ซูยู่เซิงเห็นมู่น่อนน่อนจะจากไปจริง ๆ จึงลนลานขึ้น
เขาจึงลุกขึ้นแล้วเรียกหยุดมู่น่อนน่อน “ผมรู้ว่าคุณกับตระกูลมู่นั้นตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว แม้ว่าคุณจะคลอดลูกสาวให้กับเฉินถิงเซียว แต่ว่าเขาก็จะไม่ยุ่งเรื่องของคุณ ไม่ว่าคุณอยากจะขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงด้วยวิธีที่รวดเร็ว หรือจะด้วยเงื่อนไขอย่างอื่นก็ตาม ผมคิดว่าผมมีความสามารถนั้น!”
ซูยู่เซิงมาหาเธอ แล้วก็พูดอ้อมไปนาน ในที่สุดตอนนี้ก็พูดตรง ๆ ได้เสียที พูดจุดประสงค์การมาของเขาอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
ตอนแรกเขาไม่ได้พูดจุดประสงค์ที่ชัดเจน มาวางมาดใส่ คิดว่าฐานะตำแหน่งของตัวเองจะสามารถกดดันมู่น่อนน่อนได้ ให้มู่น่อนน่อนปริปากพูดออกมาก่อนได้
แต่เขาผิดคาด มู่น่อนน่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะเอาเปรียบได้ง่าย ๆ และสงบสติอารมณ์ได้ดีกว่าเขา
สุดท้าย ก็เป็นเขาเองที่ปริปากออกมาก่อน จนสูญเสียการเป็นฝ่ายรุก
“คุณซูคิดว่า ฉันจะตอบตกลงเงื่อนไขของท่านไหม”
มู่น่อนน่อนหันกลับมามองซูยู่เซิงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ซูยู่เซิงเพราะความไม่รู้จักดีชั่วสูงต่ำของมู่น่อนน่อน สีหน้าจึงได้เปลี่ยนดูแย่ขึ้น
“ผมย่อมต้องหวังว่าคุณจะเป็นเด็กที่รู้จักวางตัวรู้จักดีชั่วสูงต่ำ และตอบตกลงเงื่อนไขของผม” ซูยู่เซิงคิ้วไม่ขยับเลยสักนิด เห็นได้ชัดเจนว่ามีความมั่นใจอย่างมาก
“ถ้าหากว่าฉันไม่ตอบตกลงล่ะ” มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มขึ้น
“คุณมู่คุณก็เป็นแม่คน ขอให้คุณเข้าใจความรู้สึกของผมในฐานะที่เป็นพ่อด้วย” ซูยู่เซิงก้มศีรษะเบา ๆ ดูเหมือนจะเป็นการขอร้องมู่น่อนน่อนอย่างนอบน้อม
แต่ว่าในความเป็นจริง น้ำเสียงของเขานั้นฟังดูแล้วหยิ่งยโสมาก
นี่คือต้องการให้มู่น่อนน่อนไม่อยากเข้าใจก็ต้องเข้าใจอย่างนั้นเหรอ?
“ก็เพราะว่าเป็นแม่ ดังนั้นฉันถึงต้องเรียนรู้การสั่งสอนจากคุณให้มากกว่านี้ ต่อไปจะได้สั่งสอนลูกของฉันให้ดี ๆ อย่าได้ทำตัวเหมือนกับซูเหมียน!”
พูดมาถึงขนาดนี้ มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับซูยู่เซิงอีกแล้ว
เธอที่กำลังจะจากไป ก็ได้ยินเสียงข่มขู่ของซูยู่เซิงจากด้านหลัง “คุณมู่ นักข่าวให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของคุณมาโดยตลอด คิดว่าถ้าพวกเขารู้เรื่องลูกสาวของคุณกับเฉินถิงเซียวที่ไม่เคยเปิดเผย จะต้องให้ความสนใจอย่างมากแน่นอน”
ความหมายของซูยู่เซิงคือ ถ้าหากมู่น่อนน่อนไม่ตอบตกลงเงื่อนไขของเขา เขาก็จะเปิดเผยเรื่องของเฉินมู่
มู่น่อนน่อนชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดประชดประชันขึ้น “คุณซูพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาเลย”
ทั้งสองเจรจากันไม่สำเร็จ
เวลานี้ ซูยู่เซิงได้เดินออกมาจากห้องเหมาส่วนตัว
เฉินถิงเซียวได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงได้หันกลับไปมอง และก็ประสานตาเข้ากับซูยู่เซิงพอดี
เขามองซูยู่เซิงอย่างเย็นชา แล้วสาวเท้าก้าวเดินไปหาเขา
