แน่นอนว่าเพ้ยจิ่วชวนและกงซุนหนันเสียนก็เข้าใจความหมายที่เซี่ยจินอานพูด
นางต้องการให้คนในสำนักมีชีวิตอย่างสง่าผ่าเผยภายใต้แสงแดด! แต่ไม่ใช่ใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆอยู่ในความมืดมิด
แต่มันจะได้เหรอ?บนตัวพวกเขาแต่ละคนนั้นต่างก็ติดหนี้ชีวิตที่นับไม่ถ้วน จะยังสามารถเดินไปสู่แสงสว่างหรือ?
"ข้ารู้ถึงความกังวลของพวกเจ้าทั้งสอง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ข้าจะพูดกับพวกเจ้าต่อไปนี้ "
"เพราะการกระทำของสำนักก่อนหน้านี้มันทำให้ผู้คนต่างเกรงกลัวและเกลียดชังกันไปหมด ถูกด่าทอดูแคลนเสมอ ดังนั้นเพื่อให้สำนักยืนหยัดได้ สิ่งแรกที่พวกข้าต้องทำก็คือเปลี่ยนความประทับใจของผู้คนที่มีต่อสำนักนั้น ดังนั้นตอนนี้ที่ข้าเปิดโรงหมอนั้นจึงเป็นก้าวแรก"
"และก้าวต่อไปก็คือเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของสำนัก!"
"แต่พวกข้าจะเปลี่ยนเช่นไร?"กงซุนหนันเสียนกล่าว
เพราะความคิดเห็นของผู้คนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย
"เมื่อก่อนพวกข้าฆ่าคนดูเพียงเงิน ต่อไปพวกข้าฆ่าคนก็เพิ่มกฎอีกข้อหนึ่ง นั้นก็คือ ดูคน"เซี่ยจินอานกล่าว
เพ้ยจิ่วชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย "ดูคน?"
เซี่ยจินอานพยักหน้า ยิ้มจางๆ:"ถูกต้อง ต่อไปในรายชื่อการล่าฆ่าของพวกข้านั้นจะมีแต่คนเลวฉาวโฉ่ และไม่มีคนดี ถือเป็นการบัญชาสวรรค์ล่ะกัน!"
เพ้ยจิ่วชวนและกงซุนหนันเสียนทั้งสองก็เงียบไปพร้อมๆกัน ก้มหน้าเล็กน้อยและครุ่นคิด
หลังจากผ่านไปนาน กงซุนหนันเสียนเงยหน้าและลองถามว่า:"ท่านประมุขกลายเป็นคนมีความเป็นมนุษย์เช่นนี้เมื่อไหร่กัน?"
เซี่ยจินอาน:"...พวกเจ้าก็ถือว่าข้าเบื่อการใช้ชีวิตที่ต้องต่อสู้เช่นนี้และอยากทำเรื่องที่มันดีๆสักหน่อยละกัน"
เพ้ยจิ่วชวนมองสังเกตเซี่ยจินอานดีๆ มุมปากขยับเล็กน้อยเหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็กลืนลงไป
"วันนี้ข้านำความคิดเหล่านี้มาพูด ก็เพื่อที่จะปรึกษาหารือกับพวกเจ้าสักหน่อย หากพวกเจ้ามีข้อคิดเห็นอะไรก็สามารถพูดออกมาได้"
"เรื่องของสำนักท่านประมุขตัดสินใจเพียงผู้เดียวได้ กระหม่อมจะไม่พูดอะไรมาก"เพ้ยจิ่วชวนกล่าว
เมื่อก่อนเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาของสำนัก นางจะออกคำสั่งลงมาเสมอ และไม่เคยปรึกษาหารือกับพวกเขาในลักษณะเช่นนี้มาก่อน
"ข้าถือว่าพวกเจ้าเป็นพี่น้องของข้า แน่นอนว่าต้องคิดถึงความรู้สึกของพวกเจ้าด้วย"เซี่ยจินอานกล่าว
ทันทีที่คำเหล่านี้พูดออกมา ทำให้เพ้ยจิ่วชวนกับอีกคนตกใจพร้อมกัน
พี่น้อง...
"หากพวกข้าไม่เห็นด้วย แล้วประมุขท่านจะทำเช่นไร?"กงซุนหนันเสียนถามอย่างประหลาดใจ
"...งั้นข้าก็คิดหาวิธีอื่นต่อ?"
หลังจากตั้งแต่ไปช่วยพวกเขาที่สนามประหารแล้ว ประมุขก็ดูเมตตาและใจดีกว่าเดิมมาก
เมื่อก่อนประมุขนั้นดูเย็นชา ทำเรื่องและตัดสินใจใดๆต่างก็ตัดสินใจเพียงผู้เดียว ไม่เคยฟังพวกเขาพูดเลยแม้แต่สักคำ
ประมุขคนปัจจุบันกลับเมตตาและใจดีแถมยังยิ้มเป็นและเล่นกับพวกเขา และตอนนี้ยังถือพวกเขาเป็นพี่น้องกันอีก
เซี่ยจินอานรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดในวันนี้นั้นทำให้พวกเขาตกใจมาก ดังนั้นนางก็ไม่บังคับพวกเขาและพูดว่า:"พวกเจ้าคิดดูดีๆ ข้าไปตรวจดูโรงหมอของข้าหน่อย"
พูดจบก็หันหลังเดินจากไป
กงซุนหนันเสียนมองดูเซี่ยจินอานที่จากไปอย่างอิสระ พึมพำว่า:"แปลกจริงๆเลย"
เพ้ยจิ่วชวนยืนขึ้นมา กลับไปข้างๆเตาหลอมต่อ หยิบเหล็กเนื้อดีชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วสังเกต"แปลกอย่างไร?"
กงซุนหนันเสียนเอามือเท้าคางและกล่าวว่า:"เรื่องที่ท่านประมุขทำให้ข้าซาบซึ้งนั้นน้อยมาก เจ้าก็รู้ว่าตอนนั้นข้าโดนประมุขหลอกมาที่สำนักนี้ เซ็นสัญญาไว้สิบปีและตอนนี้ก็ได้ห้าปีแล้ว ในห้าปีที่ผ่านมาความประทับใจที่ข้ามีต่อประมุขนั้น ก็คือฆาตกรผู้เย็นชาที่ชอบหลอกลวงข้าอยู่เสมอ! ความสัมพันธ์ระหว่างพวกข้านั้นเป็นเพียงความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น"
"บอกตามตรง ในตอนแรกที่พวกข้าโดนไอ้ฮ่องเต้สารเลวนั้นจับไป ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าประมุขจะมาช่วยพวกข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...