ชายาหมอเซี่ยจินอาน นิยาย บท 274

มือของเพ้ยจิ่วชวนที่จับเหล็กเนื้อดีไว้หยุดไปสักพัก

อย่าว่าแต่เขาไม่เคยคิดเลย เขาเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน

เขานึกว่าพวกเขาจะตายอยู่ในกิโยตีน

"ข้ายิ่งนึกไม่ถึงเลยว่าประมุขเคยพูดคำว่า‘ยามมีชีวิตไม่ได้อยู่ร่วมกันยามตายขอฝังด้วยกัน’เมื่อไหร่ หลังจากเรื่องผ่านไปข้ายังไปถามจื่อโม่โดยเฉพาะ จื่อโม่กลับพูดอย่างมั่นใจว่าประมุขไม่เคยพูด ด้วยความจำอันเป็นเลิศดั่งจื่อโม่แล้ว หากเขาบอกว่าไม่มี งั้นก็ต้องไม่เคยพูดแน่นอน"

"เจ้าไม่รู้วันนั้นประมุขกระโดดขึ้นมาที่กิโยตีนอย่างไม่ลังเลเลย ในใจข้านั้นซาบซึ้งเพียงใด!ถึงกับขจัดอคติทั้งหมดของข้าที่มีต่อประมุขในอดีต!"

"แม้แต่เรื่องที่นางเฉยเมยต่อข้าตอนข้าบาดเจ็บสาหัส ข้ายังไม่ถือสากับนางอีกเลย!"

กงซุนหนันเสียนพูดอย่างหยุดไม่ได้ และพูดความยอดเยี่ยมน่าประทับใจเกียวกับการกระทำของเซี่ยจินอานในเมื่อก่อน

ตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนเซี่ยจินอานเพิกเฉยต่อเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดอย่างไรและใช้วิธีที่เหี้ยมโหมดมาลงโทษผู้ที่กระทำผิด และใช้วิธีหลอกลวงเงินจากเขาได้อย่างไร

ตอนนี้สถานการณ์ในสำนักเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเช่นนี้ ก็เกี่ยวข้องกับฝีมือที่เหี้ยมโหดของนาง

"โธ่เอ๊ย เมื่อก่อนข้าเข้าใจผิดประมุขมามากเกินไปแล้วจริง"กงซุนหนันเสียนถอนหายใจลึกด้วยความหดหู่

จากนั้นเขาก็หย่อนกำลังลง นำแขนข้างหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ เอนหัวลงนอนทับแขนแล้วแขนอีกข้างหนึ่งก็เขียนๆวาดๆที่บนโต๊ะอย่างหดหู่

เมื่อเพ้ยจิ่วชวนฟังคำพูดของกงซุนหนันเสียนจบ คนทั้งคนก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและไม่ขยับเขยื้อน

ในพวกเขาสี่คนนี้ เขารู้จักกับเซี่ยจินอานมานานที่สุด

ตอนนั้นสำนักซื่ออิ่งพึ่งก่อตั้งขึ้นมาและยังไม่มีชื่อเสียงใดๆ

ตอนนั้นเขายังคงเป็นคนที่ไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ และความสนใจสูงสุดของเขาในทุกๆวันก็คือการศึกษาอาวุธ

บังเอิญไปพบกับเซี่ยจินอานที่อายุสิบเอ็ด สิบสองปีนั้น

เซี่ยจินอานในตอนนั้นบนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยภาวะซึมเศร้าและบรรยากาศอึมครึม และดวงตาของนางนั้นเย็นชาอย่างยิ่ง เฉพาะเวลาฆ่าคนเท่านั้นที่จะมีความตื่นเต้นและกระหายเลือดปรากฏในดวงตาของนาง

เซี่ยจินอานที่อายุสิบเอ็ด สิบสองนั้นวิทยายุทธและวิชาพิษนั้นยังไม่ค่อยเก่งกล้า วางยาพิษให้นักฆ่าถูกจับได้ต่อหน้าต่อตาและถูกตีลงมาจากชั้นสองของโรงเตี๊ยม

ในขณะนั้น เขากำลังนั่งอยู่ในห้องโถงที่ชั้นหนึ่งและเพิ่งศึกษาอาวุธลับหนึ่งเสร็จสิ้น ดังนั้นเขาจึงอยากจะลองใช้พลังของมันดูและจึงออกมือกำจัดคนคนนั้นทิ้งโดยตรง

แต่คิดไม่ถึงว่าพอช่วยเสร็จก็ถูกนางตามติดตัวเขาและไม่ยอมไปไหนเลย

เดินตามหลังเขาด้วยสีหน้าที่เย็นชาทุกวัน เชิญชวนให้เขาเข้าร่วมสำนักซื่ออิ่ง และเงินศึกษาค้นคว้าอาวุธทั้งหมดนั้นนางจะออกให้

ตอนนั้นเพ้ยจิ่วชวนที่ศึกษาค้นคว้าอาวุธจนไม่เงินจะกินข้าว เพราะเงื่อนไขนี้จึงตอบตกลง

ผ่านลมฝนพายุด้วยกันไปห้าปี

แต่ยังมีระยะห่างระหว่างประมุขและพวกเขา และไม่เคยมีความจริงใจให้กันจริง

ลำดับชั้นที่เข้มงวดระหว่างหัวหน้าและลูกน้องนั้นไม่มีอารมณ์ในความสัมพันธ์ใดๆเลย

แต่หลังจากช่วยพวกเขาที่สนามประหารแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่างพวกเขา

เมื่อก่อนกงซุนหนันเสียนก็จะพูดโต้เถียงและตีเล่นกับประมุขบ้าง แต่ก็จะถูกประมุขเฉยเมยอย่างเย็นชา และถึงกับดุว่าการกระทำที่ไร้สาระของกงซุนหนันเสียน

แต่ตอนนี้พวกเขากลับสามารถหัวเราะและเล่นด้วยกันได้ และเมื่อกี้ยังบอกว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน

ไม่เพียงเท่านั้น ประมุขในตอนนี้ยังใจดีขึ้นอีกด้วย

ความเมตตาที่มีต่อคนในสำนัก

จู่ๆ ประมุขเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกันเลย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ สีหน้าของเพ้ยจิ่วชวนก็จริงจังขึ้น"เสียน เจ้าส่งข้อมูลให้จื่อโม่สืบเซี่ยจินอานที่อยู่จวนแม่ทัพดู"

ทันใดนั้นกงซุนหนันเสียนก็นั่งตัวตรง หันมองเพ้ยจิ่วชวน:"ไอ้จิวจิ่ว ความหมายของเจ้าคือ?"

เพ้ยจิ่วชวนส่ายหัว "สืบดูหน่อยย่อมไม่ผิดแน่"

กงซุนหนันเสียนก้มหน้าและกล่าวว่า:"แล้วสำหรับข้อเสนอแนะของประมุขแล้ว เจ้ามีความคิดอย่างไร?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน