เฉินมู่เอียงหน้ามองกู้จือหยั่นครู่หนึ่ง แล้วก็เรียกขึ้น “คุณลุงกู้”
“โอ๊ย!” กู้จือหยั่นถูกเธอเรียกแบบนี้ใจแทบจะละลาย “อยากจะทานอะไรสั่งเลยนะ ลุงยังมีธุระ อีกประเดี๋ยวค่อยมาเล่นกับหนูนะ”
เขาพลางพูดพลางยกฝ่ามือขึ้น เพื่อจะทำไฮไฟว์กับเฉินมู่
เฉินมู่นั้นก็เห็นแก่หน้ายื่นมือออกมาไฮไฟว์กับกู้จือหยั่นไปหนึ่งที มือน้อย ๆ ที่ยังเล็กกว่าฝ่ามือของกู้จือหยั่นเสียอีก
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ข้าง ๆ มองเฉินมู่กับกู้จือหยั่นปฏิสัมพันธ์กัน
เฉินมู่พักนี้ยิ่งอยู่ยิ่งร่าเริงขึ้นเรื่อย ๆ คำพูดก็เยอะขึ้น นี่เป็นเรื่องที่ดี
กู้จือหยั่นหยอกล้อกับเฉินมู่เสร็จ ก็ลุกขึ้นยืดตัวตรงมองมาทางมู่น่อนน่อน “น่อนน่อน ผมให้คนจัดห้องส่วนตัวดี ๆ ให้คุณนะ”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันนั่งที่ห้องโถงก็ได้ คุณจัดที่นั่งให้ติดริมหน้าต่างก็พอแล้วค่ะ” ที่ตั้งของโรงแรมจีนติ่งดีมาก วิวทิวทัศน์ข้างหน้าต่างค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว
อีกอย่าง เธอกับเฉินมู่ออกมาทานข้าว มักนั่งอยู่ในห้องเหมาส่วนตัว ค่อนข้างน่าเบื่อ
“ก็ได้ครับ” กู้จือหยั่นพยักหน้า
ช่วงปีใหม่สองสามวันนี้ มีลูกค้ามาทานข้าวที่ร้านอาหารค่อนข้างเยอะ นับประสาอะไรกับโรงแรมจีนติ่งที่ปกติก็มีลูกค้าเต็มตลอดเวลา
กู้จือหยั่นแจ้งผู้จัดการของร้านแล้ว ก็นั่งเป็นเพื่อนสองแม่ลูกครู่หนึ่ง จนกระทั่งมีที่นั่งว่าง จึงได้พาพวกเขาไปที่โต๊ะ
“ขอบคุณค่ะ” มู่น่อนน่อนรู้สึกขอบคุณที่กู้จือหยั่นให้การดูแล
“คุณก็ไม่ต้องเกรงใจผมนะ” กู้จือหยั่นถอนหายใจเบา ๆ แล้วมองเฉินมู่แวบหนึ่ง กล่าวกับมู่น่อนน่อนเบา ๆ “ถึงแม้ตอนนี้คุณจะไม่ได้อยู่กับถิงเซียวแล้ว แต่พวกเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน ถ้าหากมีเรื่องอะไรก็ขอแค่เอ่ยปากก็พอ”
เมื่อก่อนที่กู้จือหยั่นนั้นเกรงใจมู่น่อนน่อน เพราะความสัมพันธ์ของเฉินถิงเซียว
แต่หลังจากที่พวกเขารู้จักกันหลายปี ตอนนี้กู้จือหยั่นก็เห็นมู่น่อนน่อนเป็นเพื่อนจริง ๆ
ต่อให้มู่น่อนน่อนจะไม่ใช่ภรรยาของเฉินถิงเซียวแล้ว ไม่ใช่เพื่อนรักของเสิ่นเหลียงอีก เขาก็ยังคงดูแลมู่น่อนน่อนเหมือนเดิม
สำหรับกู้จือหยั่นแล้ว นี่คือคุณธรรมของการเป็นมนุษย์
มู่น่อนน่อนพยักหน้า “ค่ะ”
กู้จือหยั่นยิ้ม แล้วหันไปยิ้มให้กับเฉินมู่ “มู่มู่ ส่งจู๊บให้ลุงหน่อยสิจ๊ะ”
เฉินมู่กะพริบตาปริบ ๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “คุณแม่บอกว่า จะจู๊บกับผู้ชายง่าย ๆ ไม่ได้ คุณลุงหล่อ ๆ ก็ไม่ได้”
“ฮ่า ๆ ……” กู้จือหยั่นถูกเฉินมู่ทำให้ขำไม่ไหว “ไม่จุ๊บก็ไม่จุ๊บ ลุงไปก่อนนะ”
มู่น่อนน่อนส่งกู้จือหยั่นจากไปด้วยสายตา ถึงได้หันกลับมามองเฉินมู่ “หนูว่าคุณลุงกู้หล่อไหมจ๊ะ”
เธอรู้ว่าเฉินมู่มีบางครั้งนั้นมองคนที่หน้าตา ตอนนั้นที่เธอเห็นเสิ่นเหลียง ยังถึงกับตะลึงแล้วเรียกว่าคุณน้าคนสวย
เฉินมู่เม้นริมฝีปาก ขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด จากนั้นก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ “หล่อค่ะ”
แต่เธอก็กล่าวเสริมอีกหนึ่งประโยค “แต่หล่อสู้คุณพ่อไม่ได้”
“มู่มู่รู้สึกว่าคุณพ่อหล่อมากไหม” อันที่จริงมู่น่อนน่อนไม่เคยถามเลย ว่าในใจของเฉินมู่นั้น เฉินถิงเซียวเป็นคนอย่างไร
“คุณพ่อหล่อมาก หล่อที่สุด” เฉินมู่หัวเราะเหอะ ๆ และก็ไม่ลืมที่จะกล่าวเสริม “คุณแม่ก็สวย” ก็ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากใคร ช่างปากหวานมาก
มู่น่อนน่อนแอบยิ้มขึ้น หยิบเมนูอาหารมาแล้วเริ่มสั่งอาหาร
ระหว่างที่รออาหารอยู่นั้น เฉินมู่ได้ปีนพาดอยู่ที่หน้าต่างมองวิวด้านนอก พลางมองพลางชี้ไปด้านนอกแล้วถามมู่น่อนน่อนว่าที่นี่ที่ไหน
มู่น่อนน่อนตอบกลับทีละประโยคด้วยความอดทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...