ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากันครู่หนึ่ง และก็วางโทรศัพท์ลง จากนั้นทานข้าวพร้อมกันกับเฉินมู่
ทั้งสามคนไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเป็นเวลานานแล้ว
และเวลานี้ที่พวกเขานั่งทานข้าวด้วยกันนั้น ก็ไม่ใช่เป็นครอบครัวสามคนอีกต่อไป
เฉินมู่ดูแล้วมีความสุขมาก ทำให้อารมณ์ของมู่น่อนน่อนถึงกับดีตาม จนสายตาที่มองเฉินถิงเซียวนั้นก็ดีขึ้นไปด้วย
อาจเป็นเพราะบรรยากาศของคืนข้ามปี ทำให้เฉินมู่วันนี้มีความสุขมาก
จนกระทั่งห้าทุ่ม เธอก็ยังไม่นอน แม้จะเห็นได้ชัดเจนว่าง่วงนอนมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมนอนสักที
มู่น่อนน่อนเกลี้ยกล่อมให้เธอไปนอนแต่ก็ไม่ได้ผล สุดท้ายวางเธอลงบนโซฟาไม่ให้เธอได้กระดุกกระดิกอีก
สักพัก เฉินมู่ก็ได้นอนหลับไป
เมื่อเฉินมู่นอนหลับแล้ว มู่น่อนน่อนก็เงยหน้าขึ้นมามองทางเฉินถิงเซียว และเริ่มทำการไล่คน “คุณกลับไปได้แล้ว”
เฉินถิงเซียวสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย ยกข้อมือขึ้นมาดูแวบหนึ่ง แล้วกล่าวเบา ๆ “ยังไม่เที่ยงคืนเลย”
“มู่มู่นอนหลับไปแล้ว คุณไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกแล้ว” มู่น่อนน่อนกล่าวอย่างเย็นชาจนจบ จากนั้นอุ้มเฉินมู่ไปยังห้องนอน
เฉินถิงเซียวมองดูแผ่นหลังของเธอด้วยสีหน้าหมองหม่น ไม่พูดไม่จาใด ๆ อีก
มู่น่อนน่อนวางเฉินมู่ลงบนเตียง ตอนที่ออกมานั้น พบว่าบนโซฟาไม่เห็นร่างของเฉินถิงเซียวแล้ว
กลับไปแล้ว?
มู่น่อนน่อนกวาดมองห้องรอบ ๆ พบว่าเฉินถิงเซียวนั้นจากไปแล้วจริง ๆ จึงได้ถอนหายใจโล่งอกแล้วนั่งลงบนโซฟา
สักพัก เธอได้ลุกขึ้นรินเหล้าหนึ่งแก้ววางไว้บนโต๊ะชา
ในใจราวกับผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็หมือนกับว่าไม่ใช่
เธอในตอนนี้ไม่ได้เหมือนกับตอนแรก ที่เจ็บปวดรับไม่ได้กับการเลิกรากับเฉินถิงเซียว
เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว เสียงนาฬิกาเที่ยงคืนได้ดังขึ้น ในโทรศัพท์ของมู่น่อนน่อนมีข้อความอวยพรอย่างไม่ขาดสาย
มีบางข้อความที่มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นการส่งแบบกลุ่ม มีทั้งคนที่ไม่รู้จักก็มี
มู่น่อนน่อนตอบข้อความกลับถึงเสิ่นเหลียง ฉินสุ่ยซานก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ ตอบกลับคนรู้จักที่เหลือ
เมื่อตอบข้อความเสร็จแล้ว เธอก็ลุกขึ้นไปยืนที่ริมหน้าต่าง มองดูดวงไฟนับพันนับหมื่นจากบ้านเรือนต่าง ๆ ในใจเกิดความรู้สึกหวิว ๆ
รถที่จอดอยู่หน้าประตูเขตชุมชน แขนของเฉินถิงเซียวพาดออกมาอยู่นอกหน้าต่างรถ บุหรี่ที่คีบอยู่หว่างนิ้วมีควันบุหรี่ลอยขึ้น เขานั่งพิงอยู่ที่เบาะอย่างเหม่อลอย
จนกระทั่งโทรศัพท์เริ่มสั่นไม่หยุด เขาแค่หยิบมาดูเวลาแวบหนึ่ง และแล้วก็ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว
โทรศัพท์มีข้อความเข้าสั่นอย่างไม่หยุด เฉินถิงเซียวโยนลงข้าง ๆ โดยไม่แม้แต่จะมอง
เขาดึงมือกลับ หยิบที่เขี่ยบุหรี่มาด้านหน้า แล้วดีดขี้เถ้าบุหรี่มวนนั้นลงไป
จากนั้นเขาก็ทำการดูดครั้งสุดท้ายแล้วก็โยนก้นบุหรี่ทิ้งแล้วก็ขับรถจากไป
……
ในวันแรกของปีใหม่ เมืองหู้หยางมีหิมะตก
มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็รู้สึกว่าด้านนอกหนาวมาก
เธอหาเสื้อนวมขนนกที่ได้เตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ใส่ให้กับเฉินมู่ เฉินมู่ที่รูปร่างจ้ำม่ำเล็กน้อย เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เช่นนี้ จึงดูเป็นก้อนกลม ๆ
เฉินมู่ไม่อยากจะใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เช่นนี้ เธอกางแขนออก แล้วเบ้ปากกล่าว “ขยับไม่ได้แล้ว ตอนนี้หนูเหมือนกับแพนกวิ้นเลย”
“ไม่นะ แพนกวิ้นไม่น่ารักเท่าหนู” มู่น่อนน่อนใส่หมวกให้กับเฉินมู่ แล้วหยิกที่แก้มของเธอกล่าวประโยคนี้ขึ้น
“แม่ หนูรู้ค่ะว่าแม่อยากให้หนูใส่เสื้อตัวนี้ถึงได้พูดแบบนี้” เฉินมู่ดึงแขนเสื้อของตัวเองราวกับมองทุกอย่างออก
มู่น่อนน่อนอดยิ้มไม่ได้ “เปล่า แม่พูดความจริงจ้ะ”
“ผู้ใหญ่ชอบหลอกเด็ก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...