“เถ้าแก่ ข้าแค่ดู ๆ เท่านั้น ไม่ซื้อ!”
ซูหว่านยิ้มอย่างไร้เดียงสา อารมณ์ในดวงตาเปลี่ยนไปย่างรวดเร็ว หลังจากได้ยินราคา จากความชอบเปลี่ยนเป็นความตกใจ จนถึงขั้นสงสัย สุดท้ายกลับมาเป็นปกติ
นางอุ้มผ้ากับฝ้ายที่ซื้อถุงเล็กถุงใหญ่ ซูมู่ถือของเต็มสองมือในชั่วพริบตา
ออกมาจากร้านผ้า ทั้งสามคนก็ออกจากตัวเมืองกลับบ้าน บนเกวียนวัวของตาเฒ่าหงนอกจากพวกเขาสามคนแล้ว ยังเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย
“พี่รอง วันนี้ท่านกลับมาถูกจังหวะจริง ๆ ข้าซื้อเนื้อแกะมา คืนนี้บอกพี่สี่ทำหม้อไฟกินกัน!”
ซูอวิ๋นคิดค้นวิธีกินแบบลวก พูดง่าย ๆ ก็คือหม้อไฟ เย็นนี้เหมาะกับการลวกเนื้อแกะ
แต่ว่าเนื้อแกะสามจินนี้ ซื้อมาน้อยเกินไปไหม จะพอกินหรือเปล่า?
หากรู้ล่วงหน้าว่าพี่รองจะกลับบ้าน นางคงซื้อเพิ่มอีกสองจินแล้ว
“พี่สี่เจ้าคิดค้นวิธีกินแปลก ๆ ออกมาอีกแล้วหรือ?” ซูมู่เคยชินกับเรื่องนี้แล้ว
“อืม...คล้าย ๆ กับเนื้อต้มเกลือ แต่อากาศแบบนี้เหมาะกับการกินของอุ่น ๆ แบบนี้ เดี๋ยวซื้อเต้าหู้อีกสองก้อนจากตระกูลหลิวที่โม่เต้าหู้ในหมู่บ้าน หั่นเป็นแผ่นเอาไปลวกกินด้วยกัน!”
ระหว่างทาง ซูหว่านพูดจ้อเกี่ยวกับวิธีกินที่ซูอวิ๋นคิดค้นออกมาไม่หยุด เขาถึงขั้นใช้ซีอิ๊วบวกน้ำตาล คิดค้นวิธีกินหมูสามชั้นราดน้ำแดงออกมา ผ่านการปรับปรุงของซูหว่าน จากหมูสามชั้นราดน้ำแดงแบบแผ่นเปลี่ยนเป็นแบบชิ้นยิ่งดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น
ถึงเวลาเมื่อเปิดร้านอาหาร ก็เอาเป็นอาหารแนะนำได้
ซูมู่ฟังอยู่เงียบ ๆ โต้ตอบนางเป็นบางครั้ง เห็นนางเล่าอย่างมีชีวิตชีวา ปากเล็ก ๆ พูดเจื้อยแจ้วรัว ๆ ไม่หยุด เขาก็หัวเราะไปกับนางอย่างไม่รู้ตัว
ดูท่า พวกเขาพี่น้องอยู่ด้วยกันที่บ้านได้ค่อนข้างดี
ผ่านบ้านของยายไช่ เสี่ยวชุ่ยเล่นกับพวกลูกสุนัขที่เพิ่งเกิดไม่นานอยู่หน้าประตูบ้าน
นางเห็นเกวียนวัวคันหนึ่งขับอยู่บนถนน จึงลุกขึ้นยืดคอยาวไปดู อยากรู้ว่าใช่พวกพี่ซูหว่านหรือไม่ รอพวกเขาเข้ามาใกล้ ๆ เห็นว่าเป็นพวกเขาจริง ๆ เพราะเสียงของซูหว่านอ่อนหวาน แยกได้ง่าย
“พี่หวานหว่าน!” เสี่ยวชุ่ยเรียกชื่อออกมา
ทุกคนบนรถหันไปมองทางเสี่ยวชุ่ยอย่างพร้อมเพรียง ตาเฒ่าหงหยุดเกวียนวัวลงตามสัญชาตญาณ
“มีอะไรหรือเสี่ยวชุ่ย?”
ไม่ทันรู้ตัวก็มาถึงหน้าบ้านของยายไช่แล้ว จะซื้อไข่ไก่อยู่พอดี ดูว่าบ้านนางมีอยู่เท่าไหร่ จะได้ซื้อไปทั้งหมด
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้ามาซื้อไข่ไก่ ตอนนี้ท่านยายไช่มีอยู่เท่าไหร่ ข้าซื้อหมดเลย!” ซูหว่านไม่อยากให้ตาเฒ่าหงรอนานจึงไม่เข้าไป
“รอบนี้มีอยู่ยี่สิบฟอง ข้าไปเอามาให้ ช่วงนี้เจ้าซื้อบ่อย ไก่ที่บ้านข้าออกไข่ไม่ทันแล้ว!” ยายไช่ยิ้มไม่หุบ แล้วรีบกลับบ้านไปหยิบไข่ไก่ออกมา เห็นได้ชัดว่านางดีใจมากจริง ๆ
ซูหว่านถือไข่ไก่ขึ้นเกวียนวัว ให้พี่รองถือเอาไว้ อย่าชนจนแตก
นางจ่ายเงินค่าไข่ไก่ และถามราคาลูกสุนัขอีกครั้ง นางค่อนข้างถูกใจเจ้าตัวขาว อยากพามันกลับบ้าน แต่รับมาเฉย ๆ ก็เกรงใจ
“ยายไช่ลูกสุนัขนี่ราคาเท่าไหร่ ข้าซื้อกลับไปตัวหนึ่ง!”
“ไม่คิดเงิน เสี่ยวชุ่ยคิดจะให้เจ้า พูดมาหลายวันแล้ว ไม่ง่ายที่เจ้าจะมา หากไม่ใช่เจ้าช่วยเหลือธุรกิจของบ้านเรา ชีวิตความเป็นอยู่ของเราคงไม่ดีแบบนี้ เจ้าก็อย่าเอาแต่พูดเรื่องเงิน เกรงใจเกินไปแล้ว!”
มีแต่ยายกันหลานสองคน ที่บ้านไม่ได้เพาะปลูก อาศัยไข่ไก่จากแม่ไก่พวกนี้ดำรงชีวิต
พวกนางอยากแสดงน้ำใจ ซูหว่านทั้งจนใจและอบอุ่นใจ จึงทำได้แต่รับมา
“ก็ได้เจ้าค่ะ งั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว!” อุ้มเจ้าตัวขาวจากมือเสี่ยวชุ่ย บอกลากับยายไช่ก็เดินออกมา
กลับมาถึงบนเกวียนวัว ซูมู่และเจียงอวี้ต่างสนใจเจ้าตัวขาว ทยอยใช้มือลูบหัวของมัน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...