เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 104

แน่นอนว่า นี่เป็นความเข้าใจของเจียงอวี้เท่านั้น ส่วนซูหว่านอยากให้เขาจมอยู่ในความสับสนก็เท่านั้นเอง

เจียงอวี้อารมณ์ดี ยกมุมปากยิ้มไม่ยอมหุบอยู่พักใหญ่

ซูอวิ๋นกับซูอี้กลับมาตอนเย็น พวกเขาขายขนมข้าวซอยตัดจนหมดเกลี้ยง ได้เงินมาสิบสามตำลึงนำเข้าบัญชีรวมทั้งหมด

รีบกินข้าวไม่กี่คำ เขาก็เข้าไปช่วยทำขนมข้าวซอยตัดอย่างขะมักเขม้น ไม่ยอมให้ตัวเองหยุดพักแม้แต่น้อย ทำงานจนถึงกลางดึก เขาเหนื่อยจนหมดแรง หัวถึงหมอนก็หลับสนิทไม่ฝันถึงอะไรเลย

วันรุ่งขึ้น ซูเฉินไปขายขนมข้าวซอยตัดที่ใหม่ แล้วไปอีกสองสามที่ก็คงพอแล้ว

ต่อไปก็คือเตรียมของตามใบจองของจวนฮั่ว และนำส่งสบู่สระผมชุดหนึ่ง

เมื่อถึงวันนัดหมาย ซูหว่านกับเจียงอวี้เหมาเกวียนวัวของตาเฒ่าหง เตรียมตัวเข้าอำเภอเพื่อส่งของตามใบจองของจวนฮั่ว พร้อมสบู่สระผมอีกหนึ่งตะกร้า

เมื่อมาถึงอำเภอ ส่งขนมข้าวซอยตัดไปที่จวนฮั่วก่อน โดยเข้าทางประตูหลังมันคือแบบแผนที่ควรปฏิบัติ

ส่งสินค้าให้เข้าทางประตูหลังเท่านั้น พ่อบ้านชำระเงินงวดสุดท้าย คิดไม่ถึงว่าเขาจะจ่ายเกินมาหนึ่งตำลึงห้าอีแปะรวมเป็นเงินสิบสามตำลึง ถือเป็นเงินรางวัลพิเศษ

แน่นอนว่าซูหว่านไม่รังเกียจเงิน ให้มานางก็รับเอาไว้

หลังจากนั้น ก็พาเจียงอวี้ไปส่งสบู่ที่ร้านขายของชำ

เถ้าแก่เนี้ยไม่ได้เจอหน้าซูหว่านมาสักพักแล้ว นางคิดถึงเทพเจ้าแห่งโชคลาภคนนี้เหลือเกิน

“สบู่สระผมของเจ้า มีหลายคนมาถามหาตั้งหลายรอบ ข้าไม่มีสินค้าขายให้พวกนาง เหยียบจนธรณีประตูใกล้พังแล้ว สาวน้อยไม่สู้ทำทีละเยอะ ๆ หน่อยดีไหม?”

นางโดนถามอยู่ทุกวัน จนรู้สึกกลัดกลุ้มใจ มีลูกค้าบางคนเริ่มแสดงความไม่พอใจแล้ว

แต่นางทำไม่เป็น และทำอะไรไม่ได้เช่นกัน

“สบู่สระผมก้อนหนึ่งต้องใช้วัตถุดิบมากมาย นอกจากนี้วัตถุดิบบางอย่างไม่มีในฤดูกาลนี้ ผลิตได้ปริมาณน้อย ข้าเองก็จนปัญญาเช่นกัน แต่ของยิ่งมีน้อยก็ยิ่งมีคุณค่า!” ซูหว่านยืนยันจะทำแบบจำกัดการซื้อ

“เช่นนั้น เจ้าทำสบู่นมแพะอีกสักชุดเถอะ รอถึงหลังปีใหม่ มันนานเกินไปจริง ๆ!”

เถ้าแก่เนี้ยเห็นว่าเจรจาเรื่องสบู่สระผมไม่สำเร็จ จึงพยายามขอเพิ่มจำนวนของสบู่นมแพะแทน

ซูหว่านครุ่นคิดอยู่สักพัก รู้สึกว่าทำสบู่นมแพะย้อมสีได้อีกหนึ่งร้อยก้อน จะไม่ทำมากไปกว่านี้

“ตกลง เพิ่มให้ท่านอีกหนึ่งร้อยก้อน มาส่งอีกเจ็ดวันให้หลัง แต่นี่เป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้แล้ว!”

“ได้เลย ตกลงตามนี้ ข้าไปหยิบเงินมาให้!”

“เข้าใจแล้ว รอวันที่พวกเจ้าหาเงินได้ก้อนใหญ่ ข้าค่อยไปรีดไถกับเจ้า!”

ใช้คำว่ารีดไถอย่างชาญฉลาด ทำเอาซูหว่านกังวลสุด ๆ

ไม่ใช่ ฐานะแบบเขามารีดไถ เช่นนั้นกระเป๋าเงินของนางก็ตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือ?

ดังนั้น นางกระแอมเสียงพูดชี้แจ้ง

“อะแฮ่ม...บอกเอาไว้ก่อน อย่าคิดจะเรียกเงินเกินห้าตำลึง การค้าขายเล็ก ๆ ท่านรีดไถน้อย ๆ หน่อย!”

เจียงอวี้ขำหนักกว่าเดิม เสียงหัวเราะไร้เสียง ยกมุมปากยิ้มไม่ยอมหุบ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าบะหมี่ธรรมดาถ้วยหนึ่งอร่อยขึ้นกว่าปกติ

“ตกลง ไม่เกินห้าตำลึง!”

“ต้องแบบนี้สิ!” ซูหว่านยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เริ่มกินบะหมี่ของตัวเอง

อีกเดี๋ยวยังต้องไปร้านตัดเย็บเสื้อผ้า รับเสื้อผ้าที่พวกนางสั่งทำเอาไว้ แต่เพราะเจียงอวี้ต้องถือของมากมาย ดังนั้นทั้งสองคนยกแป้งหมี่และน้ำมันที่ซื้อมาไปที่ตาเฒ่าหงก่อน ค่อยย้อนกลับมารับเสื้อในเมือง

ซูหว่านยังคิดจะไปซื้อผ้า ทำชุดสำหรับฤดูหนาวให้พ่อกับแม่ แม่ซูทำเสื้อผ้าเป็น ไม่ต้องไปจ้างร้านตัดเย็บ ก่อนหน้านี้เพราะนางไม่อยู่บ้าน ซูหว่านจนปัญญาถึงได้เอาไปให้ร้านทำ ด้วยหลายเหตุผล เชื่อว่าแม่ซูชอบที่จะลงมือทำเองมากกว่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม