพัดให้เขา เขาฉุกคิดขึ้นได้กำลังจะปฏิเสธ แต่ตอนที่เฟิงฉิ้นหว่านหยิบพู่ห้อยพัดขึ้นมา วางไว้บนมือทั้งสองข้างแล้วยื่นมาตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรปฏิเสธ
เฟิงฉิ้นหว่านเองก็รู้ดีว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดเอาง่ายๆ แต่ว่าเย่ลั่วหานเป็นคนพิเศษของนาง นางยินดีที่จะยอมเสี่ยงถูกเข้าใจผิด เพื่อมอบคำอวยพรให้เขา
“แม่นางเฟิง......” เย่ลั่วหานครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายเหตุผลก็อยู่เหนือกว่า อยากจะเอ่ยปากปฏิเสธ
เฟิงฉิ้นหว่านเม้มริมฝีปาก ดวงหน้าของนางฉายความผิดหวัง : “ท่านชายเย่ ฉิ้นหว่านมอบของให้ท่านเช่นนี้เป็นการกระทำที่บุ่มบ่ามหรือไม่? ข้าไม่ได้มีเจตนาล่วงเกินท่านชาย แค่ว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ครั้งแรกที่ได้เจอท่านชายก็ทำให้ข้ารู้สึกสนิทสนม เห็นสีหน้าของท่านชายไม่สู้ดีเท่าใดนัก จึงอยากมอบคำอวยพรให้ นอกเหนือจากนี้ ไม่มีเจตนาอื่น”
เห็นดวงตาทอประกายของเฟิงฉิ้นหว่านเปื้อนความผิดหวัง เย่ลั่วหานคว้าพู่ห้อยพัดเอาไว้โดยไม่รู้ตัว: “ได้รับคำอวยพรจากแม่นาง ข้าโชคดียิ่งนัก ขอบคุณสำหรับของขวัญของแม่นางมาก ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้มีธรรมเนียมได้ ไม่รู้ว่าควรจะให้สิ่งใดตอบแทน”
เห็นเย่ลั่วหานรับพู่ห้อยพัด เฟิงฉิ้นหว่านดีใจขึ้นมาทันที: “ไม่ต้องให้สิ่งใดตอบแทนเป็นพิเศษ ขอเพียงของขวัญเล็กๆ นี้ทำให้ท่านชายชื่นชอบก็พอแล้ว”
ถูกเฟิงฉิ้นหว่านมองด้วยความคาดหวัง เย่ลั่วหานรีบห้อยพู่ห้อยพัดทันที
จากนั้น เขาแกว่งพัดเบาๆ ปล่อยให้พู่ห้อยพัดแกว่งไปมา
แววตาของเขาอดไม่ไดที่จะอาบด้วยรอยยิ้ม: “ปกติแล้วข้าไม่ค่อยชอบใช้พัดเท่าใดนัก พัดเล่มนี้ลั่วเฉินเป็นคนให้ข้าเมื่อเช้าวันนี้ คิดไม่ถึงว่าจะถูกนำออกมาใช้เร็วเช่นนี้
ในที่สุดเฟิงฉิ้นหว่านก็มองไปที่ฟู่ลั่วเฉิน เมื่อมองไป หัวใจของนางหล่นวูบทันที เหตุใดสีหน้าของฟู่ลั่วเฉินจึงไม่สบอารมณ์เช่นนี้ หรือว่าเช้าวันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำให้เขาโมโหเช่นนี้?
“ท่านชาย มีเรื่องใดไม่ราบรื่นหรือเจ้าคะ ไม่รู้ว่าฉิ้นหว่านพอจะช่วยได้หรือไม่?”
ฟู่ลั่วเฉินมองไปที่เฟิงฉิ้นหว่านด้วยแววตาเยือกเย็น : “เจ้าช่วยได้”
นางเป็นต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น!
“เช่นนั้นท่านชายโปรดสั่งโดยไม่ต้องเกรงใจ ข้าจะทำสุดความสามารถ”
หางตาของฟู่ลั่วเฉินมองไปยังพัดในมือเย่ลั่วหาน: “รอก่อนไว้ค่อยพูดก็แล้วกัน”
เฟิงฉิ้นหว่านมองฟู่ลั่วเฉิน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมอย่างมาก แต่นางสัมผัสได้ว่าฟู่ลั่วเฉินตรงหน้ากำลังข่มความโมโหเอาไว้ ไม่แน่ว่าจะถูกจุดชนวนเมื่อใด
“ท่านชาย พวกเราไปเที่ยวชมบนท้องถนนกันก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ?”
“เจ้ามาเชิญชวนข้าไปเที่ยวเล่นไม่ใช่หรือ?” ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย:ทำไม? หรือว่าเฟิงฉิ้นหว่านอยากจะชวนเฉิงเหวยออกไปเท่านั้น?
อย่าแม้แต่จะคิด!
เฟิงฉิ้นหว่านตอบกลับด้วยความนอบน้อมทันที: “เจ้าค่ะ เช่นนั้นเชิญท่านชายทั้งสองไปเดินชมทิวทัศน์บนท้องถนน”
หยุนซวนยืนอยู่ข้างๆ มองเย่ลั่วหานที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน แล้วหันไปมองท่านชายของตนเองที่เปี่ยมไปด้วยความหงุดหงิด รู้สึกร้อนใจจนแทบจะมีแผลร้อนในที่ปากแล้ว
ท่านชายไม่เอาไหนจริงๆ !
ไม่รู้ว่าท่านอ๋องได้รับจดหมายที่เขาเขียนหรือไม่ หากท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ไม่แน่ว่าอาจจะขุ่นเคืองใจยิ่งนัก
ฟู่ลั่วเฉินหมุนตัวหันหลังเดินออกไป เพราะภายในใจเคล้าไปด้วยความขุ่นเคือง จึงเดินเร็วโดยไม่รู้ตัว
เฟิงฉิ้นหว่านเป็นห่วงสุขภาพของเย่ลั่วหาน แน่นอนว่าย่อมเดินช้าๆ ไปพร้อมกับเขา ทั้งยังไม่ลืมที่จะพูดเตือนด้วยความใส่ใจ: “ท่านชายเย่ยังไม่หายดี ยามเดินไม่ต้องรีบร้อนเจ้าค่ะ”
เย่ลั่วหานสัมผัสถึงความเป็นห่วงของเฟิงฉิ้นหว่าน แววตาของเขาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม: “ขอบคุณแม่นางเฟิงที่พูดเตือน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