ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าคนตระกูลซูกำลังเหยียบย่ำอยู่บนดอกบัวทองเรืองแสง
แต่เขาก็ชื่นชมอย่างยิ่ง การทำเพื่อแว่นแคว้น เพื่อครอบครัว และเพื่อประชาชน ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่ง
“เช่นนั้นท่านอาจารย์ ท่านกับเจียงอวี้ตัดสินใจว่าจะไปวันไหนหรือขอรับ?”
ซูเฉินถามต่อ พวกเขาแค่บอกว่าจะไป แต่ไม่ได้บอกว่าไปวันไหน
“หลังวันขึ้นปีใหม่ก็แล้วกัน!” เจียงอวี้ตอบ วันที่จะไปจริงๆ ก็ยังคงขึ้นอยู่กับเขาเป็นหลัก
บอกตามตรง เขาค่อนข้างจะอาลัยชีวิตที่เป็นอยู่ในตอนนี้ โตมาขนาดนี้ เขาเคยชินกับการต้องเผชิญหน้ากับผู้คนที่เสแสร้งและสวมหน้ากากเข้าหากันมากมาย ทำให้เขาเป็นคนที่เย็นชาและไร้ความรู้สึกมาโดยตลอด มักจะทำสิ่งที่ฝืนใจ แต่พอได้ใช้ชีวิตที่อบอุ่นแบบนี้เข้าแล้ว มันก็ติดใจได้ง่ายๆ จริงๆ
มันช่างสงบสุขเสียเหลือเกิน ทั้งยังทำให้เขามีความรู้สึกคาดหวัง เขาไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ...ความรู้สึกที่หลับตาลงแล้วจะตั้งตารอคอยให้วันพรุ่งนี้มาถึง
พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น? จะพูดอะไรบ้าง? จะกินอะไรบ้าง?
เป็นเพราะความจริงใจนี้นี่เองที่ทำให้เขาตัดใจจากไปได้ยาก ความรู้สึกของซูหว่านและคนอื่นๆ เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นของจริง เพราะพวกเขาไม่เหมือนคนเสแสร้ง
วันขึ้นปีใหม่ก็คือวันปีใหม่ตามปฏิทินจีนในที่แห่งนี้ ซึ่งก็คืออีกประมาณหนึ่งเดือนกว่าๆ เจียงอวี้และเจียงอวิ๋นเฮ่อก็จะจากไปแล้ว
หลังจากนั้น ซูเฉินกับเจียงอวี้ก็กลับมายังลานบ้านเล็กๆ ของตระกูลซูด้วยกัน
…
ซูหว่านไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ น้ำในแม่น้ำเย็นเฉียบจนหนาวสะท้านกระดูก ตั้งแต่ที่อากาศหนาวขึ้นมา พี่สามและคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมให้นางช่วยซักเสื้อผ้าให้แล้ว
พวกเขาซักเองโดยสมัครใจ ดังนั้นตอนนี้ซูหว่านเพียงแค่ต้องซักเสื้อผ้าของตัวเองเท่านั้น
ริมแม่น้ำมีพวกป้าๆ ในหมู่บ้านหลายคนกำลังซักเสื้อผ้าและล้างสิ่งของอยู่ด้วยเช่นกัน
พอพวกนางเห็นซูหว่านเดินมา ก็พากันทักทายนาง
“โอ้ ลูกสาวบ้านตระกูลซูนี่ มาซักผ้าหรือ?”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะท่านป้า!” ซูหว่านสนิทสนมกับพวกนางแล้ว
“วันนี้ไม่ยุ่งหรือจ๊ะ ขนมข้าวซอยอะไรนั่นของบ้านหนูยังมีอีกไหมจ๊ะ ขอป้าสักสองห่อได้หรือเปล่า?”
“มีเจ้าค่ะ มาตอนเย็นก็มีที่ยังอุ่นๆ ให้ซื้อด้วยนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าลดราคาให้ด้วย!" ซูหว่านโบกมือพลางหาตำแหน่งเหมาะๆ แล้วย่อตัวลงนั่ง
"'ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่รู้แล้วล่ะ อย่างไรเสียเจ่าฮวาก็ชอบชมว่าลูกสาวคนโตของนางทั้งรู้ความ ว่าง่าย และเก่งกาจ หวังว่าในอนาคตจะได้สามีที่ดี อาจจะยังหาคนที่ดีพอไม่ได้กระมัง และเจียวหลันเองก็ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงมมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะเทียบกับคุณหนูในเมืองไม่ได้ แต่ถ้าในหมู่บ้านก็ถือว่าไม่เลวเลยนะ!
ถ้าจะให้ข้าพูดนะ หากยังเลือกมากอยู่อีก มีหวังได้เป็นสาวเทื้อแน่ๆ ถึงตอนนั้นแล้วจะเลือกอะไรได้อีกล่ะ? ฐานะพอๆ กันก็ได้แล้วเมิ้ง ไม่ใช่ว่าฐานะอย่างนาง แล้วยังอยากจะเป็นถึงฮูหยินขุนนางหรอกนะ?"
ป้าคนนี้ที่กำลังพูดอยู่นั้น ลูกชายของนางเคยไปติดพันเหอเจียวหลัน และเคยให้คนไปทาบทามสู่มาแล้ว แต่ถูกปฏิเสธไป สองครอบครัวนี้จึงมีเรื่องบาดหมางกันมาโดยตลอด เวลาที่พูดถึงเรื่องซุบซิบของบ้านพวกเขา ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมอยู่เสมอ
แต่ก็เป็นอย่างที่นางคาดเดาไว้จริงๆ นั่นแหละ เจียวหลันอยากเป็นถึงฮูหยินขุนนาง และกำลังรอคอยที่จะเกาะเกี่ยวพี่ใหญ่ของซูหว่านอยู่ด้วยซ้ำ!
ซูหว่านกรอกตาไปมาอย่างเงียบๆ และอดไม่ได้ที่จะออกแรงซักเสื้อผ้าหนักขึ้น
พวกเขาช่างคิดคำนวณได้ดีจริงๆ การแต่งงานครั้งนี้นางไม่เห็นด้วยเด็ดขาด
"ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่รู้แล้วล่ะ แต่การที่ผลักลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองลงไปในกองไฟ นางก็ไม่ใช่แม่ที่ดีแล้ว ข้าก็ไม่กลัวที่จะทำให้พวกเขาขุ่นเคืองหรอกนะ ความจริงก็คือความจริง!""
เพียงเพราะลูกมีความพิการ เจ้าก็รังเกียจนาง แถมยังลำเอียงเข้าข้างลูกอีกคนด้วย?
เลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าแท้ๆ จะไม่มีความรู้สึกผูกพันแม้แต่น้อยเชียวหรือ?"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...