"นั่งรถเข็นหนึ่งเดือนนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ขาของท่านขยับทำให้กระดูกผิดตำแหน่งอีก
หนึ่งเดือนให้หลังท่านก็สามารถลงจากรถเข็นได้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าอาการป่วยของท่านจะหายดี บอกว่าเวลารักษาสามเดือนก็คือรักษาสามเดือน หลังจากนั้นสองเดือนท่านสามารถขยับได้หน่อย สอนพวกเด็กๆฝึกการต่อสู้ไม่มีปัญหาอะไร"
เซี่ยจินอานก็ไม่ได้โกหก ไม่เหมือนกับสมัยนี้ การผ่าตัดสามารถรักษากระดูกทิ่มได้ ในสมัยโบราณทำได้เพียงใช้ยาค่อยๆคลายออก ใช้เวลานานพอสมควร
แต่ว่าถ้าเซี่ยจินอานใช้ยาแรงอย่างมากสองเดือนก็หายแล้ว แต่ว่าเพื่อความเห็นแก่ตัวเล็กๆน้อยๆของเซี่ยจินอานจึงได้ยืดเวลาให้นานถึงสามเดือน
สามเดือน ก็จะตรุษจีนแล้ว หลังจากตรุษจีนเขารักษาอาการป่วยหายแล้วหากเขายังอยากจะไปจากที่นี่นางก็ไม่ห้าม
คนนั้นทำงานได้เร็วทีเดียวเพียงครู่เดียวก็นำรถเข็นและแผ่นไม้มาให้
เซี่ยจินอานใช้เข็มระงับอาการปวด จากนั้นก็กดจุดฝังเข็มหลายจุดบนมือ ทันใดนั้น ได้ยินแต่เสียงกระดูกหัก
นางหยิบแผ่นกระดานออกแล้วห่อขาของเขาให้เข้าที่ จากนั้นดึงเข็มบรรเทาอาการปวดออก
"สักครู่ ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ท่าน ท่านให้คนไปเอายา หนึ่งเดือนแรกนี้ดื่มยานี้ก่อน หลังจากหนึ่งเดือนข้าจะปรับใบสั่งยาตามอาการของท่าน"
หลังจากดึงเข็มออก ความเจ็บปวดที่ขาลุกลามไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว เหงื่อเย็นไหลออกมาบนใบหน้าของซ่งขุยที่กำลังเจ็บปวด ขณะที่พูดฟันสั่นกระทบกัน
"ขอบใจท่านมาก"
เซี่ยจินอานเม้มริมฝีปากของนาง ต่อกระดูกใหม่ก็เจ็บปวดจริงๆ มิเช่นนั้นคงไม่ทำให้บุรุษที่ผ่านคมดาบมานับไม่ถ้วนแสดงออกถึงอาการเช่นนี้ได้
"พักผ่อนเถิด ข้าไปก่อน" เซี่ยจินอานพูด
"คุณหนูเซี่ยกลับดีๆ"
เซี่ยจินอานเดินออกไป มองดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวไปทางทิศใต้ เที่ยงแล้ว
ในใจของนางนึกถึงมู่หลานจิ่นซึ่งยังคงรอนางอยู่ข้างนอก เร่งฝีเท้าแล้วจากไป เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับหยุนฝู้เฉินและเสิ่นหลีซูที่หน้าประตูสวนสงเคราะห์
เซี่ยจินอานมองร่างอีกคนดำอีกคนขาวเดินเคียงข้างกันมา
เห็นเพียงหยุนฝู้เฉินที่เย็นชามาโดยตลอกดูอ่อนโยนเล็กน้อย เสิ่นหลีซูที่สายตาหยิ่งผยองก็เผยรอยยิ้ม
เป็นคู่ที่เหมาะสมลงตัว กลับขัดตาอย่างน่าประหลาด
หลังจากที่รอเซี่ยจินอานมานานกลับไม่เห็นแม้แต่เงา มู่หลานจิ่นทนไม่ไหวเดินออกมาจากโรงเตี๊ยม ข้ามกำแพงเข้ามาในสวนสงเคราะห์
เท้าเพิ่งจะลงถึงพื้นก็มองเห็นเซี่ยจินอานกำลังเหม่อลอยอยู่ มองไปตามสายตาของนาง มู่หลานจิ่นก็เห็นหยุนฝู้เฉินสองคนนั้น
แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย เดินเข้าไปข้างๆเซี่ยจินอาน คารวะพูดว่า : "ประมุข"
เสียงที่ไม่คาดคิดทำให้เซี่ยจินอานกลับมารู้สึกตัว จากนั้นยิ้มพร้อมกับพูดว่า : "เจ้ามาแล้วหรือ"
มู่หลานจิ่นยืนอยู่ข้างหลังเซี่ยจินอาน ไม่พูดอะไรมาก เซี่ยจินอานมองสองคนนั้นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เก็บสายตากลับ พูดเบาๆ : "ไปกันเถิด"
เซี่ยจินอานเดินออกไป หลังจากเดินไปที่ประตู พูดกับอารัขาที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งว่า : "เจ้าไปที่เรือนของซ่งเซียนเซิง หากว่ามีอะไรให้เจ้าทำก็ทำตามก็พอ"
"ขอรับ"
อารักษาสองคนที่อยู่หน้าประตูได้เปลี่ยนเป็นคนของสำนักซื่ออิ่งแล้ว แน่นอนว่าต้องเคารพคำสั่งของนาง
แม้ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมประมุขถึงให้พวกเขามาเฝ้าเรือนนี้ และก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องฟังคำสั่งของคุณชายเซี่ยคนนั้น แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้ไปสอบถาม เพราะว่าในใจของพวกเขาคำสั่งของประมุขมีไว้ปฏิบัติตาม ไม่ได้มีไว้ให้สงสัย
ขณะที่สายตาของหยุนฝู้เฉินสังเกตเห็นเซี่ยจินอานนั้น บังเอิญเห็นหลังเซี่ยจินอานออกไปพอดี เสิ่นหลีซูที่กำลังคุยกับหยุนฝู้เฉินนั้นได้สังเกตเห็นสายตาของหยุนฝู้เฉิน ขณะที่รอให้นางมองตามไปนั้น หน้าประตูไม่มีใครอยู่แล้ว
"ฝู้เฉิน ท่านกำลังมองอะไร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...