เมื่อเห็นคนเข้ามาในหมู่บ้านเล็กๆที่ทรุดโทรมนี้ เด็กๆเหล่านี้จึงนอนดูอยู่ตรงหน้าประตูด้วยความประหลาดใจ ในใจก็กังวลเหลือเกิน
ก่อนหน้านี้ก็มีคนอื่นเคยมาก่อน คนเหล่านั้นมาก็จะพาบางคนในนี้ไป และผู้ที่ถูกพาไปก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย
พี่ชายโตและพี่สาวโตบอกว่า ต่อไปเมื่อเห็นคนเหล่านี้มาอีกก็ให้ซ่อนตัวเอาไว้
แต่พวกเขาก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ตลอด
หยุนฝู้เฉินพาเซี่ยจินอานมายังห้องที่ทรุดโทรม ผลักประตูเดินเข้าไป ก็เห็นหญิงอายุสิบห้า สิบหกปีสามคนนั่งล้อมด้วยกัน มองหน้าพวกเขาด้วยความตื่นเต้น
แม้ว่าเสื้อผ้าที่เด็กผู้หญิงสามคนนี้สวมใส่นั้นจะไม่ได้ดีแถมยังมีปะซ่อม แต่กลับสะอาดและเรียบร้อยมาก
เซี่ยจินอานนึกถึงเด็กๆที่เคยพาไปที่โรงเรียนมาก่อน เสื้อผ้าของพวกเขาก็สะอาดเรียบร้อยดี คงเป็นเสื้อผ้าที่หยุนฝู้เฉินเตรียมใหม่ให้กับพวกเขา
เซี่ยจินอานคุยกับสามสาวคนไปสักพัก ส่วนมากก็คุยกันเรื่องเกี่ยวกับบ้านฉืออาน และได้รู้แล้วว่าทำไมเด็กอายุเท่าๆพวกเขานั้นไม่ออกไปจากบ้านฉืออาน
แม้ว่าราชสำนักมักจะแจกจ่ายอาหาร เครื่องนุ่งห่มต่างๆให้กับบ้านฉืออาน แม้ว่าจะมีเจ้าสัวค่อยบริจาคเงิน ให้ แต่ทั้งหมดก็กลับถูกขุนนางดูแลเรื่องนี้เอาไปหมด เงินที่แบ่งให้เด็กกำพร้าพวกนี้นั้นมีเพียงน้อยนิดและไม่เพียงพอสำหรับที่พวกเขาจะใช้ชีวิตเลย
เด็กกำพร้าเช่นพวกเขา พึ่งพาอาศัยกันมาตั้งแต่เด็กจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก เด็กที่โตแล้วก็รู้จักออกไปทำงานแล้ว เลยแอบออกไปหาเงินและพอหาเงินได้ก็จะแอบซื้อของให้เด็กคนอื่นๆที่อยู่ในบ้านฉืออาน
เด็กผู้หญิงเหล่านี้ที่โตแล้วก็หางานทำไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องอยู่ดูแลเด็กที่มีอายุน้อยอยู่ที่นี้
รักและดูแลเช่นนี้เป็นเวลานาน ก็เป็นเพียง น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ
เซี่ยจินอานถอนหายใจลึกๆ
นี่ก็คือคนที่ถูกกดขี่ในการเมืองที่ทุจริต
ทำให้คนรู้สึกสงสาร
"ข้าขอฆ่าไอ้ฮ่องเต้สารเลวนี้ทิ้งได้หรือไม่?"เซี่ยจินอานพูดอย่างโกรธเคือง
หยุนฝู้เฉินส่ายหัวเล็กน้อย "ไท่จื่อในปัจจุบันนี้ยิ่งยากที่จะแบกรับภาระหน้าที่ที่หนักเช่นนี้"
แม้ว่าบางสิ่งบางอย่างที่หยุนเทียนยิ่นทำนั้นมันทำให้คนน่าขยะแขยงจริง แต่แนวทางการปกครองนั้นก็ถือว่ายังใช้ได้ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้เป็นฝ่าบาทมาเวลานานหลายปี
เซี่ยจินอานพูดกับหญิงสาวสามคนนั้นว่า:"พวกเจ้าช่วยรวบรวมเด็กทั้งหมดมาที่นี่ เดี๋ยวข้าจะช่วยพวกเขาตรวจร่างกายดู"
นี่เป็นเพียงสิ่งที่นางสามารถทำได้ในตอนนี้
หญิงสาวสามคนนี้ก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วและพาเด็กๆทั้งหมดมาที่ฝั่งนี้
เซี่ยจินอานผิวปาก จากนั้นก็มีร่างสีแดงเข้มลงมา นี่คือคนที่มู่หลานจิ่นเอาไว้ข้างกายนาง หลังจากที่นางเกือบได้รับบาดเจ็บจากเซี่ยยิวหราน ชื่อว่าเจี่ยยี เพื่อปกป้องความปลอดภัยของนาง
ตอนโดนไม้ทุบนั้น คนคนนี้อยู่ไกลเกินจึงไม่ทันได้ปรากฏตัวมาช่วยนาง
ในเวลานี้เขาคุกเข่าข้างหนึ่งในลักษณะที่เคารพ "ประมุข"
"ไปเตรียมกระดาษ หมึก พู่กัน และแท่นฝนหมึกมาให้ข้าหนึ่งชุด"
"ขอรับ"จากนั้นก็หันหลังจากไป มาเร็วไปเร็วจริงๆเลยนะเนี่ย
เซี่ยจินอานหันมองหยุนฝู้เฉินและถามว่า:"ราชวงศ์ฉีสุ้นมีบ้านฉืออานทั้งหมดสิบสามแห่งใช่หรือไม่?"
หยุนฝู้เฉินพยักหน้า "ข้าได้ส่งคนไปที่จังหวัดอื่นเพื่อตรวจสอบข่าวของบ้านฉืออานนั้นแล้ว"
"ใต้เท้าฝ่าละอองพระบาทยังเช่นนี้ ที่อื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง"
"ก็มิใช่ทั้งหมด"หยุนฝู้เฉินกล่าว
เซี่ยจินอานรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แต่เมื่อนึกดีๆก็จริง
หากผู้ว่าจังหวัดในจังหวัดเหล่านั้นเป็นข้าหลวงที่ซื่อตรงและซื่อสัตย์จริง ไม่ต้องมองสีหน้าของผู้มีอำนาจก็สามารถปกป้องพวกเขาได้
ระหว่างการสนทนา เด็กๆก็มารวมตัวกันในลานเล็กๆแห่งนี้แล้ว และคนที่ตัวโตหน่อยก็ยืนรักษาระเบียบ อยู่ข้างๆ เซี่ยจินอานย้ายโต๊ะไปในลานเลยทีเดียวและจัดวางเก้าอี้สองสามตัว เจี่ยยีก็ซื้อกระดาษและหมึกมาวางไว้บนโต๊ะแล้วก็ซ่อนตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...