จะว่าไปแล้ว หากตอนเด็กซูหว่านกับกู้เย่ว์ไม่ได้ถูกสลับตัวกัน ชีวิตของซูหว่านก็คงเต็มไปด้วยความสุข มีพ่อแม่และพวกพี่ ๆ ที่รักและตามใจนางอย่างไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่ตอนยังเด็ก
เพียงแต่ตอนกลับมาใหม่ ๆ ยังไม่มีความผูกพัน ต้องค่อย ๆ สร้างขึ้นทีละนิด สายสัมพันธ์ทางสายเลือดเป็นของจริง ตอนนี้ก็เริ่มสนิทกันขึ้นทุกวันไม่ใช่หรือ?
“เจ้าช่างกล้าพูดเสียจริง ก็ไม่กลัวล่วงเกินเจ่าฮวา นางเป็นคนที่ดุร้ายมาก!”
ป้าคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับซูหว่านรีบเข้าใกล้กระซิบเตือนนาง
ซูหว่านไม่สนใจนัก ผิดใจจนมองหน้ากันไม่ติดได้ยิ่งดี นางยอมเป็นคนไม่ดี เพื่อแลกกับความสงบสุขของพี่ชายช่วงเวลาหนึ่งก็ไม่เลวนัก
พูดถึงก็โผล่มาหน้ามาพอดี มารดาของเหอเจียวหลัน หรือก็คือแม่ของเจ่าฮวา ยกกะละมังใบหนึ่งมาซักผ้าที่ริมแม่น้ำเหมือนกัน
นางเห็นซูหว่านก็เดินตรงเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติในทันที ทั้งที่บริเวณที่ซูหว่านอยู่เบียดเสียดกันมากแล้วแท้ ๆ แต่นางก็ยังจะแทรกเข้ามาให้ได้
“ขยับเว้นที่ว่างให้ข้าหน่อย!”
“พื้นที่ทางนั้นกว้างขวาง เจ้ากลับไม่ไป ทำไมต้องมาเบียดกันอยู่ตรงนี้ เจ้าต้องการอะไรกันแน่?” ท่านป้าที่ไม่ค่อยถูกกลับนางสวนกลับในทันที
“ตรงนี้คนเยอะคึกคัก อีกอย่างยังมีสาวสวยอย่างซูหว่านให้มอง ข้าก็อยากจะอยู่ที่นี่ด้วย!”
ซูหว่านหลบคำเยินยอนี้ไม่ทัน
นางบิดชุดตัวสุดท้ายของตัวเองหมาด ๆ ลุกขึ้นเตรียมตัวเผ่นหนี
“เอ่อ ข้าซักผ้าเสร็จแล้ว เชิญพวกท่านตามสบาย!”
พูดจบก็ไม่รอพวกนางตอบ และเมินแม่เจ่าฮวาที่ทำหน้าไม่ถูก เดินผละออกไปอย่างไม่แยแส
เมื่อนางกลับมาถึง เจียงอวี้กับซูเฉินก็ถึงบ้านแล้ว
พวกเขากำลังเตรียมต้มน้ำฆ่ากระต่าย ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปล่ากระต่ายป่าสองตัวนี้มาจากไหน
“หวานหว่านกลับมาแล้วหรือ คืนนี้พวกเรามีอาหารเพิ่มแล้ว!”
ซูเฉินมองซูหว่านอย่างมีความสุข ยกกระต่ายป่าในมืออวดนางเหมือนสมบัติล้ำค่า
“พวกพี่ไปล่าสัตว์กันมาหรือ?”
ซูหว่านเห็นพวกเขาออกบ้านไปแค่ครึ่งวัน ก็หยิบกระต่ายป่าสองตัวออกมาเหมือนแสดงมายากล
“ไม่ใช่ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ พวกเราสองคนเจอมันตรงตีนเขา เลยจับมันกลับมาด้วย!”
เป็นเช่นนั้นจริง เขากับเจียงอวี้เจอมันระหว่างทางกลับบ้าน
ซูหว่านไม่สงสัยในตัวพวกเขา แต่สังเกตเห็นความแตกต่างของกระต่ายป่าตัวหนึ่งในนั้น
บริเวณท้องน้อยของมันนูนขึ้นเล็กน้อย เหมือนว่ากำลังตั้งท้องอยู่
“พี่สาม ตัวนี้เป็นเพศเมียใช่ไหม? ดูเหมือนว่ามันกำลังตั้งท้องอยู่!”
นางเรียกชื่อเขาหนึ่งครั้ง เจียงอวี้ถือที่คีบถ่านเดินเข้าออกห้องครัว ต้มน้ำอย่างตั้งใจ เหมือนว่าเขาพบความสุขในการทำเรื่องนี้
ได้ยินนางเรียกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เจียงอวี้เงยหน้ามองนางอย่างสงสัย เห็นนางนั่งยองอยู่หน้าตัวเอง สองมือเท้าคางยิ้มกว้าง แฝงความหยอกเย้าเล็กน้อย
“มีอะไรหรือ?”
เขาคิดว่ามีคราบดำก้นหม้อติดหน้า นางถึงได้กำลังหัวเราะเยาะเขา
“ท่านรู้หรือไม่ว่า ท่านดูไร้เดียงสาอยู่บ้าง?” ซูหว่านพูดด้วยใบหน้าจริงจัง
ไร้เดียงสาหรือ? หมายความว่าอะไร? เจียงอวี้ไม่เข้าใจคำศัพท์นี้
“ไร้เดียงสาหมายความว่าอะไร?” ในดวงตาดอกท้อของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองสบตานาง ยกมุมปากดูดิบและมีเสน่ห์อย่างไม่รู้ตัว
เขาตอบสนองไว เข้าใจในทันทีว่านางจงใจหยอกล้อตัวเองอยู่ จึงพลิกสถานการณ์แหย่กลับไปอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ไม่เข้าใจอุปมาอุปไมยของคำนี้ แต่ไม่ได้มีความหมายตามตัวอักษรธรรมดาอย่างแน่นอน
“ท่านก็คิดเองสิ!” ซูหว่านไม่ตอบ กลับลุกขึ้นเดินออกห้องครัวไป
เดินถึงหน้าประตู นางจงใจหันกลับไปมองเขาแล้วยิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง เหมือนจิ้งจอกน้อยเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง
เอาเป็นว่าข้าไม่บอก ท่านไปคิดเอาเอง การหยอกล้อที่ไร้รูปร่างเช่นนี้เป็นวิธี ทำให้ตราตรึงใจคนได้ดีที่สุด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...