แววตาของเฉินถิงเซียวประกายความดุดัน น้ำเสียงเคร่งขรึม “คนภายนอกต่างบอกว่าคุณซูเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้กลับข่มขู่ผู้หญิงเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง นี่กลัวคนอื่นจะจับพิรุธได้เหรอ? หรือว่าคุณไม่อยากจะนั่งตำแหน่งนี้อีกแล้ว”
ซูยู่เซิงเพิ่งจะถูกมู่น่อนน่อนปฏิเสธไป ตอนนี้ก็ถูกเฉินถิงเซียวพูดเรื่องเหล่านี้ ในใจจึงโกรธสุด ๆ
“ถ้าหากว่าไม่ใช่เป็นเพราะคุณ ลูกสาวผมก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้!” ในสายตาของซูยู่เซิง ซูเหมียนเดินมาถึงจุดนี้ล้วนเป็นเพราะเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวยิ้มเยาะ “เธอเป็นลูกสาวของคุณ ไม่ใช่ลูกสาวของผม ซูเหมียนทำไมถึงกลายเป็นเช่นทุกวันนี้ คุณควรจะถามตัวคุณเอง”
ซูยู่เซิงอ้าปากค้าง ถูกยอกย้อนจนถึงกับพูดอะไรไม่ออก
คลิปซูเหมียนถือมืดทำร้ายคนอยู่ในห้องอาหารได้ถูกเผยแพร่ว่อนอยู่บนโซเชียล ทุกคนรู้ว่าซูเหมียนต้องการจะฆ่ามู่น่อนน่อน
ถ้าหากว่าคลิปไม่ได้ว่อนอยู่บนโซเชียล ซูยู่เซิงไม่จำเป็นต้องมาหามู่น่อนน่อนเลย และก็สามารถจัดการเรื่องราวได้ โดยไม่ปล่อยให้มู่น่อนน่อนมีโอกาสฟ้องซูเหมียน
“มู่น่อนน่อนเป็นคนของผม เฉินมู่เป็นลูกสาวของผม คุณอย่าแตะต้องพวกเขาเป็นดีที่สุด มิเช่นนั้น……” เฉินถิงเซียวพูดมาถึงตรงนี้ก็ชะงัก แล้วยิ้มเยาะขึ้น จากนั้นก็จากไป
ซูยู่เซิงไม่เคยมีใครข่มขู่โดยไม่ไว้หน้าขนาดนี้
เขาเดินเซสองก้าว ตั้งตัวได้ก็โมโหขึ้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรเฉินถิงเซียวได้
สถานะของเฉินถิงเซียวนั้นซับซ้อน เฉินถิงเซียวไม่ใช่คนที่จะแตะต้องได้ง่าย ๆ
ถ้าหากว่าเขาแตะต้องเฉินถิงเซียว ก็คงจะลงมือเบาไม่ได้
แต่ถ้าลงมือหนักไป คนเหล่านั้นที่จ้องจะหักขาเก้าอี้ของเขา จะต้องถือโอกาสนี้จัดการเขาอย่างแน่นอน
เขาไม่อยากให้ซูเหมียนติดคุก แต่ก็ไม่อยากเอาอนาคตตัวเองเข้าไปเสี่ยง
เมื่อเทียบกับลูกสาวแล้ว อาชีพที่เขาสร้างมาตลอดชีวิตมีความสำคัญมากกว่า
ท้ายที่สุด เฉินถิงเซียวจึงส่งซูเหมียนเข้าไปอยู่ในคุกด้วยโทษแปดปี
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป เฉินถิงเซียวมาขอมู่น่อนน่อนให้อภัย “ตอนนั้นที่ผมเหินห่างกับคุณ แล้วไปแต่งงานกับซูเหมียน ก็เพื่อทำให้ซูเหมียนโกรธ คุณก็รู้ เธอต้องการแต่งงานกับผม เธอไม่มีทางปล่อยคุณไป และจะเปิดเผยพิรุธออกมา แต่ว่าผมผิดไปแล้ว ผมทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย ขอโทษ น่อนน่อน”
ความจริงปรากฏ ที่แท้เฉินถิงเซียวไม่ใช่ไม่ได้รักเธอ แต่เป็นเพราะต้องการจะล้มซูเหมียน
“ตอนนี้ฉันไม่สามารถที่จะให้อภัยคุณได้ มีวิธีตั้งมากมาย ทำไมคุณถึงไม่ปรึกษาฉันก่อน ทำให้ฉันต้องทำเรื่องมากมายเช่นนี้” มู่น่อนน่อนตำหนิ
เธอยังอยากฟ้องร้องสู้กับเฉินถิงเซียวเพื่อแย่งมู่มู่ นี่ช่างเลอะเทอะสุด ๆ
ครั้นแล้ว ทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างเย็นชาอยู่ครู่หนึ่ง แต่อย่างไรมู่มู่ยังคงต้องการพ่อ การตำหนิของมู่น่อนน่อนก็ค่อย ๆ หายไป เรื่องราวในตอนนั้น ซูเหมียนนั้นผิดจริง ๆ ถ้าไม่ใช่การช่วยเหลือของเธอ เฉินถิงเซียวก็คงไม่สูญเสียความทรงจำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...