เย่ชิงหลีได้ยินดังนั้น ทั้งร่างก็ยิ่งสั่นสะท้าน!
อย่าทำตอนมีชีวิตเหรอ?
ไม่รอให้เธอพูด ก็ได้ยินท่านปู่พูดต่อ “สุขภาพปู่เธอก็เห็นแล้ว เหลือเวลาอีกไม่มาก ตอนคนเรามีชีวิตอยู่ มักชอบให้ครอบครัวครึกครื้นหน่อย”
“ปู่อย่าพูดแบบนั้นค่ะ ฉัน...”
“ฉันก็รู้ว่าคำขอแบบนี้มันเห็นแก่ตัวมาก แต่พอคิดว่าฉันไม่มีทางสั่งให้เธอเป็นคุณผู้หญิงตระกูลเผยของเราแล้ว ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุข ก็ไม่มีทางไปเจอคุณยายของเธอ”
ท่านปู่กล่าวอย่างปลงๆ
เย่ชิงหลีเงียบ!
ในชั่วขณะหนึ่ง เธอก็ไม่รู้ควรพูดอะไรดี
ตอนอายุสิบแปดปี คุณยายตกบันไดเข้าโรงพยาบาล เพราะพ่อแม่รีบไปโรงพยาบาล จึงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ระหว่างทาง
คุณยายที่อยู่โรงพยาบาลทราบข่าว สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ในช่วงสุดท้ายของชีวิตก็ฝากฝังเธอไว้กับเพื่อนสนิทอย่างคุณปู่เผย
และตอนเธออายุยี่สิบ...คุณปู่เผยก็ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นอยู่ที่โรงพยาบาลคิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว เพราะยังไม่วางใจเกี่ยวกับเธอ จึงให้เผยจิ้นโม่แต่งงานกับเธอ
เผยจิ้นโม่เป็นคนกตัญญูมาก แทบจะสั่งให้คนจัดงานแต่งทันที
จนถึงตอนนี้ เย่ชิงหลียังจำได้ วันเวลาที่ได้อาศัยอยู่ในตระกูลเผย คุณปู่เผยรักทะนุถนอมเธอยังไง
คุณปู่เผยกลัวเธอจะอ่อนไหว
หลังจากพ่อแม่และคุณยายเธอจากไป นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ไม่เหลือญาติผู้ใหญ่เลย
แบบนี้เธอจะปฏิเสธลงได้ยังไง?
“ได้ค่ะคุณปู่ ฉันตกลง ปู่ห้ามพูดแบบนี้ให้ฉันตกใจอีกนะคะ ฉันขี้ขลาดมาก” เย่ชิงหลีซบเข่าท่านปู่อย่างเชื่อฟัง สุดท้ายก็ตกลง
และสิ่งที่เธอพูดก็คือความจริง
เธอสูญเสียไปมากเกินไป
เพราะฉะนั้นเมื่อญาติข้างกายพูดแบบนี้กับตัวเอง เธอรู้สึกว่าตัวเองจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปอีก
“เด็กดี ขอโทษนะที่ทำให้เธอลำบากใจ”
“ปู่คะ ฉันอยากกลับไปอยู่คฤหาสน์เฟิ่งซี ได้ไหมคะ?” ที่นี่เธออึดอัดใจมากจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า
แอดมิน...กลับมาต่อเรื่องด้วยจ้า😁😁😁...