เพ้ยจิ่วชวนทำหน้าไม่เข้าใจ หยุดงานในมือลง นำเหล็กที่ตีขึ้นรูปเสร็จไปครึ่งหนึ่งแช่ลงในน้ำเย็น
กงซุนหนันเสียนเห็นเช่นนี้ก็หยุดงานในมือลงและเดินไปตรงหน้าเซี่ยจินอาน แย่งถามก่อนว่า: "อะไรผิดแล้ว?"
เซี่ยจินอานใช้คีมคีบอาวุธยังไม่เสร็จที่แช่อยู่ในน้ำเย็นออกมา มองดูรอยทุบแต่ล่ะอันที่อยู่ด้านบน ซึ่งกระจัดกระจายกันอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นว่าผู้ตีเหล็กได้ทุ่มเทกำลังไปเพียงใด
"เจ้าไม่เคยคิดเหรอว่าไม่ใช่การตีขึ้นรูปของเจ้าเกิดข้อผิดพลาด แต่ที่มีปัญหาคือวัสดุ"เซี่ยจินอานหันมองเพ้ยจิ่วชวนและถาม
แน่นอนว่าตัดเหล็กด้วยเหล็กมันจะให้ได้ผลเหมือนกับการตัดเหล็กดั่งโคลนไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องเป็นเหล็กกล้า!
"เคยคิด"เพ้ยจิ่วชวนบอก"แต่ว่าตอนนี้วัสดุในตลาดที่นำมาทำอาวุธนั้นมีเพียงเหล็ก"
เซี่ยจินอานนำอาวุธที่ยังไม่เสร็จในมือวางลงบนชั้นวางที่อยู่ข้างๆ ของที่วางอยู่บนชั้นวางนี้ล้วนเป็นแต่แผ่นเหล็กที่ยังไม่ได้ผ่านการทุบตี ซึ่งบางอันก็เป็นเหล็กราคาสูงและหายาก
"ในท้องตลาดไม่มี งั้นพวกข้าก็ทำให้บริสุทธิ์เอง"
แม้ว่าในยุคปัจจุบันมันเป็นยุคของสงครามร้อนแล้ว และอาวุธเย็นก็ถูกเลิกใช้ไปนานแล้ว แต่ต้องขอบคุณพี่ชายคนหนึ่งในกองทัพที่รักอาวุธเย็น นางจึงมีส่วนร่วมกับอาวุธเย็นด้วย และก็มีความเข้าใจขั้นตอนการรีไฟน์เหล็กด้วย
เพียงแต่ว่าเทคนิคของโบราณไม่ได้ดีเท่าเทศนิคของปัจจุบัน คาดว่าตอนทำขึ้นมาคงต้องยุ่งยากมาก และผลที่ได้ก็ไม่ดีเท่ามีดเหล็กปัจจุบันอย่างแน่นอน แต่ก็ถือว่าแข็งแกร่งกว่ามีดเหล็กพวกนี้
เพ้ยจิ่วชวนสีหน้าไม่เปลี่ยน พูดอย่างเคร่งขรึมว่า:"ทำให้บริสุทธิ์อย่างไร?"
"เดี๋ยวข้าจะทำรายการให้ในตอนกลางคืนแล้วเจ้าไปตามหาวัสดุตามรายการ"เซี่ยจินอานบอก
"เหตุใดจึงไม่เขียนตอนนี้?"
"..."เป็นชายผู้ดีที่คลั่งไคล้กับการทำอาวุธจริงๆเลย
"ไม่รีบ นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเสร็จไปในวันสองวัน วันนี้ข้ามาเพื่อที่จะปรึกษาหารือเรื่องของสำนักกับพวกเจ้า"เซี่ยจินอานหันหลังและเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หินที่อยู่ไม่ไกลนั้น เพ้ยจิ่วชวนทั้งสองก็เดินตามมา
เซี่ยจินอานชี้ไปที่เก้าอี้หินสองก้อนที่อยู่ตรงข้ามตัวเอง"นั่งลงพูดสิ"
เพ้ยจิ่วชวนและอีกคนก็ไม่ได้ปฏิเสธ และนั่งลงโดยตรง
"พวกเจ้าทั้งสองคิดอย่างไรเกี่ยวกับการพัฒนาของสำนัก?"
เพ้ยจิ่วชวนทั้งสองมองหน้ากัน สุดท้ายเพ้ยจิ่วชวนก็บอกว่า:"ท่านประมุขมีความคิดอะไรหรือ?"
"มี"เซี่ยจินอานพูดอย่างเด็ดขาด"แต่ก็อยากปรึกษาหารือกับพวกเจ้าหน่อย"
"เชิญท่านประมุขพูดมาเลย"
"พวกเจ้าก็รู้ ตอนนี้สำนักได้เปิดเผยตัวเดินมาสู่ตาของผู้คน และการเคลื่อนไหวทุกอย่างของพวกข้าก็อยู่ภายใต้การสังเกตของผู้อื่น ราชสำนัก ศัตรู และบรรดายุทธภพที่ว่ายุติธรรมนั้น ต่างก็แอบซ่อนอยู่ในความมืดและรอโอกาสลงมือ เพียงแค่ไม่ระวังดีๆก็จะถูกฝูงชนโจมตี"
แม้วิทยายุทธของกงซุนหนันเสียนจะไม่ค่อยเก่ง แต่ใจก็กล้ามาก"พวกเขากล้าตีมา พวกข้าก็ตีกลับไป!"
เพ้ยจิ่วชวนทำหน้าสงบ "แล้วความคิดของท่านประมุขคือ?"
"ความคิดของข้าคือ ในเมื่อตอนนี้พวกข้าได้เปิดโปงแล้ว ก็ยกสำนักเราขึ้นเวทีให้ทุกคนรู้การกระทำของเราทั้งหมด ข้ารู้ว่ามีสำนักงานใหญ่หนึ่งในนามของพวกข้า เช่นนี้ก็ย้ายสำนักงานใหญ่มาที่เมืองหลวงโดยตรงและให้กลายเป็นสำนักงานใหญ่ที่แท้จริง"
ที่เรียกว่าในนามสำนักงานใหญ่ ก็คือจุดลวงตาที่ทุกคนต่างรู้กันดี แต่จุดนั้นมีหรือไม่ก็ไม่มีค่าอะไรเลย มันเป็นเพียงของที่ใช้ดึงดูดพลังของผู้อื่น สำนักงานใหญ่ที่แท้จริงคือชานเมืองในลานขนาดเล็กที่นางไปเมื่อวานนี้
แต่ว่าถ้ามีใครต้องการซื้อชีวิต ก็ต้องผ่านคำสั่งในนามของสำนักงานใหญ่จริง เพียงแต่ว่าผู้รับผิดชอบในการรับคำสั่งในสำนักงานใหญ่นี้ เพียงถ่ายทอดเนื้อหาไปยังมู่หลานจิ่น ผ่านนกพิราบสื่อสารและมู่หลานจิ่นจะกำหนดลำดับตามความยากบนรายงาน จากนั้นก็มอบหมายหน้าที่ให้ผู้นำลอบสังหารแต่ละระดับโดยใช้นกพิราบสื่อสาร และผู้นำจะมอบหมายภารกิจให้คนในกลุ่มโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...